เมื่อกวินกลับถึงบ้าน ท่านประธานหนุ่มดูมีสีหน้าที่เป็นกังวลใจ เมื่อเขานั้นได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งกวินก็คิดว่าใบบุญคงไม่ชอบใจเธออาจจะโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟ จนทำให้เขาและเธอเข้าหน้ากันไม่ติดไปหลายวัน
“คุณพ่อ!” ใบพลูถึงกับอุทานออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นบิดากลับมาไวกว่าที่คิด
“เป็นไง ดื้อกับแม่หรือเปล่าครับ มาขอพ่อกอดหน่อยซิ คิดถึงจังเลย จุ๊บ! จุ๊บ!” ท่านประธานหนุ่มอุ้มลูกสาวขึ้นมา พร้อมกับจุ๊บแก้มใสของสาวน้อยรัวๆ ด้วยความคิดถึง
“คุณพ่อกลับมาเร็วจัง ไหนบอกว่าจะไปหลายวันยังไงละค่ะ” หนูน้อยช่างเจรจาเอ่ยถามบิดาออกไปด้วยความสงสัย
“ก็เพราะว่าพ่อคิดถึงหนูใบพลูไงล่ะครับ แล้วแม่อยู่ไหน แล้วคนอื่นๆ ล่ะไปไหนกันหมดทำไมหนูถึงได้มานั่งวาดรูปอยู่คนเดียว” กวินกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่พบใครเลย แม้แต่ภรรยาจึงทำให้ท่านประธานหนุ่มเอ่ยถามลูกสาวออกมาด้วยความสงสัย
“คุณแม่ไม่ค่อยสบายนอนอยู่บนห้องค่ะ ส่วนพี่ใบบัว เพิ่งเดินเข้าไปในครัว เพื่อหยิบของว่างมาให้ใบพลู ป้าจิตรกับพี่ไอซ์เห็นบอกว่าจะไปตลาดค่ะ” หนูน้อยตอบบิดาออกมาอย่างฉะฉานสมกับเป็นลูกสาวของท่านประธานเสียจริง
“อ้าว! กลับมากันแล้วเหรอคะ พี่ใบบุญนอนอยู่บนห้องค่ะ เห็นบอกว่าเวียนหัว แต่ไม่ยอมไปหาหมอ ใบพลูมากินของว่างเร็ว” ดูเหมือนว่าใบบัวต้องการให้พี่เขยขึ้นไปดูพี่สาวของเธอ จึงรีบเรียกใบพลูมารับประทานของว่าง
“ถ้าอย่างนั้น ใบพลูทานของว่างไปนะลูก พ่อขอตัวไปดูแม่ก่อน”
“ค่ะคุณพ่อ เมื่อคืนแม่อ้วกด้วยนะคะ”
“จริงเหรอ แม่ไปทานอะไรมาเนี่ย พ่อไปดูแม่ก่อนนะครับคนเก่ง”
“ค่ะ” เมื่อสนทนากับลูกสาวเป็นที่เรียบร้อย กวินจึงเดินขึ้นไปบนห้อง
เขาค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปภายในห้องนอนที่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา เพียงแค่เห็นหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ ทำให้ท่านประธานหนุ่มถึงกับแอบยกยิ้มที่มุมปาก เพราะเขาคิดถึงเธอใจแทบขาดขนาดห่างกันเพียงไม่กี่วัน
“ตัวร้อนหรือเปล่าเนี่ย” เมื่อเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก กวินพูดพร้อมกับเอาหลังมืออังลงไปที่หน้าผากของภรรยา เพียงแค่เขาแตะหลังมือลงไปเบาๆ สัมผัสที่ได้รับทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวงัวเงียตื่นขึ้นมา
“คุณกวิน ถอยไปเลยนะ เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว” แม้ว่าหญิงสาวเพิ่งตื่นนอน พร้อมกับเอามือขยี้ลงไปที่ตาเบาๆ อย่างงัวเงีย แต่ก็ไม่ลืมที่จะดุกวินออกไป
“โกรธผมเหรอครับคนดี หืม จุ๊บ! หายโกรธนะ”
“ใครอนุญาตให้คุณจูบฉัน ถอยไปเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเขวี้ยงด้วยคมไฟนี่เลย ลองดูไหมละ”
“โธ่เมียจ๋า ใจเย็นสิครับ ทำไมคุณดุจัง ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” คราวนี้กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ราวกับใบบุญเป็นเจ้าของผู้กำหนดชีวิตของเขา
“ใบโพธิ์โทรมาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว คุณเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่ดอกไม้เหรอคะคุณกวิน ถึงคิดว่าใครจะเชยชมพอเด็ดดมแล้วก็ทิ้งไปยังไงก็ได้ ลูกเขามีพ่อมีแม่ทำไมไม่รู้จักห้ามกัน แล้วยังส่งเสริมราวกับว่าคุณริสาเป็นสิ่งของที่ใครจะจับจองครอบครอบยังไงก็ได้” ใบหน้าของใบบุญดูจริงจังมาก จนกวินเริ่มขยาดหวาดกลัวภรรยา
“ก็ตอนนั้นผมเมามาก แต่ไม่ได้เมาเหล้า เหมือนผมดื่มสิ่งปนเปื้อนอะไรสักอย่างเข้าไป จากนั้นผมก็หลับเป็นตายเลย” กวินพยายามอธิบายให้ภรรยาได้เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
“แต่ก่อนหน้านั้นคุณก็ยังมีสติ ฉันจะไม่ถามว่ามันคือความคิดของใคร คุณเป็นผู้ใหญ่แต่ทำไมยังสนับสนุนให้ใบโพธิ์ทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้นลงได้ ทำไมผู้ชายถึงเห็นผู้หญิงเป็นเป็นเพียงแค่ของเล่น รักสนุกแล้วยังไม่คิดป้องกัน”
“โอ้โฮ! รู้ลึกละเอียดยิบกว่าผมอีกนะคุณเนี่ย”
“เงียบไปเลยนะ ฉันกำลังพูด คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น” มันคือครั้งแรกที่ท่านประธานหนุ่มเห็นภรรยาพูดจาเกรี้ยวกราด แล้วยังชี้หน้าเขาอีกอีกต่างหาก แสดงออกให้รู้ว่าเธอกำลังโกรธเขามากๆ นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าเหนือท่านประธานก็คงเป็นภรรยาของท่านประธานนี่แหละ ฉะนั้นคนเป็นใหญ่สุดในบ้านคงไม่พ้นหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังนอนทำหน้างอใส่ชายตัวโต อย่างไม่ยอมรับฟังคำอธิบายจากเขาเลยสักคำ
“ฉันไม่อยากให้ใครเจอเหตุการณ์เหมือนกับที่ฉันเคยเจอมา” คราวนี้ใบบุญพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาซึม เมื่อเธอกำลังนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งผู้หญิงคนอื่นอาจจะไม่โชคดีเหมือนเธอก็เป็นได้
“ผมขอโทษ”
“คำขอโทษอย่าใช้บ่อยนักนะคะ เพราะมันจะดูไม่มีค่าและไม่น่าเชื่อถือ”
“ที่รักผมรู้นะว่าคุณโกรธ แต่จะให้ทำยังไง ผมต้องขอบคุณน้องชายของคุณด้วยซ้ำ ที่เขาเข้ามาช่วยให้ผมได้หลุดพ้นจากแผนการของคุณคชาได้” คราวนี้กวินได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เพื่อให้ภรรยาเข้าใจจะได้อภัยให้กับเขาและใบโพธิ์
พูดจบกวินได้เดินออกไปจากห้องนอนด้วยความรู้สึกน้อยใจภรรยา ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปจากบ้านด้วยความเร็วสูง ปล่อยให้ใบบุญนอนร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง เมื่อหญิงสาวกำลังกลัวว่าน้องชายของเธออาจจะถูกบิดาของริสา สั่งให้คนมาดักทำร้ายได้ ถ้าหากชายสูงวัยรู้ว่าใบโพธิ์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา เพราะเธอพอจะรู้ถึงกิตติศัพท์ของนายชยาเป็นอย่างดี เขาไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาแต่ยังมีด้านมืดที่หลายคนยังไม่ทราบ
ภายในรถยนต์คันหรูกวินยังคงมีใบหน้าเครียด เมื่อเขาพยายามอธิบายยังไงใบบุญก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับฟัง เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้
“ขับเร็วจัง ใบพลูกลัว เราจะไปไหนกันค่ะคุณพ่อ” หนูน้อยเอ่ยถามบิดาออกมาด้วยความสงสัย หลังจากที่กวินขับรถออกมาได้พักใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มรีบผ่อนความเร็วลงด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเขาคิดว่าไม่ควรเอาชีวิตของลูกสาวเข้ามาเสี่ยงด้วย
“พ่อขอโทษที่ขับเร็ว ขอโทษนะครับ เรากำลังไปบ้านลุงเอเดน หฯจะได้ไปเล่นกับน้องไอด้าด้วยไง” กวินยังคงตอบลูกสาวออกไปด้วยใบหน้าที่ฝืนยิ้มสุดกำลัง เพราะลูกสาวคือกำลังใจที่จะทำให้เขาสามารถต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นได้
“แสดงว่าใบพลูก็ต้องเจอกับออสตินสิค่ะ” คราวนี้ใบพลูถึงกับหน้าบึ้ง ทั้งที่ทั้งคู่เจอกันบ่อยๆ แต่ก็ชอบทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอ จนกวินเองก็แปลกใจปกติแล้วเด็กไม่น่าจะโกรธกันข้ามวันข้ามคืน
“ทำไมล่ะ หนูไม่ชอบออสตินเหรอครับ”
“ออสตินชอบอวดเก่ง เอาแต่ใจ คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าห้องรึไงใบพลูไม่ชอบเขาค่ะ” หนูน้อยทำหน้ามุ่ย เมื่อพูดถึงออสติน จนกวินอดที่จะยิ้มให้กับความหน้างอของลูกสาวไม่ได้
“งอนเก่งเหมือนแม่เลยนะเราเนี่ย”
“แล้วทำไมแม่ไม่มากับเราด้วยค่ะ”
“แม่กำลังนอนพัก พ่อเลยไม่อยากกวน เอาไว้วันหลังค่อยพาแม่มาด้วยดีไหมครับ”
“ดีเลยค่ะ แม่ก็เอาแต่ทำงานไม่ยอมพักผ่อน” คราวนี้ใบพลูเริ่มทำหน้าหงิกงอขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมารดายังคงเอาแต่ทำงาน จนไม่มีเวลาให้เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
“ตัวแค่นี้ นอกจากงอนเก่งแล้วยังบ่นเก่งอีกนะเราเนี่ย” กวินอดที่จะพูดแหย่ลูกสาวออกไปไม่ได้ เมื่อเขารู้สึกสัมผัสได้ถึงความเฉลียวฉลาดของใบพลู ยังไงวันนี้เขาก็ต้องหาวิธีทำให้ใบบุญหายโกรธให้ได้ เธอพูดถูกเขาเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน