ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 132

ในห้องโถงชั้นใน หมอหลวงนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะ ราวกับว่ากำลังสั่งยา จักรพรรดิหนิงนั่งอยู่ที่ขอบเตียง จับมือสนมจิ่นไว้แน่น หยุนชางเรียก "เสด็จพ่อ" และเดินเข้าไป

ใบหน้าของพระสนมจิ่นซีดเล็กน้อย และดวงตาของนางดูเหมือนจะอยู่ในภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงของหยุนชาง นางจึงหันไปมองที่หยุนชาง "ชางเอ๋อร์มาแล้วหรือ เสด็จแม่ไม่เป็นไร"

เจิ้งมามาที่อยู่ข้างๆ รีบไปนำเก้าอี้ให้หยุนช้าง และกล่าวว่า "องค์หญิง เหนียงเหนียงมิเป็นไรเพคะ เพียงแค่ตกพระทัย เด็กมิเป็นไร องค์หญิงมิต้องกังวลเพคะ"

ทักษะทางการแพทย์ของเจิ้งมามาหยุนชางรู้ดี และเมื่อนางพูดเช่นนี้ คิดว่าคงจะไม่ร้ายแรง ความกังวลในใจของนางจึงวางลงได้ "ไม่เป็นไรก็ดีแล้วเพคะ เมื่อครู่ตอนที่กงกงมาแจ้งทำเอาชางเอ๋อร์ตกใจมาก"

จักรพรรดิหนิงยังคงขมวดคิ้ว และจับมือพระสนมจิ่น ทรงตรัสว่า "ข้าได้ยินจากหัวหน้าเจิ้ง เมื่อครู่เจ้าไปพบกงกงที่ยกเกี้ยวนั่งมังกร ได้ความอย่างไรบ้าง?"

หยุนชางผงะเล็กน้อย คำถามนี้คือกำลังถามตน แต่...

หยุนชางลังเล แม้ว่าพระองค์จะเป็นเสด็จพ่อของนาง แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเสด็จแม่ ตนจะเชื่อพระองค์ได้หรือไม่? หยุนชางมองไปทางสนมจิ่น แต่เห็นสนมจิ่นยิ้มเบาๆ ดูเหมือนให้กำลังใจเล็กน้อย หัวใจของหยุนชางก็เปิดออก ใช่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร หัวใจของเสด็จพ่อก็รักเสด็จแม่แน่ นอกจากนี้ ตอนนี้เสด็จแม่ยังมีลูกของพระองค์ในท้องอยู่

"ก่อนหน้านี้ ตอนที่หม่อมฉันกลับจากตำหนักจินหยวนไปยังตำหนักชิงซิน หม่อมฉันเกือบจะหกล้มในอุทยานหลวง หม่อมฉันได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าสิ่งทำให้หม่อมฉันเกือบจะหกล้ม เป็นตะไคร่น้ำ… แต่ไม่ใช่ตะไคร้น้ำที่ขึ้นบนหิน… หม่อมฉันได้ไปตรวจสอบเป็นพิเศษ จากอุทยานหลวงถึงกลางศาลาวันเยว่ จะมีตะไคร่อยู่ทุกๆระยะทาง แต่เดิมหม่อมฉันมิได้สนใจอะไร เมื่อครู่ได้ยินกงกงบอกว่า เกี้ยวนั่งมังกรของเสด็จพ่อและเสด็จแม่คือล้มในอุทยานหลวง ก็เกิดความสงสัย จึงพากงกงที่ยกเกี้ยวนั่งมักรไปตรวจสอบสถานที่ที่เกิดเหตุ หม่อมฉันพบรอยลื่นบนพื้น และบนรอยลื่นก็มีเส้นใยสีเขียว แต่ว่า ตะไคร้น้ำที่หม่อมฉันเห็นในก่อนหน้านี้ กลับไม่พบร่องรอยแล้วเพคะ..." หยุนชางพูดเบาๆ น้ำเสียงของนางอ่อนโยนแต่มีความสงสัยอยู่บ้าง

แม้ว่าประสบการณ์การครองบัลลังก์ของจักรพรรดิหนิงจะไม่ระหกระเหินนัก แต่พระองค์เติบโตขึ้นมาในวัง และเห็นสิ่งต่างๆมากมาย เมื่อได้ยินสิ่งที่หยุนชางพูด พระองค์ก็ทรงทราบประเด็นสำคัญ "คือมีคนที่จงใจให้ซูจิ่นหกล้ม หลังจากซูจิ่นล้ม ก็มีคนมากำจัดร่องรอยออกไป"

หยุนชางพยักหน้า "ถ้าหม่อมฉันไม่ล้มในครั้งนั้น และไม่สังเกตเห็นตะไคร่น้ำบนพื้น เกรงว่าจะไม่มีใครรู้เลย ว่าเคยมีตะไคร่น้ำอยู่ตรงนั้น หากเป็นเช่นนั้น แม้ว่าเราจะสืบหายังไงก็ตาม ก็ยากที่จะหาเบาะแสได้เพคะ"

จักรพรรดิหนิงหันศีรษะและมองดูลูกสาวของตน ที่ไม่เคยเข้าใจอย่างจริงจังมาก่อน ผ่านไปสักครู่จึงตรัสถามว่า "เรื่องนี้ ถ้าให้เจ้ามาตรวจสอบ เจ้าจะทำเช่นไร"

หยุนชางคร่ำครวญครู่หนึ่งแล้วลดเสียงลง "ถ้าเป็นชางเอ๋อร์ ชางเอ๋อร์จะปล่อยข่าวทันที โดยบอกว่าเสด็จแม่ทรงแท้งพระครรภ์แล้วเพคะ..."

วันส่งท้ายปีเก่านี้ ดูเหมือนว่าจะกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถสงบสุขได้ พึ่งผ่านเที่ยงคืน ในวังก็เริ่มเอะอะเสียงดังอีกครั้ง "สนมจิ่นทรงแท้งพระครรภ์แล้ว..."

พระสนมจิ่นระหว่างทางกลับไปที่วังพร้อมกับฝ่าบาท กงกงที่ยกเกี้ยวนั่งมังกรล้มลง พระสนมจิ่นและฝ่าบาททรงล้มลงกับพื้น และพระสนมจิ่นก็ทรงแท้งพระครรภ์ ฝ่าบาทและองค์หญิงหยุนชางใช้เวลาทั้งคืนอยู่กับพระสนมจิ่นในพระราชวังชีอู๋ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฝ่าบาทได้คุมขังกงกงทั้งแปดที่ยกเกี้ยวนั่งมังกรอย่างเด็ดเดี่ยว พระสนมจิ่นกำลังพักรักษาพระอาการ และตำหนักข้างของพระราชวังชีอู๋ก็ล้อมรอบด้วยองครักษ์อย่างแน่นหนา

เช้าตรู่ในวันแรกของปีใหม่ เนื่องจากฮองเฮาได้พักฟื้นดีแล้ว หมิงไท่เฟยได้แจ้งนางสนมในวังตั้งแต่เช้าตรู่ และการถวายพระพรในเช้าวันนี้ ให้ไปที่พระราชวังชีอู๋ นางสนมทุกคนในวังรู้ว่า หมิงไท่เฟยกำลังเตรียมคืนอำนาจให้ฮองเฮา

พระราชวังชีอู๋มีเหล่านางสนมไปๆมาๆ และเมื่อทุกคนเข้าไปในห้องโถง พวกนางอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ตำหนักข้างที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา

"ถวายพระพรฮองเฮา"

ฮองเฮาพยักหน้า "ลุกขึ้นเถอะ"

เมื่อทุกคนนั่งในที่นั่ง ดวงตาของฮองเฮาก็จ้องไปที่หยุนชางที่อยู่ในภวังค์ "ชางเอ๋อร์เจ้าดูแลสนมจิ่นมาทั้งคืน ถ้าเจ้าเหนื่อย ก็ไปพักเถอะ"

หยุนชางได้ยินคำพูด จู่ๆตาของนางก็น้ำตาคลอ และหยดน้ำก็ตกลงมา "ชางเอ๋อร์ไม่เหนื่อย เพียงแต่รู้สึกสงสารเสด็จแม่ เสด็จแม่ตกเลือดมากเพคะ……"

หลังจากได้ยินคำพูด ฮองเฮาก็หยุดมองหยุนชาง เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของนางไม่ได้แสแสร้ง ก็ถอนหายใจเบาๆ "เฮ้อ กว่าจะภาวนาให้มีเรื่องมงคลในวังนี้ แต่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดนี้เกิดขึ้น…"

ซิ่วซินได้ยินเช่นนี้ ก็เงียบลง

ฮองเฮาทรงยืนขึ้นตรัสว่า "ข้าจะไปทูลขอคำสั่งจากฝ่าบาท นี่เป็นวันแรกของวันขึ้นปีใหม่ ตามธรรมเนียม ข้าควรกลับไปที่จวนของมหาเสนาบดี"

หลังจากออกจากพระราชวังชีอู๋ ฮองเฮาพานางกำนัลเสด็จไปที่ตำหนักฉินเจิ้ง เพียงแต่ว่า เดินผ่านอุทยานหลวง ก็เห็นกลุ่มคนกำลังมองดูอะไรบางอย่างริมทะเลสาบ ฮองเฮาหรี่ตาลง ให้ซิ่วซินกูกูไปตรวจสอบดู ซิ่วซินกูกูโน้มตัวไปดู และถามไถ่คนในนั้นสักพัก นางก็กลับมาข้างฮองเฮา "เหนียงเหนียง หม่อมฉันดูแล้ว ดูเหมือนพวกเขากำลังตรวจสอบริมทะเลสาบและบ่อน้ำ หม่อมฉันหาคนถามแล้ว แต่พวกนางบอกว่าได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบเท่านั้นว่ามีอันตรายที่ซ่อนอยู่หรือไม่ และไม่พูดอะไรมากเพคะ"

"ข้างบ่อ?" หยวนเจินฮองเฮานึกขึ้นได้เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในพระราชวังชีอู๋ ดูเหมือนหยุนชางจะเอ่ยถึง นางจะกลับไปที่บ่อน้ำ แต่ทันทีที่นางพูด นางก็รีบเปลี่ยนคำพูดของนางทันที

หยวนเจินฮองเฮานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยกเท้าขึ้นอีกครั้งและเสด็จไปที่ตำหนักฉินเจิ้ง

หัวหน้าเจิ้งเฝ้าอยู่นอกตำหนักฉินเจิ้ง เมื่อเห็นฮองเฮาเสด็จมา ก็รีบเข้าไปรับเสด็จและกล่าวว่า "ฮองเฮา วันนี้ฝ่าบาทพระอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เมื่อครู่เพิ่งทรงเกรี้ยวในตำหนัก และทุบข้าวของมากมาย เพิ่งรับสั่งว่า ไม่พบใครทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ..."

หยวนเจินฮองเฮาเหลือบมองหัวหน้าเจิ้งด้วยใบหน้ารู้สึกเสียพระทัยเล็กน้อย และยืนที่ประตูครู่หนึ่ง ได้ยินเพียงเสียงแตกของเครื่องลายครามจากภายใน "ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้ากลับไปก่อน แต่รบกวนหัวหน้าเจิ้ง ประเดี๋ยวช่วยข้ารายงานต่อฝ่าบาททีว่า หากว่าฝ่าบาทยินดีจะพบข้าแล้ว ก็ส่งคนไปแจ้งข้าที ข้าจะมาใหม่"

หัวหน้าเจิ้งรีบตอบ ฮองเฮามองขึ้นไปที่ประตูตำหนักฉินเจิ้ง แล้วหันหลังจากไป

หัวหน้าเจิ้งเห็นร่างของฮองเฮาค่อยๆจากไป ค่อยหันหลังกลับและผลักประตูเข้าไปในห้องโถงด้านใน

ตลอดทั้งวันฮองเฮาก็ไม่ได้รับข่าวการเรียกเข้าเฝ้าของจักรพรรดิหนิง ซิ่วซินให้คนไปสอบถามหลายครั้ง และพบว่าฝ่าบาทดูเหมือนจะส่งคนจำนวนมากไปตรวจสอบบ่อน้ำและทะเลสาบในวังทีละแห่ง บ่อน้ำและทะเลสาบ ฮองเฮาครุ่นคิดเรื่องนี้ทั้งวัน แต่ก็นึกไม่ออกถึงความเชื่อมโยงระหว่างสถานที่ทั้งสองแห่งนี้

แต่ว่าเช้าตรู่ในวันที่สองของปีใหม่ มีข่าวว่า ข้างอุทยานหลวง ในบ่อน้ำใกล้ทะเลสาบที่ปกติไม่มีใครเข้าใกล้ มีคนจมน้ำตาย...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง