จักรพรรดิหนิงได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเสียงดัง "เจ้าตัวแสบ เห็นว่าตัวเองจะแพ้แล้วจึงหาทางบิดพลิ้ว ยังจะมาขอรางวัลจากเจิ้นอีกหรือ? ขอโดนโบยสิไม่ว่า ช่างเถอะๆ ไม่กี่วันมานี้มีคนส่งชาต้าหงเผามาให้ จิ้งอ๋องชอบดื่มนัก เจ้าเอากลับจวนไปเถอะ"
"ชางเอ๋อร์เป็นคนอยู่เป็นเพื่อนเสด็จพ่อ ไม่ใช่ท่านอ๋องเสียหน่อย เสด็จพ่อลำเอียง ให้เขาไม่ให้หม่อมฉัน" หยุนชางถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ยอย่างเชื่องช้าราวกับน้อยเนื้อต่ำใจเสียเป็นอย่างมาก
จักรพรรดิหนิงจึงหัวเราะขึ้นมาอีก "ตกลงๆ ของที่เจิ้นให้เจ้ายังไม่มากพออีกหรือ เจ้าแทบจะย้ายพระราชวังไปไว้ที่จวนอ๋องแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรจะให้เจ้า ติดไว้ก่อน รอเจ้ามีอะไรอยากได้แล้วค่อยมาขอข้าก็แล้วกัน"
"เช่นนั้นก็ดีเลยเพคะ" หยุนชางหรี่ตาลง หัวเราะแล้วหันมามองจิ่งขุยที่ยืนอยู่กลางตำหนัก ข้างกายเขายังมีชายหนุ่มหน้าตาคมคาย เมื่อชายคนนั้นเห็นหยุนชางก็อึ้งไป ดวงตาฉายแววตื่นตะลึงแต่เขาก็รีบเก็บซ่อนมันไว้อย่างรวดเร็ว
"เกรงว่าท่านอัครมหาเสนาบดีจิ่งคงจะได้ข่าวว่าเสด็จพ่อพบนักฆ่าเข้า จึงได้เข้าวังมาพบโดยเฉพาะ" หยุนชางหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ได้มีท่าทีที่จะจากไปแต่อย่างประการใด
ผู้บัญชาการทหารองครักษ์เห็นว่าจักรพรรดิหนิงไม่ได้มีท่าทีกล่าวโทษแต่อย่างใดจึงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง "ฝ่าบาท ยามที่กระหม่อมค้นจวนท่านอัครมหาเสนาบดี...เจอศพของเมิ่งเจี๋ยยวี๋พ่ะย่ะค่ะ"
มือที่คีบหมากของจักรพรรดิหนิงชะงักไป เขาไม่ได้พูดอะไร หยิบหมากบนกระดานเก็บใส่กล่องหมากอย่างเชื่องช้า
หยุนชางกลับมีท่าทีตกใจ "ศพของเมิ่งเจี๋ยยวี๋? นางไม่ได้ฆ่าตัวตายในวังหรือ? เหตุใดศพจึงไปอยู่ที่จวนของท่านอัครมหาเสนาบดีได้? พบที่ไหนหรือ?"
ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ลอบมองจักรพรรดิหนิงอย่างระมัดระวังแล้วจึงตอบว่า "ในกำแพงของเรือนของคุณชายจิ่งพ่ะย่ะค่ะ"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้านิ่งๆ "ให้คนไปตรวจดูที่ศพหรือยัง? แน่ใจแล้วหรือว่าเป็นเมิ่งเจี๋ยยวี๋?"
ผู้บัญชาการทหารองครักษ์จึงรีบตอบว่า "กระหม่อมรีบกลับวังมารายงานจึงได้ให้ใต้เท้าหัวหน้าหวงเฉิงฝู่เป็นคนจัดการพิสูจน์ศพ คิดว่าอีกไม่นานก็คงรู้ผล"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้าเล็กน้อย "เช่นนั้นก็รอก่อนเถอะ" แต่กลับไม่ได้ให้คนนำที่นั่งมาให้จิ่งขุย จิ่งขุยยิ่งหน้าซีดลงไปอีกและเอ่ยเสียงเบาว่า "ฝ่าบาท เรื่องนี้มีคนปรักปรำหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่รู้ว่าศพของเมิ่งเจี๋ยยวี๋มาอยู่ในจวนของหม่อมฉันได้อย่างไร"
จักรพรรดิหนิงเก็บหมากเสร็จแล้วรับผ้าจากขันทีเจิ้งมาเช็ดมือแล้วจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยว่า "เป็นเรื่องปรักปรำหรืออะไรเดี๋ยวก็จะรู้ผลเอง"
เมื่อรอไปประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์เมืองหลวงก็เข้ามารายงาน "กราบทูลฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยืนยันตัวตนแล้ว หญิงสาวผู้นั้นคือเมิ่งเจี๋ยยวี๋จริงๆ นอกจากนี้ตอนที่นางตายนางยังตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้าและหันไปมองจิ่งขุยอยู่เป็นเวลานาน "ตอนเมื่อไม่กี่วันมานี้ที่เมิ่งเจี๋ยยวี๋เสียชีวิต เจิ้นให้คนไปเก็บข้าวของที่ตำหนักของนางได้พบของบางสิ่งบางอย่าง ขันทีเจิ้ง ไปหยิบมาให้ใต้เท้าจิ่งกับคุณชายจิ่งดู"
ขันทีเจิ้งรีบขานรับและไปหยิบถาดหนึ่งมาจากด้านข้างแล้วถือมันไปหาจิ่งขุย จิ่งขุยขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองดูเล็กน้อยก็เห็นว่าในถาดนั้นมีซองจดหมาย ผ้าเช็ดหน้า ถุงผ้าเล็กๆ และยังมีเสื้อเด็กเล็กที่ยังทำไม่เสร็จ
จิ่งขุยเอ่ยเสียงเบา "ฝ่าบาทให้หม่อมฉันดูของเหล่านี้ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
จักรพรรดิหนิงหัวเราะเบาๆ สายตาของเขาแข็งกระด้าง "เช่นนั้นก็ให้คุณชายจิ่งดูเถอะ"
ภายในตำหนักเงียบลง ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอยู่ครู่ใหญ่ กลับเป็นหยุนชางที่หัวเราะออกมา ในมือนางหยิบหมากขึ้นมาแล้วถือมันไว้หลวมๆ หมากตกลงไปในกล่องเก็บหมากทีละเม็ดๆ เกิดเสียงกิ๊งดังกังวาน "เมื่อครู่คุณชายจิ่งยอมรับข้อหาแล้ว ข้ากลับไม่คิดว่าเสด็จพ่อจัดการไม่ถูกตรงไหน เมื่อท่านพูดถึงจิ้งอ๋อง..." หยุนชางยกมุมปากโค้งขึ้น "หากท่านสามารถหาเขาพบแล้วก็ช่วยจับเขามาด้วย ข้าขอขอบคุณท่านไว้ล่วงหน้า"
หน้าบนหน้าของจิ่งขุยสั่นกระเพื่อมเล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงแค่เบือนหน้าหนี เขาทนดูจิ่งเหวินหลานถูกทหารลากออกไปไม่ได้
"บุตรของท่านกระทำการชั่วช้า ท่านเองก็สำนึกตนอยู่ที่จวนเถิด ช่วงนี้เจิ้นให้เจ้าไม่ต้องมาราชการ หากไม่มีอะไร ท่านอัครมหาเสนาบดีและคนในจวนท่านก็ไม่ต้องออกจากจวน" จักรพรรดิหนิงกวาดตามองจิ่งขุยอย่างเรียบเฉยแล้วโบกมือ "ไปเถอะ"
จิ่งขุยหันหลังกลับ ขาของเขาสั่นเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่จึงจะสามารถควบคุมอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาในใจได้แล้วจึงค่อยๆ เดินออกจากตำหนักฉินเจิ้งไป ด้านหลังมีเสียงของจักรพรรดิหนิงและหยุนชางดังแว่วมา
"ดึกดื่นเช่นนี้แล้ว เจ้ากลับจวนอ๋องคนเดียวเจิ้นไม่วางใจ ที่ตำหนักชิงซินของเจ้านั้น เจิ้นให้คนคอยดูแลรักษาทำความสะอาดอยู่เสมอ นางกำนัลที่เคยอยู่ที่นั่นนอกจากผู้ที่เจ้าพาไปอยู่ที่จวนด้วยแล้ว คนอื่นๆที่เหลือก็ยังอยู่ที่นั่นหมด วันนี้เจ้าก็นอนเสียที่ตำหนักชิงซินเถอะ" เสียงของจักรพรรดิหนิงเต็มไปด้วยความโปรดปรานนาง
หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา "เสด็จพ่อใจดีที่สุดเลยเพคะ ชางเอ๋อร์เองก็ง่วงแล้ว ขอทูลลาก่อนนะเพคะ คืนนี้เสด็จพ่อทรงมีเรื่องให้ตกพระทัยมามากก็รีบพักผ่อนเถอะเพคะ"
จักรพรรดิหนิงส่ายหน้า "อีกเดี๋ยวจะถึงเวลาว่าราชการแล้ว เจิ้นออกว่าราชการแล้วค่อยนอน"
หยุนชางตอบรับแล้วจากไป เฉี่ยนอินรออยู่ที่ด้านนอกตำหนัก เมื่อเห็นหยุนชางออกมาแล้วก็รีบตามไป "พระชายา พวกเราจะกลับจวนหรือไม่เพคะ?"
"ไม่ เรากลับตำหนักชิงซินเถอะ ข้าขอนอนสักหน่อยแล้วค่อยกลับจวนอ๋อง ข้าง่วงแล้ว" นางพูดพลางเดินนำเฉี่ยนอินไปทางตำหนักชิงซิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...