ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 271

อาจเพราะคิดในใจว่าจิ้งอ๋องจะจากไปในวันพรุ่งนี้ และทั้งคู่ก็พักอยู่ในห้องโถงตลอด หยุนชางให้คนเอาเบาะ (เตียงเดี่ยวในสมัยโบราณ) เข้ามา และนางเอนกายพิงบนเบาะเพื่ออ่านหนังสือ ขณะที่จิ้งอ๋องนั่งที่โต๊ะและอ่านบันทึกที่องครักษ์ลับนำเสนอ ได้ยินเสียงพลิกหน้าหนังสือในห้องโถง

เมื่อหยุนชางตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไม่มีคนอยู่ข้างนางแล้ว หยุนชางเหยียดมือออกแตะเตียงข้างๆ บนเตียงเย็นแล้ว คิดว่าคงจากไปนานแล้ว หลังจากเหม่อครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นนั่ง เฉี่ยนอินได้ยินมีความเคลื่อนไหวในห้องและรีบเดินเข้าไปในห้อง

"ท่านอ๋องจากไปนานแค่ไหนแล้ว?" หยุนชางถามเบาๆ

เฉี่ยนอินสังเกตสีหน้าของหยุนชางอย่างเงียบๆ และเมื่อนางเห็นสีหน้าของนางเป็นไปตามปกติ นางตอบอย่างนุ่มนวลว่า "หนึ่งชั่วยามครึ่งแล้วเพคะ ท่านอ๋องเห็นว่าองค์หญิงหญิงหลับสนิท จึงสั่งให้หม่อมฉันห้ามรบกวนเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า แล้วให้ไปเตรียมของที่จะล้างหน้า มีความวุ่นวายในใจของนาง การไปของเขาในครั้งนี้ เกรงว่ามันจะใช้เวลานานนาพอสมควรถึงได้พบกันอีก

หยุนชางไม่ได้ออกจากตำหนักเซวียนรั่วทั้งวัน พลิกอ่านหนังสือบนเบาะ แต่มีความคิดที่เหม่อลอยเล็กน้อย เมื่อก่อนตอนที่นางอยู่คนเดียว ก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ นางก็ค่อนข้างพอใจ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเพราะนางชินกับการมีจิ้งอ๋องอยู่ด้วย จู่ๆขาดคนข้างกายไป กลับรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับมัน

หลังจากที่จิ้งอ๋องจากไป หยุนชางก็คิด ในเมื่อหลี่จิ้งเหยียนและเซี่ยโหจิ้งไม่ได้เฝ้าดูเมืองหลวงอีกต่อไป หนิงเฉี่ยนอยู่ในวังก็คงจะเบื่อหน่าย ดังนั้นจึงให้คนไปตามหนิงเฉี่ยนมาอยู่ข้างกาย และประกาศว่า ฮองเฮาทรงประชวร ให้หนิงเฉี่ยนช่วยเปลี่ยนหน้าให้องครักษ์ลับคนหนึ่ง และให้นางอยู่ในวัง

หลังจากห้าวันทาจิ้งอ๋องจากไป จักรพรรดิหนิงตัดสินใจออกเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง และหยุนชางตัดสินใจไปพบจิ่งเหวินซีที่อยู่ในคุก

ชีวิตในคุกของจิ่งเหวินซีดูเหมือนจะไม่สุขสบายนัก เสื้อผ้าบนร่างกายนางนั้นขาดรุ่งริ่ง แต่นางก็ยังดูเป็นคุณหนูของตระกูลขุนนาง เมื่อเห็นหยุนชางนางก็ไม่โกรธ ยืนขึ้นและพูดโดยไม่แสดงสีหน้าใด "องค์หญิงฮุ่ยกั๋ว"

ยุนช้างให้ผู้คุมเปิดประตูคุก เดินเข้าไปข้างในและพูดเบาๆว่า "ตอนนี้คุณหนูจิ่งควรเรียกข้าว่าพระชายา"

จิ่งเหวินซีหัวเรา และมีความรังเกียจเผยออกมา "เจ้าคิดว่า เจ้าจะเป็นพระชายาได้นานแค่ไหน ทำไมจิ้งอ๋องถึงแต่งงานกับเจ้า ทำไมเจ้าไม่ลองคิดดูล่ะ เพราะไม่กล้าหรือไม่ต้องการ ท่านอ๋องก็แค่ต้องการฐานะองค์หญิงในตัวเจ้า ท่านอ๋องมีความทะเยอทะยาน ฐานะของเจ้าสามารถช่วยเขาได้มาก หากวันหนึ่ง เมื่อเขาไม่ต้องการเจ้าอีกต่อไป ข้าจะคอยดูว่า เจ้าถูกเขาทิ้งอย่างรองเท้าที่ไร้ค่า"

หยุนชางไม่สนใจเลยและยิ้มเล็กน้อย "เช่นนั้นคุณหนูจิ่งก็จงรอดูต่อไปเถอะ แต่หวังว่าคุณหนูจิ่งจะยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันนั้น"

จิ่งเหวินซีเดินเข้าไปตรงหน้าหยุนชาง และส่ายหัว "องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ แต่กลับเป็นผู้ที่ไม่สนใจโลก องค์หญิงเชื่อหรือไม่ว่า ฝ่าบาทจะไม่มีวันฆ่าข้า จิ้งอ๋องก็เช่นกัน"

หลังจากพูดจบ นางก็เหลือบมองหยุนชางและหัวเราะอีกครั้ง "ท่านพ่อของข้าคือหัวหน้าสำนักการบูชา เป็นคนของฝ่าบาท ในราชสำนักท่านเสนาบดีหลี่และจิ้งอ๋องต่างต่อต้านกัน ต่างคนต่างมีกองกำลังของตัวเอง และสำหรับกองกำลังที่เป็นของฝ่าบาทอย่างแท้จริงนั้นมีไม่มาก ฝ่าบาทเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับบ้านเมืองเป็นอันดับแรก เพียงเพราะความบาดหมางเล็กๆน้อยๆในเรื่องส่วนตัวระหว่างข้ากับองค์หญิง จะทิ้งท่านพ่อของข้าที่เป็นหมากตัวหนึ่งได้อย่างไร และจิ้งอ๋องนั้น...เกรงว่าองค์หญิงจะไม่ทรงทราบ จิ้งอ๋องพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับท่านพ่อของข้า และท่านพ่อของข้าก็ตามใจข้ามาโดยตลอด ในเมื่อจิ้งอ๋องมีความคิดที่จะสร้างความสัมพันธ์กับท่านพ่อของข้า แล้วจะทำให้ท่านพ่อของข้าขุ่นเคืองได้อย่างไร บางทีอีกไม่นาน ข้าอาจอยู่ในจวนอ๋องเรียกองค์หญิงว่าท่านพี่ก็ได้? "

หลังจากได้ฟังหยุนชางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หัวเราะจนคิ้วโค้งงอ

สีหน้าของจิ่งเหวินซีเปลี่ยนไป และทำเสียงเชอะ "องค์หญิงกำลังหัวเราะเยาะอะไร"

หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองจิ่งเหวินซี "ข้าแค่ไม่รู้ว่า คุณหนูจิ่งเอาความมั่นใจในตนเองมาจากไหน อย่าพูดถึงเรื่องเสด็จพ่อกับท่านอ๋องที่ให้ความสำคัญกับพ่อของเจ้า มันอาจไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิด ก็แค่หัวหน้าสำนักการบูชาเล็กๆ เจ้าเชื่อหรือไม่ บางทีอีกไม่นานแม้แต่ตำแหน่งนี้ของพ่อเจ้าก็ไม่มีแล้ว ถึงแม้จะเป็นจริงอย่างที่เจ้าพูด เสด็จพ่อและท่านอ๋องต้องการสร้างสัมพันธ์กับพ่อของเจ้า เจ้าว่า วันนี้หากข้าพลั้งมือฆ่าเจ้าในคุกนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเสด็จพ่อและท่านอ๋อง?"

หยุนชางเงยหน้าขึ้นและมองดูหน้าต่างแคบๆ เพียงบานเดียวในคุก "ข้าแค่บอกพวกเขาว่า คุณหนูจิ่งต้องการลอบสังหารข้าและองครักษ์ลับของข้าพลั้งมืแฆ่าคุณหนูจิ่ง เสด็จพ่อเรียกพ่อของเจ้ามาปลอบ และใหนึ้ศพไปฝัง และจิ้งอ๋อง..เกรงว่าจะไม่เลิกคิ้วเลยสักนิด เพราะข้ายังเป็นองค์หญิงอยู่ไม่ใช่หรือ อีกทั้ง ยังคงเป็นพระชายาจิ้งอ๋อง"

ร่างของจิ่งเหวินซีขยับ ดวงตาของนางดูประหลาดใจเล็กน้อย และดวงตาของนางก็เผยถึงความเย็นชา หลังจากนั้นไม่นานนางก็หัวเราะ "ข้าประเมินองคหญิงต่ำไป ที่แท้ องค์หญิงก็ไม่ได้อ่อนโยนและบริสุทธิ์เหมือนที่ข้าคิดไว้...ไม่รู้ว่า ฝ่าบาทและท่านอ๋องได้เห็นองค์หญิงเช่นนี้ได้อย่างไร"

"โอ้...ข้าคิดได้แล้ว ผู้ให้กำเนิดขององค์หญิงคือพระสนมจิ่น และตอนนี้พระสนมจิ่นเป็นที่โปรดปรานและนางก็ให้กำเนิดองค์ชายน้อย แน่นอนว่า องค์หญิงหวังว่าฮองเฮจะถูกกำจัด เพื่อให้พระสนมจิ่นได้เป็นฮองเฮา และองค์ชายน้อยอาจเป็นรัชทายาทด้วย และองค์หญิงสามารถกำจัดสถานะของธิดานางสนมได้ มันช่างยินดีปรีดาจริงๆ องค์หญิงคิดคำนวนได้ดี..."

หยุนชางไม่โกรธ หน้ายังสงบนิ่งตามปกติ ยิ้มจางๆ "ไม่เคยรู้ว่า คุณหนูจิ่งพูดเก่งมาก ถ้าข้ารู้คุณหนูจิ่งมีพรสวรรค์เช่นนี้ ข้าควรขอให้เสด็จพ่อประทานยศองค์หญิงให้คุณหนูจิ่ง และส่งอภิเษกกับแคว้นเย้หลาง คงจะสามารถเกลี้ยกล่อมชายทั้งหลายของแคว้นเย้หลางได้ ข้าได้ยินมาว่า คุณหนูจิ่งออกจากเมืองหลวงพร้อมพี่ชายนานพอสมควร คุณหนูจิ่ง ทราบหรือไม่ว่าท่านเสนาบดีหลี่และเซี่ยโหจิ้งท่านอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ย ได้ก่อกบฏ... คุณหนูจิ่ง เจ้าคิดว่าบุตรสาวของขุนนางชั่ว จะยังคงเป็นฮองเฮาได้อีกหรือ?"

จิ่งเหวินซีตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นางอยู่ในพระราชวังตลอดตั้งแต่มาถึงเมืองเฟิ่งไหล นางไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาด้วยเหตุผลหลายประการ นางจึงเอาแต่คิดคำนวณกำจัดหนิงหยุนชาง ไม่ทันได้สนใจเรื่องนี้

ท่านเสนาบดีหลี่ก่อกบฏ? ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของจิ่งเหวินซี ในตอนเริ่มแรกที่นางสงบนิ่ง ประการแรก นางรู้สึกว่าพ่อของนางจะไม่เพิกเฉย ประการที่สอง เมื่อนางเข้ามาครั้งแรก นางคิดว่านางเป็นคนของฮองเฮา ฮองเฮาส่งคนมาอยู่ข้างนาง ถึงแม้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาจะไม่ได้เจอคนๆนั้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าฮองเฮาจะไม่เพิกเฉยอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว

จิ่งเหวินซีบังคับตัวเองให้สงบความคิดที่วุ่นวายในใจของนาง และมองที่หยุนชาง "องค์หญิงสามารถสร้างคำเหล่านี้เพื่อหลอกข้า ช่างชื่นชมมันจริงๆ"

"วันที่คุณหนูจิ่งไปช่วยท่านอ๋อง ไม่ได้เห็นหรือว่าศัตรูของท่านอ๋องเป็นผู้ใด หรือว่า คุณหนูจิ่งไม่รู้จักท่านเสนาบดีหลี่และเซี่ยโหจิ้ง วันนั้น ท่านเสนาบดีหลี่และเซี่ยโหจิ้ง ได้นำทหารมาด้วยตนเอง..." หยุนชางก้มหน้าลงด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ

จิ่งเหวินซีหยุดคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในวันนั้น นางเพียงคิดแต่ว่าจะพุ่งออกไปเมื่อไรดี นางไม่สนใจอื่นใด แต่หนิงหยุนชางมั่นใจมาก หรือว่าจะเป็นเช่นนี้จริง?

ใบหน้าของจิ่งเหวินซีคาดเดาไม่ได้ และใช้เวลานานกว่าจะพูดว่า "องค์หญิงมีจุดประสงค์อะไรบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้"

"จุดประสงค์?"หยุนชางยิ้มและมองไปที่จิ่งเหวินซี "ย่อมมีอยู่แล้ว ท่านเสนาบดีหลี่กบฏ ตอนนี้ท่านอ๋องได้นำทัพออกศึกแล้ว คุณหนูจิ่งชอบท่านอ๋อง และไม่ต้องการให้ท่านอ๋องต้องเป็นอะไรอย่างแน่นอน...ข้าหวังว่าคุณหนูจิ่ง..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง