หลังจากเหตุการณ์การบุกโจมตียามดึกในวันนั้น ค่ายทหารแคว้นเซี่ย ก็ผลัดเปลี่ยนเวรยามมิขาดช่วง
หยุนชางได้รับเชิญจากฉีหล่างให้ไปร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการศึก ทำให้นางเข้าใจสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ฉีหล่างมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นแม่ทัพอยู่ 5 คน ลูกน้องระดับล่างลงไปอีกก็มีเป็นหลักร้อย แม่ทัพเหล่านี้เมื่อได้ร่วมงานกับหยุนชาง ก็ยิ่งนับถือและชื่นชมหยุนชางมากขึ้นเรื่อยๆ
ในค่ายของเราตอนนี้ ตามความคิดเห็นของทุกท่าน ข้างนอกไม่เคร่งแต่ข้างในเข้มข้น วิธีการนี้จะเป็นแผนล่อลวงทหารแคว้นเซี่ยได้เป็นอย่างดี" ผู้ที่พูดประโยคนี้กับหยุนชาง ก็คือแม่ทัพหวังชง ผู้ซึ่งเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยกับหยุนชางมากกว่าเมื่อก่อน
หยุนชางพยักหน้า สายตาของนางจ้องมองไปยังแผนที่ที่อยู่ตรงหน้า
"ในวันนี้ ข้าน้อยได้หารือกับแม่ทัพหลิวหัว เซี่ยโหเหยียน องค์รัชทายาทแห่งแคว้นเซี่ยนั่นไม่รู้ว่าจะเลือกใช้แผนการไหนมาตอบโต้" หวังชงเห็นหยุนชางมองไปที่แผนที่ ก็เอ่ยพลางยิ้ม
หลิวหัวได้ยินก็ยิ้ม "แม่ทัพหวังคาดเดาจากเนินเขาหลิวหยุน ส่วนข้าคาดเดาจากระยะทางชุนเฟิง ใครแพ้จะต้องเลี้ยงอาหารผู้ชนะที่หอยวี่หมั่นในเมืองหลวง พวกท่านจะมาร่วมด้วยหรือไม่ ฮาๆ แม่ทัพหวังเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเศรษฐีประจำกองทัพ เห็นทีครานี้ ท่านอาจจะต้องเสียค่าอาหารมากหน่อยแล้วนะ"
หวังชงได้ฟัง ก็จ้องมองหลิวหัว "แพ้ชนะยังตัดสินกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าผู้ที่จะต้องเลี้ยงอาหารจะเป็นผู้ใดกันแน่"
หยุนชางฟังพวกเขาพูดคุยกันแล้วยิ้ม รอจนพวกเขาเงียบลงแล้วจึงเอ่ยว่า "ส่วนข้าคาดเดาจากหุบเขาชิงเฟิง"
ทุกคนในกระโจมนิ่งไปสักพัก พวกเขามองมาที่หยุนชาง แม้แต่ฉีหล่างก็จ้องมองมาที่นาง สักพักจึงเอ่ยว่า "เหตุใดใต้เท้าจึงเลือกหุบเขาชิงเฟิงล่ะขอรับ?"
หยุนชางยิ้ม "นั่นก็เพราะ ไม่มีใครเลือกหุบเขาชิงเฟิง หากข้าชนะแล้ว พวกท่านทั้งสองคน จะได้เลี้ยงข้าวข้าคนละมื้อ แบบนี้จึงจะคุ้มค่ามากกว่า อีกอย่าง อย่างที่ข้าเคยบอกไว้ เซี่ยโหเหยียนชอบทำการศึกแบบคิดต่าง หากข้าเป็นเซี่ยโหเหยียนหรือหลิ่วหยินเฟิง ก็คงจะเลือกสิ่งที่คนทั่วๆไปไม่เลือก หุบเขาชิงเฟิงแม้จะอันตราย แต่ก็มีป่าทึบปกคลุม เอื้อประโยชน์ต่อการพลางตัว"
ฉีหล่างพยักหน้า "ใต้เท้าพูดได้ดีมาก แต่ว่าไม่ว่าท้ายที่สุดทหารแคว้นเซี่ยจะตัดสินใจเลือกเส้นทางไหน ข้าน้อยก็ได้เตรียมการพร้อมรับเอาไว้แล้ว"
หยุนชางยิ้ม "ท่านแม่ทัพช่างหัวรุนแรงเสียจริง"
เมื่อกลับมาถึงจวนฉี หยุนชางก็ได้รับจดหมาย 1 ฉบับ เฉี่ยนอินบอกว่าสายลับถือจดหมายนี้เดินทางมาไม่ได้หลับไม่ได้นอน คงจะมีเหตุด่วนเกิดขึ้นกับท่านอ๋อง
เมื่อหยุนชางได้ฟัง ก็รีบสั่งให้แกะจดหมาย นางเห็นว่าด้านในเป็นกระดาษยับๆใบหนึ่ง มีข้อความปรากฏไม่กี่คำว่า "ได้ยินว่าเจ้าจะรับชายงามคนสนิทคนใหม่ สุขล้นดวงใจยิ่งนัก!"
นอกจากนี้ก็ไม่มีข้อความอื่นแล้ว หยุนชางไม่เข้าใจ นี่น่ะหรือคือจดหมายที่เขาสั่งคนให้รีบนำมาส่ง?
นางกังวลเป็นอย่างมาก พลันถือกระดาษทุบลงไปบนโต๊ะ เฉี่ยนอินเห็นสีหน้าของหยุนชางดังนั้นก็ประหลาดใจ "เกิดเรื่องใหญ่อันใดขึ้นหรือเพคะ?" นางถามพลางสอดส่องสายตาไปดูข้อความในจดหมาย นางถึงกับหัวเราะ
"พระชายาเพคะ ดูเหมือนท่านอ๋องจะทรงหึงขึ้นมาแล้วนะเพคะ ฮ่าๆๆๆ……" เฉี่ยนอินพูดจบก็หัวเราะออกมาเสียงดัง "นานๆครั้งท่านอ๋องจึงจะกริ้วพระชายาเช่นนี้ หม่อมฉันพอจะนึกท่าทางของท่านอ๋องได้ ดูกระดาษที่ยับยู่ยี่ในมือสิเพคะ ในขณะที่ท่านอ๋องเขียนจดหมาย ก็คงจะกริ้วจนขยำกระดาษไปก่อนหน้านี้ ดูข้อความเหล่านี้สิเพคะ ช่างเสียดสีเสียเหลือเกิน ท่านอ๋องคงจะกัดฟันทนเขียนข้อความพวกนี้นะเพคะ"
หยุนชางรู้ว่าหัวจิ้งนั้นยั่วยวนผู้ชายเป็น แต่ก็ไม่นึกว่า นางจะยั่วยวนแม้กระทั่งองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นเย้หลาง หยุนชางนับถือความกล้าของนางมาก หยุนชางถามต่อ "องค์ชายใหญ่แห่งแคว้นเย้หลางได้ส่งคนมาสืบประวัติของหัวจิ้งด้วยหรือไม่?"
"สืบแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่องค์หญิงหัวจิ้งมีฐานันดรศักดิ์เป็นองค์หญิงคอยค้ำชูอยู่ แถมนางยังมีรูปโฉมงดงาม องค์ชายใหญ่จึงพอพระทัยนางเป็นอย่างมาก"
หยุนชางก้มหน้าพลิกหนังสือไปพลางๆ เนื่องจากถูกเรื่องของหัวจิ้งเข้ามารกอยู่ในสมอง นางจึงลืมนึกถึงเรื่องอื่น
แต่จะว่าไป องค์หญิงแห่งแคว้นแคว้นหนึ่ง ยอมลดตัวไปเป็นนางบำเรอให้กับองค์ชายแห่งแคว้นศัตรู ช่างเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี
หยุนชางถอนหายใจ นางกังวลว่าหากเสด็จพ่อทรงทราบข่าวนี้ คงจะตกพระทัยและกริ้วมากเป็นแน่
แต่ก็น่าเสียดาย ตอนนี้นางอยู่ที่เมืองคังหยาง แม้จะอยากคร่าชีวิตของหัวจิ้งมากเพียงใด ก็ทำได้เพียงอดทนต่อไปเท่านั้น มือของหยุนชางพลิกหน้าหนังสือไปเรื่อยๆ นางคิดอะไรบางอย่างออก นางพยักหน้าแล้วสั่งการ "ส่งคนไปสอดแนมที่จวนขององค์ชายใหญ่"
สายลับรับคำแล้วถามหยุนชาง "พระชายา พระครรภ์ที่องค์หญิงหัวจิ้งทรงอุ้มอยู่นั้น เหมือนนางจะใช้ยาในการช่วยให้ตั้งครรภ์ หม่อมฉันให้สายลับที่มีความรู้เรื่องยาปลอมตัวเป็นหมอไปสืบดูแล้ว เด็กในครรภ์คนนี้ พระชายาต้องการที่จะ…...ให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
หยุนชางหรี่ตาครุ่นคิด นางแสยะยิ้มออกมา "คงไม่ต้องถึงมือพวกเราหรอก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ผู้หญิงในจวนก็พร้อมที่จะแก่งแย่งชิงดีกันจนเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ ต้องปล่อยให้หัวจิ้งได้ใช้ความสามารถของนางในการปกป้องลูกของนางแล้วล่ะ หากว่าคลอดออกมาได้ ถึงตอนนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที…..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...