ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 375

หยุนชางสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย รอยยิ้มพลันจืดจางลง เกรงว่าหากจิ่งเหวินซีมิได้ขึ้นเป็นฮองเฮาแล้ว เสด็จแม่เป็นเพียงแค่จิ่นกุ้ยเฟย ในใจคงรู้ผิดกระมัง เกรงว่าเสด็จแม่จะโกธร จึงมาหานาง

หยุนชางราวกลับในคอมีก้างปลาติดคออยู่ จึงหยิบชามขึ้นมา เพื่อกินโจ๊ก

พลันด้านนอกมีเสียงรายงานดังเข้ามา "จิ้งอ๋อง"

หยุนชางจึงเงยหน้าขึ้นมา พลางเห็นจิ้งอ๋องเดินเข้ามา พร้อมยิ้มให้จักรพรรดิหนิงและจิ่นกุ้ยเฟยเพื่อทำความเคารพ จึงเดินมายืนข้างหยุนชางเพื่อนั่งลง

จิ่นกุ้ยเฟยพลันเรียกให้ข้ารับใช้นำชามและตะเกียบมาเพิ่ม หยุนชางจึงหันหน้ามามองจิ้งอ๋อง สายตาพลันเต็มไปด้วยคำถาม "ทำไมจิ้งอ๋องถึงมาที่นี่ได้ ? "

จิ้งอ๋องยิ้มพลันหันมามองหยุนชาง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า "ฉันไม่เห็นคุณเมื่อเช้านี้ พลางได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเจ้าเข้าวังแล้ว จึงมาหาว่ามีเรื่องอะไรพอให้ข้าช่วยได้บ้าง " หยุนชางมองไปยังสีหน้าของเขา เกรงว่าแผนการของจิ่งเหวินซีในวันนี้คงจะล้มเหลวกระมัง

จักรพรรดิหนิงได้ยินดังนั้น จึงยิ้มออกมา "ในพระราชวังแห่งนี้ นางอยู่อาศัยมาหลายปีแล้ว คุ้ยเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี. มีสาวน้อยคนนี้อยู่นี่ ไม่มีอะไรให้พวกเราต้องช่วยเหลือหรอก เดี๋ยวอีกครู่หนึ่งเรามากินข้าวด้วยกัน เจ้ากับเข้าค่อยเข้าวังไปต้อยรับราชทูตแคว้นต่างให้ดี เกรงว่าพวกเขาจะไม่คุ้ยเคยกับวัฒนธรรมแคว้นหนิงของเรา เจ้าก็ไม่พูดคุยให้พวกเขาผ่อนคลายเสียหน่อย "

"พะยะค่ะ. หม่อมฉันจะทำตามคำบัญชา" จิ้งอ๋องยิ้มพร้อมตอบรับด้วยเสียงแผ่วเบา

หยุนชางที่กำลังจะยิ้มนั้น รอยยิ้มกลับต้องจางลงอีกครั้ง เกรงว่าจักรพรรดิหนิงและเซี่ยหวนอวี่ คงจะวางแผนสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้วกระมัง เกรงว่าตั้งแต่งานเลี้ยงในพระราชวังในครั้งนั้น ครั้งที่จักรพรรดิหนิงอนุญาติให้เซี่ยหวนอวี่นำรูปภาพออกมา หยุนชางจึงรู้สึกตะหงิด ๆ ภายในใจอยู่บ้าง หากแต่เมื่อวานที่พวกเขาร่วมตัวร่วมใจพร้อมกันประกาศออกมา หยุนชางจึงรับรู้ได้ว่า แท้จริงแล้ว คงเป็นจักรพรรดิหนิงที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าจนเสร็จสิ้น ตอนนี้ถึงจัดให้จิ้งอ๋องไปคอยดูแลคณะทูตต่างแคว้น เกรงว่าคงจะอยากให้จิ้งอ๋องและเซี่ยหวนอวี่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกระมัง

เมื่อรับสำรับเช้าเสร็จ จักรพรรดิหนิงและจิ้งอ๋องจึงจากไป

จิ่นกุ้ยเฟยแย้มยิ้มพลางไปที่หยุนชาง พร้อมพูดติดตลกว่า "ดูเหมือนว่า จิ้งอ๋องดูจะเป็นห่วงเป็นใยเจ้ามากเลยทีเดียว ถ้าเช่นนั้นยิ่งดี. เขาห่วงใยเจ้ามาเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อเจ้ามากเท่านั้น "

หยุนชางพลันก้มหัวลงมิได้เอ่ยอันใดออกมา เมื่อได้ยินจิ่นกุ้ยเฟยเอ่ยพึมพำขึ้นมาว่า "หวังว่าเขาจะดูแลเจ้าเช่นนี้ไปตลอด ทางที่ดีคือ ตลอดชีวิต"

"เสด็จแม่ " หยุนชางพลังกุมมือจิ่นกุ้ยเฟยขึ้นมา พร้อมจ้องไปที่นาง "เสด็จแม่. หม่อมฉันหวังว่าท่านจะมีความสุขเช่นกันนะเพคะ "พลันหยุดไปสักพัก พร้อมลดเสียงลงมาว่า "แต่ก่อนชางเอ๋อร์รู้สึกมาตลอดเลยว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่เป็นคู่รักในวัยเด็ก ความสุขของเสด็จแม่คือการผูกตนเองไว้ข้างกายเสด็จพ่อ จนถึงวันนี้ หม่อมฉันมิรู้ว่าหม่อมฉันคิดถูกหรือไม่ แต่เสด็จแม่เพคะ. หากมีวันใดที่ท่านไม่พบความสุขในวังหลังแห่งนี้อีกแล้ว บอกชางเอ๋อร์ แม้ว่าทั่วฟ้าจะถล่มลงมาเพียงใด ชางเอ๋อร์ก็จะพาเสด็จแม่ออกมาจากพระราชวังแห่งนั้นจนได้ "

ดวงจาของจิ่นกุ้ยเฟยมีรอยน้ำใสๆคลออยู่ พลางพยักหน้าเบา ๆ"แม่จะจำไว้"

เวลาผ่านไปไม่นาน พลันมีข้ารับใช้เข้ามารายงานว่า มีฮูหยินเหล่าตระกูลเสนาบดีเข้ามาในวังแล้ว พะยะค่ะ ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ในอุทยานหลวง จิ่นกุ้ยเฟยตอบรับ พลางพาหยุนชางออกมาด้วย ภายในใจหยุนชางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พลางดึงมือจิ่นกุ้ยเฟยไว้ว่า "เสด็จแม่ พาเฉินซีไปด้วยเถอะเพคะ วันนี้ผู้คนมากมายล้วนอยู่ในวัง หม่อมฉันกลัวความปลอดภัยของเฉินซี ให้น้องมาอย่างอยู่ข้างกายจึงจะดีที่สุด"

ท่านอ๋องมิใช่จับนางไว้แล้วหรือ? ทำไมนางถึงโผล่มาที่นี่ได้กัน? ภายในใจเต็มไปด้วยความงุนงง หากแต่จิ้งอ๋องมิได้อยู่ที่นี่ องครักษ์เงาควรที่จะอยู่ข้างจิ้งอ๋องในตอนนี้ หยุนชางพลันหันหน้ามาหาเฉียนหยิน เพื่อให้เฉียนหยินไปถามจิ้งอ๋องว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นหรือไม่ พลันรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมาทางด้านหลัง เมื่อหยุนชางหันหลังกลับไปพลันเห็นจิ่งเหวินซียิ้มแล้วมองมาทางตน พลางเดินผ่านนางไป

จิ่งเหวินซีเห็นดังนั้น นางเกรงว่าจิ่งเหวินซีจะสังเกตุเห็นจึงให้เฉียนยินออกไปถาม ภายในใจหยุนชางครุ่นคิดอยู่หนึ่ง หากแต่ก็พับเก็บแผนถึงไป พร้อมหันไปมองจิ่งเหวินซีที่เดินเข้ามานั้น จึงยิ้มให้เล็กน้อย "ได้ยินมาจากเสนาบดีจิ่งว่า พี่สาวจิ่งพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ยังคิดอยู่ว่าวันนี้อาจจะไม่เจอท่านเสียแล้ว มิคาดคิดว่าจะเจอท่านที่นี่"

จิ่งเหวินซีทำทีมิสนใจเสียงเยาะเย้ยของหยุนชาง พลางเดินเข้าไปหาหยุนชางอย่างใจเย็น พร้อมคุกเข่าลงกับพื้นว่า "ถวายพระพรหวางเฟย"

หยุนชางรีบร้อนไปพยุงจิ่งเหวินซีขึ้นมา "พี่สาวจิ่งอย่าได้มากพิธี"

สายตาของจิ่งเหวินซีมองไปยังเจิ้งมามาที่ยืนอยู่ข้างจิ่นเฟย ในมือพลันโอบอุ้มห่อผ้าอยู่ "นั่นมิใช่ท่านชายน้อยหรือ? น่ารักหรือไม่ ? " จิ่งเหวินซีพูดอยู่นั้น พลางเดินไปยังเบื้องหน้าของเจิ้งมามา พลันเอื้มมือไปแตะที่ใบหน้าของเฉินซี เจิ้งมามารีบถอยหลังไปสองก้าว พร้อมพูดขึ้นมาว่า "ท่านชายน้อยมิถูกกับคนแปลกหน้าเพคะ เกรงว่าเมื่อเห็นพี่สาวจิ่งแล้วจะร้องให้ออกมา ยากที่จะปลอบให้หยุดลงได้"

จิ่งเหวินซียิ้มพลางค่อย ๆ ลดมือออกมา

หยุนชางกลับรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ เมื่อครู่ตอนที่จิ่งเหวินซีเห็นเฉินซีนั้น แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น. หากแต่ตามสามัญสำนึกของผู้คนแล้ว เฉินซีเป็นเพียงแค่เด็กทารกเท่านั้น แต่ก่อนที่วังเฟิ่งไหลนั้น จิ่งเหวินซีทำร้ายเฉินซีเพื่อที่จะใส่ร้ายนาง หากแต่ในวันนี้ นางมิได้มิได้มีสายตาที่เกลียดชังเฉกเช่นในวันวานแม้แต่น้อย ทว่าเมื่อเห็นเฉินซีนั้นสายตาความเคียดแค้นพลันโกธรขึ้นมากกว่าเดิม

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนิ่ง พลางดึงจิ่งเหวินซีออกมา พร้อมหัวเราะขึ้นมาว่า "วันนี้เฉินซีร่างกายไม่ค่อยดี แม้แต่เปิ่นหวางเฟยยังไม่กล้าอุ้มเขา เกรงว่าเขาจะร้องให้ออกมาได้. หากได้ร้องแล้ว คงทำเสียงดังไปทั้งวันเป็นแน่ ในเมื่อพี่สาวจิ่งมาแล้ว นั่งลงสักหน่อยเถิด พี่สาวจิ่งสามารถพูดคุยกับฮูหยินที่รู้จักกันได้ อีกสักชั่วยาม ถึงจะเข้าไปยังเกาะเผิงไหลได้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง