เช้าวันรุ่งขึ้น ซูหนานอีอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกำลังกินข้าวมื้อเช้าอยู่ เสี่ยวเถาวิ่งเข้ามาจากข้างนอก กระซิบในข้างหูของนาง"คุณหนูเจ้าคะ เพิ่งได้รับข่าวว่า นักพรตจิน......ตายแล้ว"
"อ้อ?"ซูหนานอีวางตะเกียบลง"พบเจอที่ไหน?"
"ได้ข่าวว่าในศาลาพักม้าแห่งหนึ่งนอกเมือง ถูกแทงหลายครั้ง มีเลือดไหลออกมามากมาย แต่กระเป๋าที่อยู่ติดตัวไม่ได้หาย ของมีค่าข้างในก็ยังมีอยู่ ท่านเจ้าเมืองบอกว่า ไม่เหมือนเป็นการฆ่าเพื่อขโมยทรัพย์"
ซูหนานอีตกใจ"ท่านเจ้าเมืองยังทราบเรื่องนี้ด้วยหรือ?"
"ใช่เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถาพยักหน้า"ได้ข่าวว่าไปหาคุณหนูของตระกูลหลี่ แต่ในที่สุดกลับได้พบเรื่องนี้"
ซูหนานอีเหมือนคิดอะไรอยู่ โบกมือและพูดว่า"เสี่ยวเถา เจ้าไปเฝ้าข้างนอก ห้ามให้คนอื่นเข้ามา ข้ามีบางอย่างจะคุยกับเสี่ยวชี"
"เจ้าค่ะ คุณหนู"
เสี่ยวชีเดินหน้าขึ้นไป ซูหนานอีถามว่า"เมื่อวานเจ้าไปส่งข่าวสาร เขาพูดยังไง?"
"เขาบอกว่าขอบพระคุณคุณหนู ยังบอกว่าให้บ่าวไม่ต้องติดตาม ถึงจะไม่มีความข้องกับคุณหนูเจ้าค่ะ"
ซูหนานอีขมวดคิ้ว"ข้าไม่ได้กลัวว่าจะเดือดร้อนหรอก ในเมื่อกล้าบอกเขา ก็ไม่กลัวสิ่งพวกนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าท่านเจ้าเมืองจะรู้เร็วเช่นนี้ ไม่สามารถว่าเขารอดมาหรือยัง"
"งั้นบ่าวไปดูดีไหมเจ้าคะ?"
ซูหนานอีเดินไปถึงข้างโต๊ะหนังสือ หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนจดหมายซองหนึ่ง"เจ้าไปตามหาเขา ถ้าหาเจอเขาก็พาเขากลับเรือนนั้น เอาจดหมายนี้ให้เขาด้วย"
"เจ้าค่ะ"
เสี่ยวชีเพิ่งเดินมาถึงลานบ้าน เสี่ยวเถาก็วิ่งเข้ามา"คุณหนูเข้าคะ คนใช้ข้างนอกบอกว่า ท่านเจ้าเมืองมาที่บ้านเจ้าค่ะ นายท่านไม่อยู่บ้าน เชิญท่านไปตอบเจ้าค่ะ"
"จะพบกับข้าหรือ?"ซูหนานอีรู้สึกแปลกใจ
เสี่ยวชีหันกลับมามองซูหนานอี ซูหนานอีโบกมือ"รีบไปเถอะ"
เสี่ยวเถากระซิบถามว่า"คุณหนู ท่านจะไปหรือเปล่าเจ้าคะ?"
"แน่นอน"ซูหนานอีพยักหน้า"มาหาถึงบ้านแล้ว ไม่พบก็ไม่ดีแล้ว เปลี่ยนเสื้อเถอะ"
ซูหนานอีก้มหน้ามองเสี่ยวเถาที่กำลังจัดระเบียบกระโปรงให้นางอยู่"เสี่ยวเถา ไม่ต้องกลัว ท่านเจ้าเมืองแค่มาสอบถามสถานการณ์เท่านั้น ถ้าเจ้าแสดงตัวอย่างกังวล จะถูกเขาสังเกตได้นะ"
เสี่ยวเถาเบิกตากว้างและปิดปาก พยักหน้าอย่างเร็ว
"ไปเถอะ"
ท่านเจ้าเมืองจ้าวในฐานะที่เป็นเจ้าเมืองของเมืองนครหลวง อายุประมาณสี่สิบนิดๆ เป็นคนซื่อตรง ใส่ชุดราชการสีแดง สีหน้าค่อนข้างดำไปหน่อย สายตาแหลมคม มีหนวดอยู่
ช่วงนี้เขายุ่งมากๆ หลังจากดำรงตำแหน่งแล้วก็ได้จัดการคดีที่กองไว้ในเมื่อก่อน ยังไม่ทันได้พักผ่อนเลย ก็เกิดคดีการสูญหายของหญิงสาว จากนั้นหาเจอสาวใช้ของคุณหนูหลี่ เดิมทีคิดจะไปหาร่องรอยที่ที่เกิดเหตุอีก แต่ระหว่างทางก็ได้เจอกับคดีที่นักพรตจินถูกฆ่าอีก
เขานั่งดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถง คิดเรื่องที่ยุ่งเหยิงเล่านี้ และค่อยๆเรียบเรียงความคิด
จู่ๆก็ได้ยินเสียงเดิน เขาหันไปมอง เห็นแต่ซูหนานอีพาเสี่ยวเถาเดินมา
ซูหนานอีได้ใส่กระโปรงสีน้ำเงิน เดินช้าๆ ชายกระโปรงไม่ได้เคลื่อนไหว เอวตรง เดินทีละก้าวอย่างมั่นคงและสง่างาม
ท่านเจ้าเมืองจ้าวใช้มือจับเคราค่อยๆสังเกต แม้ว่าได้เป็นข้าราชการมานานเคยเห็นคุณหนูของตระกูลใหญ่โตต่างๆ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่าคุณหนูซูคนนี้มีบุคลิกที่ดีงาม
เจ้าเมืองจ้าวลุกขึ้นมา ซูหนานอีขึ้นไปทำความเคารพ"เจ้าเมืองจ้าว ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับนะเจ้าค่ะ"
"คุณหนูซูไม่ได้เกรงใจหรอก คือข้ามาอย่างกระทันหัน"เจ้าเมืองจ้าวยิ้มขึ้นมา เขาเป็นคนที่เข้มงวดอยู่ตลอด สามารถยิ้มออกมาก็ถือว่าไว้หน้าแล้ว
ความสงสัยในสายตาของเจ้าเมืองจ้าวก็ยิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ จับเคราไว้ไม่ได้พูดอะไรเลย
ซูหนานอีก้มหน้าลง ในสายตาปรากฏความเจ้าเล่ห์ขึ้นมา คิดอยู่ในใจว่า เจ้าเมืองจ้าว ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้า แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา มีเรื่องบางอย่างเจ้าต้องไปตรวจเอาเอง
เจ้าเมืองจ้าวอยู่ไม่นิ่งแล้ว ลุกขึ้นมาทันที"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอบคุณที่คุณหนูซูบอกมาตรงๆนะ ข้ายังมีธุระอยู่ ไปก่อนนะ"
ซูหนานอีทำความเคารพใส่เขา"ท่านเจ้าเมืองจ้าว ข้าไม่รู้เรื่องราชการพวกนี้ แล้วก็ไม่ทราบเรื่องภายนอกด้วย หากพูดอะไรผิด รบกวนท่านให้อภัยด้วย ข้ารู้ว่าท่านเป็นเจ้าเมืองของนครหลวง ก็เลยพูดออกมาทุกอย่างเท่าที่ข้ารู้ แต่......หากมีอะไรพูดผิดหรือไม่ควรพูด ก็ต้องขอให้ท่านเจ้าเมืองช่วยปิดบังให้หน่อย ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อต้องเดือดร้อนเจ้าค่ะ"
เจ้าเมืองจ้าวตะลึง สังเกตนางอีกหลายตา"คุณหนูซูไว้ใจได้ เรื่องของคุณหนูหลี่ ข้าจะไม่เปิดเผยออกไป"
"ขอบคุณท่านเจ้าเมืองเจ้าค่ะ"
ซูหนานอีให้คนใช้ส่งเจ้าเมืองจ้าวออกจากจวน จากนั้นถึงค่อยๆกลับเรือนของตัวเอง
เจ้าเมืองจ้าวออกจากประตูจวน แต่ก็ยังหันไปมองอีก มือจับเคราไว้แอบคิดอยู่ว่า คุณหนูซูคนนี้สนุกดี เป็นคนฉลาด พูดเก่งด้วย แถมยังไม่ค่อยกลัวเขาในฐานะที่เป็นเจ้าเมือง
แม่นางน้อยคนนี้สนุกดี แต่เสียดาย......ได้ข่าวว่าหมั้นกับท่านอ๋องเป่ยลี้แล้ว
เขาจับหมวกราชการของตัวเองให้ดี ทิ้งความคิดที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ออกไปหมด ขึ้นไปบนเกี้ยวและสั่งว่า"ไปตระกูลหลี่"
คนยกเกี้ยวก็เปลี่ยนทิศทาง เพิ่งเดินออกจากปากซอย จู่ๆก็มีเสียงโวยวายส่งมาจากข้างนอก คนยกเกี้ยวยืนไม่สนิทเกือบจะล้ม เจ้าเมืองจ้าวอยู่ในเกี้ยวก็เขย่าไปด้วย เกือบจะไปโดยหัว
"เกิดอะไรขึ้น"
คนข้างนอกรีบประคองเอาไว้ ส่วนคนใช้ก็พูดอยู่ข้างๆ"ท่ายเจ้าเมือง ท่านเป็นไรหรือเปล่าขอรับ?ข้างหน้าไม่รู้ว่าเป็นเหตุใดถึงเกิดความวุ่นวายขึ้นขอรับ"
"หยุดสิ!"
พอเพิ่งพูดเสร็จ ข้างหน้าก็มีเสียงกรีดส่งมาหลายเสียง มีคนหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าเกี้ยว"ท่านเจ้าเมือง ช่วยด้วย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ