หมับ! ข้อมือเล็กของเธอถูกใครบางคนเข้ามาดึงเอาไว้ “ปล่อย!” ริสาพยายามแกะมือใบโพธิ์ออก แต่เขากลับรัดแน่นกว่าเดิม
“ร้องไห้ทำไม อีกหน่อยพ่อของคุณก็คงใจเย็นลง กลับไปหาท่านเถอะ” ชายหนุ่มเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเห็นริสาวิ่งร้องไห้ออกมา เขาจึงไม่รอช้ารีบวิ่งตามเธอมาได้ทันเวลา ก่อนที่หญิงสาวจะเรียกแท็กซี่ แต่ความเป็นจริงแล้วริสาไม่มีทางไปต่างหาก เพราะเธอไม่มีเงินสักบาท
“นายเป็นเพื่อนของเขตแดนใช่ไหม” เธอเอ่ยถามใบโพธิ์ออกไป ทั้งที่ทราบดีว่าเขาเป็นเพื่อนของน้องชาย
“ครับ”
“แล้วมายุ่งอะไรกับฉัน ถอยไป” หญิงสาวพูด พร้อมกับพยายามขัดขืน เมื่อใบโพธิ์กำลังฉุดให้เธอไปกับเขา
“อย่าดื้อสิ ถ้ายังไม่อยากเจอหน้าพ่อของคุณตอนนี้ ก็ตามผมมา” คำพูดของใบโพธิ์ทำให้ริสาจำใจเดินไปขึ้นรถกับเขาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แต่ทว่าความรู้สึกของหญิงสาวเวลาที่อยู่ใกล้ผู้ชายอย่างเขา หล่อนกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“เราจะไปไหนกัน” หล่อนเอ่ยถามเขาออกไปอย่างคนคุ้นเคย จนทำให้ใบโพธิ์แอบยกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ
“ผมไม่พาคุณไปเรียกค่าไถ่หรอกน่า เพราะพ่อของคุณเขาคงยกลูกสาวให้ผมฟรีๆ”
“นั่นปากหรือกรรไกร ถึงฉันจะง่าย แต่ก็ไม่ได้ร่าน” คราวนี้ริสาถึงกับน้ำตาร่วง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา จนใบโพธิ์รู้สึกผิดแทนที่เขาจะปลอบ แต่คำพูดไม่คิดของชายหนุ่มกลับกลายเป็นหอกแหลมคมทิ่มแทงใจเธอจนได้
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย”
“ช่างมันเถอะ แค่นายพาฉันออกมาจากโรงแรมนั้น ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” หญิงสาวพูดออกมา พลางปาดน้ำตาออกจากแก้มด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เมื่อภายในใจเริ่มหวั่นไหวกับการตัดสินใจหนีบิดาออกมาแบบนี้ แถมยังลืมหยิบกระเป๋าออกมาด้วย
“คุณกินอะไรมาหรือยัง”
“ฉันไม่หิว”
“รออยู่ในรถ เดี๋ยวผมมา แล้วอย่าคิดหนี ซื้อของเสร็จผมถึงจะเติมน้ำมัน” ใบโพธิ์พูดออกมาอย่างรู้ทัน เมื่อเขานั้นกลัวว่าริสาจะทำอะไรสิ้นคิด ถ้าน้ำมันหมดกลางทาง โดยเฉพาะที่เปลี่ยวๆ มีหวังเธอนั้น อาจจะโดนใครทำมิดีมิร้ายได้
เมื่อใบโพธิ์ลงไปจากรถ เขาจัดการซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น พร้อมทั้งชุดสำหรับริสาอีกด้วย ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์บ้าๆ แบบนี้ แต่ก็รู้สึกดี ที่ในเวลานี้เขาคือผู้ชายที่ได้อยู่ข้างกายริสา ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตามที
“มึงจะตกใจอะไรนักหนา แค่นี้นะ รอให้เธอสบายใจแล้วกูจะพากลับไม่ต้องห่วงหรอก”
“ขอบใจมากเพื่อน ค่อยสบายใจหน่อย ดูแลพี่กูดีๆ นะมึง”
“กูจะดูแลแบบว่า หาข้าวหาน้ำให้กิน อาบน้ำให้แล้วพาเข้านอนด้วยเลย โอเคไหมวะ!”
“มึงอย่ามาล้อเล่นนะไอ้ใบโพธิ์ พี่กูน่าสงสารมากรู้หรือเปล่า ยิ่งถ้านับกับสิ่งพี่ริสาเพิ่งเผชิญมาเมื่อคืน พี่กูก็ยิ่งดูน่าสงสารมากกว่าที่จะโดนใครทำร้ายทั้งกายและใจ บางทีเรื่องพ่อไม่รักลูกก็ไม่ได้มีแต่ในละคร แค่นี้นะกูต้องไปเคลียร์บันชีแล้ว ฝากดูแลพี่สาวกูด้วย”
“อืม แค่นี้แหละ” เมื่อวางสายจากเขตแดน ทำให้ใบโพธิ์รู้ว่าริสาไม่ใช่ผู้หญิงร้ายกาจอย่างที่เขาคิด ทุกอย่างบิดาของเธอต่างหากที่เป็นผู้วางแผน ซึ่งในตอนนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจเธอมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อมาถึงรถใบโพธิ์รีบเปิดประตูวางข้าวของไว้ที่เบาะหลัง ก่อนจะเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ เขาเพิ่งเห็นใบหน้าริสาชัดๆ ก็คราวนี้ เธอดูสวยไร้เดียงสาในเวลาหลับ แต่ทว่ารอยนิ้วมือที่บิดาฝากเอาไว้นั้น ยังคงมีรอยแดงให้เห็น บวกกับรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่ซอกคอของหญิงสาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับเธอ
ผู้หญิงตัวเล็กๆ ถูกบิดาและผู้ชายอีกคนที่เข้าใจผิด เขาเหมือนถูกซาตานร้ายเข้าสิงทำร้ายเธอได้ลงคอ ปลายนิ้วของใบโพธิ์ค่อยๆ เกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าของเธอออก ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงไปปรับเบาะ เพื่อให้หญิงสาวนอนได้ถนัดขึ้น จากนั้นชายหนุ่มจึงขับรถออกไปยังถนนใหญ่ จุดหมายปลายทางคือบ้านพักตากอากาศของเขตแดน ซึ่งกุญแจบ้านเพื่อนรักของเขาได้ทิ้งไว้ในรถคันนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน