"หอเฉี่ยนสุ่ย" หยุนชางพึมพำเบา ๆ พลันเกิดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก "ใช่แล้ว หม่อมฉันเกือบลืมไป พี่สาวที่แสนดีของหม่อมฉันกลับมาเมื่อวานนี้"
พูดจบ พลางเรียกเฉียนยินให้เข้ามาว่า"มิต้องไปจับจิ่งเหวินซีแล้ว ไปหาสตรีที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมา เรียกให้เตี๋ยเอ๋อร์เป็นคนไปจับ. จากนั้นค่อยให้องครักษ์เงาไปกุมตัวหนิงหัวจิ้งมาให้เตี๋ยเอ๋อร์นำมาทรมาน พลางให้หนิงหัวจิ้งรับรู้เรื่องข้อตกลงระหว่างจิ่งเหวินซีและชางเจียคังหนิงเสีย"
"หอเฉี่ยนสุ่ยได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา. หนิงหัวจิ้งอยู่ด้านใน ไม่สามารถให้องครักษ์เข้าไปจับได้ ให้ข้าไปด้วยตนเองจะดีกว่า คงจะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ด้วยดีแน่ อีกทั้ง "จิ้งอ๋องพลางพูดด้วยเสียงสองว่า "มอบให้ภรรยาลงโทษเป็นเช่นไร"
หยุนชางมิต้องคิดก็เข้าใจคำว่าลงโทษของเขาหมายความว่าอย่างไร ต่อหน้าเฉียนยินจะลงมือเช่นไรก็ไม่ได้ จึงได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า "ท่านยังมิลุกออกจากที่นอนอีกหรือ หากช้ากว่านี้ ชางเจียคังหนิงและจิ่งเหวินซีคงได้เข้าวังเสียพอดี"
จิ้งอ๋องพลางร้องโอดครวญ พลันลุกขึ้นมาสวมใส่อาภรณ์ แล้วจึงหันหน้าไปหาหยุนชางพร้อมพูดว่า "เจ้าให้เฉียนยินอยู่ข้างกายเจ้าเสีย เกรงว่าวันนี้คงมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นเป็นแน่ นำองครักษ์เงาไว้ข้างกายเจ้าเยอะเสียหน่อยจึงจะดี"
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย จึงลุกขึ้นมาจากที่นอน พร้อมทั้งจัดระเบียบต่าง ๆ ให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินทางไปเข้าวัง
ภายในพระราชวังเต็มไปด้วยความปิติยินดี. โคมไปสีแดงถูกนำมาห้อยตลอดสาย ทุกที่ล้วนแต่ถูกแต่งแต้มไปด้วยกระดาษสีแดงติดล้อมรอบ เต็มไปด้วยอักษรมงคลมากมาย หยุนชางมาถึงเร็วไปหน่อย จิ่นกุ้ยเฟยเพิ่งจะตื่นนอนกำลังมองดูแม่นมกำลังป้อนนมให้เฉินซีอยู่นั้น พลันเห็นหยุนชาง จึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน พร้อมลุกขึ้นมาว่า "ไปกันเถอะ พระราชวังชีอู๋ได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว. เดินไปดูเสียหน่อย"
หยุนชางพลันถามกลับว่า "หย่าผินเล่า ?"
จิ่นกุ้ยเฟยพลันยกมือขึ้นจิ้มไปที่ระหว่างคิ้วของหยุนชาง "ยังเรียกหย่าผินอยู่อีกหรือ เวลานี้ต้องเรียกนางว่าฮองเฮาแล้ว"
ฮองเฮาหรือ ? หยุนชางได้ยินดังนั้นพลันก้มหัวลงมิได้แสดงอาการอะไรออกมา จิ่นกุ้ยเฟยพลางถอนหายใจออกมา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เจ้ากำลังโทษแม่ที่ไม่ยอมขึ้นเป็นฮองเฮางั้นหรือ ? "
หยุนชางส่ายหน้าเบาๆ "หม่อมฉันเข้าใจความคิดของเสด็จแม่ การเป็นฮองเฮานั้น จะเป็นหรือไม่เป็น ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเสด็จแม่ " ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร หากจิ่นกุ้ยเฟยต้องการ นั้นจะเป็นเรื่องดี หากแต่เสด็จแม่ไม่ต้องการนั้น นางก็จะหาคนที่ไว้ใจได้เพื่อมาขึ้นเป็นฮองเฮาแทนนางเพื่อเป็นโล่เป็นหอกให้กับเสด็จแม่
"เกรงว่าหย่าผินจะอยู่ในวังของนางกระมัง ตอนนี้นางคงกำลังยุ่งกับการแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่ รอบ ๆ ล้วนแต่เต็มไปด้วยคนของจักรพรรดิที่สั่งให้คอยควบคุมดูแลอยู่ที่นั่น คงมิมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อนางแต่งตัวเสร็จแล้วคงจะเสด็จไปพระราชวังพร้อมกับองค์จักรพรรดิเพื่อกราบไหว้ฟ้าดิน หลังจากนั้นจึงไปตำหนักจินหลวนเพื่อไปรับตราประทับของฮองเฮา พร้อมจบพระราชพิธี" จิ่นกุ้ยเฟยจึงยิ้มออกมา พร้อมพูดว่า "หากแต่พวกเราจะมิได้เห็นพิธีการเหล่านั้น วันนี้เจ้าต้องค่อยช่วยแม่รับแขกตระกูลเหล่าเสนบดีทั้งหลาย "
หยุนชางยิ้มรับ ดวงตาพลันแวววาวเปล่งประกาย ในพระราชพิธีฮองเฮานั้นล้วนแต่มีคนคอยสอดส่องรอโอกาสเป็นจำนวนมาก หากแต่วังหลังล้วนแต่เป็นสถานที่ ที่กำลังคุ้มกันอ่อนตัวลง หากแต่ตระกูลของชางเจี่ยคังหนิงนั้น เมื่อเห็นหนิงหัวจิ้งแล้ว ดวงตาของหยุนชางแย้มยิ้มออกมา พลันตั้งหน้าตั้งตารอว่าหนิงหัวจิ้งจะพาอะไรมาให้นางตื่นตาตื่นใจได้กัน
เมื่อครู่ข้ารับใช้ในตำหนักได้รายงานจักรพรรดิหนิงแล้วว่าหยุนชางและจิ่นกุ้ยเฟยออกไปดูงานพร้อมกัน เมื่อได้ยินหยุนชางถามขึ้นมา จักรพรรดิหนิงมิได้รีบตอบ พลันหันหน้าไปหาจิ่นกุ้ยเฟยที่ใบหน้าเรียบเฉย ราวกับมิได้สนใจอันใดกับเขา จึงยิ้มออกมาว่า"อื้ม ข้ากินด้วย"
จิ่นกุ้ยเฟยจึงหันกลับมารับสั่งข้ารับใช้ให้เตรียมสำรับเพิ่มขึ้น หยุนชางหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมทั้งบีบแก้มของเฉินซีเบาๆ ว่า "เด็กน้อยโตเร็วมาก ทำไมหม่อมฉันคิดว่าเฉินซีราวกับค่อย ๆ โตขึ้นทุกวันเลยเล่า"
จิ่นกุ้ยเฟยหันไปมองเฉินซีทันที พลันขมวดคิ้วเบาๆ ว่า"งั้นหรือ ? แม่มิเห็นรู้สึก"
"เป็นเพราะเสด็จแม่เห็นทุกวันหรือเปล่า. เฉินซีของพวกเราโตขึ้นมาอีกวันแล้ว" หยุนชางหัวเราคิกคักตอบกลับมา
หลังจากพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เฉินซีพลันร้องให้งองแงออกมา จิ้นกุ้ยเฟยรีบร้อนพูดขึ้นมาว่า "เขาอาจะปวดเบาราดกางเกงเป็นแน่ ให้แม่นมคอยดูเถิด " พูดจบพลางส่งเฉินซีให้แม่นม สำรับเช้าได้เตรียมจนเสร็จแล้ว
หยุนชางพาจักรพรรดิหนิงมานั่งที่เก้าอี้ พร้อมถามว่า "วันนี้เสด็จพ่อน่าจะยุ่งวุ่นวายมิใช่หรือ ? ทำไมถึงได้มีเวลามายังวังจิ่นซิ่วเพื่อดูเฉินซีได้กัน "
จักรพรรดิหนิงพลันชำเลืองมองสีหน้าของจิ้นกุ้ยเฟยอย่างระมัดระวัง หากแต่สีหน้าของจิ่นกุ้ยเฟยกลับเรียบนิ่ง พลางบอกให้ข้ารับใช้นำสำรับขึ้นมาส่ง ราวกับมิได้สนใจสิ่งที่เขาทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่เลย แววตาของจักรพรรดิหนิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พร้อมพูดออกมาว่า "เรื่องทุกอย่างล้วนแต่มีคนจัดการให้หมดแล้ว วันนี้มิค่อยได้พักผ่อนเลย หากแต่เคยชินกลับการตื่นแต่เช้า เมื่อตื่นขึ้นมากลับไม่มีอะไรให้ทำ จึงเดินมายังวังจิ่นซิ่ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...