ซูหนานอีใจสั่นขึ้นมา มือจับผ้าเอาไว้อย่างแน่น พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็นๆ
"เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?จิ่งเอ้อร์ลองเล่าให้ข้าฟังเถอะ"
หยุนจิ่งกระพริบตาครุ่นคิดขึ้นมา"ก็คือในฤดูร้อนของปีที่แล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในสวนของข้าเอง เป็นตอนที่ข้าไปเที่ยวภูเขาหลิ่งหนาน ได้พบงูพิษมากมายในตอนนั้น เสด็จแม่ยังกลัวจนสลบเลย"
ซูหนานอีรู้สึกไม่เข้าใจ"ภูเขาหลิ่งหนานห่างกับเราไกลขนาดนั้น แถมยังเป็นที่ร้อนชื้น มีควันพิษอยู่ตลอดปี ทำไมไท่เฟยถึงอยากไปเที่ยวนั่นล่ะ?"
หยุนจิ่งจับจมูกของตัวเอง"ภรรยารู้เยอะจังเลย ข้าก็คือถึงตอนนั้นแล้วถึงรู้ แต่ทำไมเสด็จแม่จะไป......ข้าก็ไม่รู้แล้ว"
ซูหนานอีรู้สึกว่าในนี้ต้องมีเหตุผลอยู่แน่นอน แต่หยุนจิ่งไม่ค่อยเข้าใจ นางก็ไม่ดีที่จะถามต่อ
"แล้วถุงหอมของเจ้า ก็คืออันนี้เจ้าให้ข้ามา ได้สวมใส่มาแต่เมื่อไหร่?นานขนาดไหนแล้ว?"
"ก็คือก่อนที่จะไปภูเขาหลิ่งหนานไง"หยุนจิ่งตอบอย่างไม่ได้คิด"หยุนหลิ่วบอกว่านางได้ใส่ยาที่กำจัดแมลงลงไป เพียงแต่สามารถกำจัดแมลงยังทำให้คนมีชีวิตชีวาด้วย"
"ภรรยา เจ้ายังอยากได้หรือ?"หยุนจิ่งมองไปที่ซูหนานอี"ถ้าเจ้าอยากได้ พรุ่งนี้ข้าให้นางทำอีกหลายอัน"
ซูหนานอีส่ายหน้า หยิบถุงหอมออกมา ยื่นให้หยุนจิ่ง"จิ่งเอ้อร์ อันนี้ให้เจ้า ภายนอกยังคงเป็นถุงหอมอันนั้น แต่ยาข้างในข้าได้เปลี่ยนไปแล้ว เจ้าเอาติดตัวไว้ ห้ามบอกให้คนอื่นทราบ เข้าใจไหม?"
"ได้"หยุนจิ่งรับมาอย่างทะนุถนอม ดมกลิ่นของมันแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข"ภรรยา กลิ่นนี้หอมมากเลย เหมือนกลิ่นบนร่างกายของเจ้าเลย ข้าจะติดตัวไว้อย่างดีแน่นอน"
ระหว่างที่เขาพูดก็ได้ผูกไว้ข้างเอว แถมยังใช้มือไปมือตบเบาๆ"ดีไหม?"
"ดี ข้ามองแล้วรู้สึกว่ามันดีอยู่"
"สิ่งที่ภรรยาให้ต้องดีแน่นอน"
ซูหนานอีได้คุยกับหยุนจิ่งอีกสักพักหนึ่ง เวลาพอประมาณแล้วนางถึงลุกขึ้นมาลากับเขา หยุนจิ่งดึงนางเอาไว้"ภรรยา เมื่อไหร่เจ้าถึงสามารถมาอยู่ที่จวนอ๋อง ข้าจะได้สามารถเจอเจ้าตลอดเวลา"
"รอถึงฤดูใบไม้ร่วงเราแต่งงานกันแล้วก็จะได้"ซูหนานอีพูดอย่างอ่อนโยน ปลอบใจเขาอย่างใจเย็น"จิ่งเอ้อร์อย่าเพิ่งรีบนะ"
"ได้ งั้นข้าส่งภรรยาออกไป"หยุนจิ่งพูดอย่างอาลัยอาวรณ์
"ไม่ต้อง ตอนที่ข้ามาไม่ได้บอกคนอื่น เรายังไม่แต่งงานกัน ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราสองคนเจอกันในตอนกลางคืน ไม่อย่างงั้นจะมีคนห้ามเราแต่งงานกัน"
หยุนจิ่งขมวดคิ้ว ปรากฏความโกรธออกมา"พวกเขากล้าที่ไหน!"
"กล้าไม่กล้าเป็นเรื่องของคนอื่น ดังนั้นเราต้องทำให้ดี อย่าทำให้คนอื่นจับผิดได้"
ซูหนานอีค่อยๆปลอบใจ"จิ่งเอ้อร์อย่าโกรธนะ ข้าแค่บอกว่ามีความเป็นได้แบบนี้ ขอให้เราไม่ทำผิดคนอื่นก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"
"เออ จิ่งเอ้อร์จำได้แล้ว ภรรยาไม่ต้องห่วง"
ซูหนานอีมองไปที่แท่งไม้แล้วพูดว่า"จิ่งเอ้อร์รีบพักผ่อน อย่าทำกล่องน้ำแข็งนี้อีกเลย ไม่งั้นแม้ว่าข้าใช้อันนี้แล้วก็ไม่มีความสุข"
หยุนจิ่งพยักหน้าอย่างตั้งใจ ซูหนานอีลากับเขา เดินออกไปอย่างเร็ว และจากไปพร้อมกับเสี่ยวชี
หยุนจิ่งเห็นว่านางจากไปแล้วจริงๆ รู้สึกเสียใจมาก แล้วเริ่มเก็บของบนพื้นอย่างชักช้า
พอดีในเวลานี้ ได้ยินคนใช้พูดในลานว่า"แม่นางเชิญกลับก่อนเถอะ ท่านอ๋องพักผ่อนแล้ว"
เสียงของหยุนหลิ่วอ่อนโยนมาก"ข้าเห็นว่าไฟยังสว่างอยู่ ทำไมถึงบอกว่าพักผ่อนแล้วล่ะ?และอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าพักผ่อนแล้วก็ไม่เป็นไร ข้าแค่เอาน้ำแข็งมาให้ท่านอ๋อง อากาศร้อนขนาดนี้ อย่าเป็นลมนะ"
คนใช้พูดว่า"แม่นางมีใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เอาน้ำแข็งให้ข้าเถอะ มันก็หนักอยู่"
"ได้ยังไงล่ะ?"หยุนหลิ่วไม่ยอม"ข้าต้องเอาเข้าไปเอง ให้ท่านอ๋องใช้ถึงวางใจได้"
คนใช้ก้มหน้าไว้ ไม่ได้คิดจะหลบทางให้ หยุนหลิ่วปรากฏความแค้นขึ้นมา แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับลึกกว่าเดิม"ยังไง?เจ้ายังกลัวว่าข้าจะทำร้ายท่านอ๋องหรือ?เจ้าอย่าลืมนะ ข้าเป็นผู้มีบุญคุณต่อท่านอ๋อง"
เหยียนโมโม่กับหยุนหลิ่วเดินออกจากเรือน พอถึงบริเวณประตูรูปดวงจันทร์ หยุนหลิ่วทำความเคารพใส่และพูดว่า"โมโม่ ข้ากลับก่อนนะเจ้าค่ะ ท่านระวังหน่อยนะเจ้าคะ"
"ได้ ท้องฟ้ามืดแล้วแม่นางก็ระวังด้วย"
หยุนหลิ่วยิ้ม พอเห็นว่าเหยียนโมโม่เริ่มเดินไปไกลแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็หายไปทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขรึม ไอ้แก่ เป็นแค่ทาสรับใช้เท่านั้น ยังนึกว่าตัวเองเป็นเจ้านายหรือ?
เหยียนโมโม่กลับมาถึงเรือน สั่งให้คนรอบข้างล้วนถอยลงไปก่อน และพูดกับไท่เฟยว่า"ไท่เฟย บ่าวกลับมาแล้ว"
ไท่เฟยลืมตาขึ้นมา"ฝั่งของจิ่งเอ้อร์เป็นยังไงบ้าง เป็นไรหรือเปล่า?"
"ไม่เป็นไรเพคะ คนใช้รอบข้างของท่านอ๋องใช้ได้อยู่ ไม่ได้ให้แม่นางหลิ่วเข้าไป บ่าวเห็นว่า แม่นางหลิ่วคนนี้มีสิ่งที่อยากได้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว"
ไท่เฟยยิ้ม แต่รอยยิ้มไม่ค่อยจริงจัง"สิ่งที่นางอยากได้มีมากกว่านี้ตั้งเยอะตั้งแยะ เดิมทีข้าคิดว่า หาคนดีๆให้นาง เตรียมสินเดิมให้นางมากพอสมควร และให้นางแต่งออกไปจากจวนอ๋อง นี่ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของนางแล้ว แต่ดูจากตอนนี้แล้ว นางเหมือนอยากจะอยู่ต่อในจวนอ๋องนี้แล้ว"
เหยียนโมโม่ก้มหน้าทำความเคารพ"เพคะ ไท่เฟยใจดี วางแผนให้นางอย่างดี แต่นาง......จะให้บ่าวไปตักเตือนนางหรือเปล่าเพคะ?"
"ไม่ต้องแล้ว"ไท่เฟยถอนหายใจออกมา"ช่างมันเถอะ อายุดีๆของผู้หญิงก็มีแค่ปลายปีนั้นเอง นางไม่รักษาให้ดีเอง ทำไมข้าต้องรีบร้อนล่ะ ช่างเถอะ"
เหยียนโมโม่หยุดสักพักหนึ่ง น้ำเสียงลดต่ำลง"วันนี้นางได้ไปเรือนนั้นอีกแล้ว*
สีหน้าของไท่เฟยเย็นชาลงทันที"ใช่หรือ?ไอ้หญิงเลวคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?ดูให้ดีๆนะ อยากให้นางตายไป กล้าทำร้ายจิ่งเอ้อร์ของข้า จะให้นางตายไปง่ายๆได้ยังไง"
"เพคะ ไท่เฟยพูดถูกเพคะ*
ไท่เฟยหลับตาลง"ฝั่งของหยุนหลิ่วไม่ต้องไปสนใจ ขอให้นางไม่ทำเรื่องที่มันเกินไป เห็นแก่หน้าที่นางเคยช่วยจิ่งเอ้อร์ของข้า ก็ปล่อยนางเถอะ"
"เพคะ"
ค่ำคืนอันมืดมิด จวนอ๋องที่กว้างใหญ่ก็ค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบ แต่อันที่จริงแล้วยังมีอันตรายซ่อนอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ