จักรพรรดิหนิงพยักหน้า "จิ่งขุยยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเจิ้น เจิ้นจะให้องครักษ์เงาไปจัดการเขาแล้วจะบอกว่าเขาฆ่าตัวตายหนีความผิดและประกาศออกไปว่าจิ่งขุย ชางเจียชิงซูร่วมมือกับหลี่จิ้งเหยียนสังหารชางเจียคังหนิงแล้วใส่ร้ายจิ้งอ๋อง พอถึงเวลานั้นก็คงไม่มีใครสงสัย"
"เพคะ ควรเป็นเช่นนั้นเพคะ" หยุนชางตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วกล่าวเสริมว่า "หลักฐานในสองคดีก่อนหน้านี้หยุนชางจะให้คนส่งมาให้เสด็จพ่อให้เพื่อให้เสด็จพ่อตัดสินด้วยพระองค์เอง แต่ชางเอ๋อร์มีเรื่องหนึ่งอยากขอร้อง"
"หือ?" จักรพรรดิหนิงเลิกคิ้วและเอ่ยอย่างเรียบเฉย "อยากให้เจิ้นไว้ชีวิตองค์ชายเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยและหาแพะรับบาปมาแทนที่เขา?"
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยรับเสียงเบา "เพคะ"
จักรพรรดิหนิงจ้องมองผีเสื้อบนปิ่นปักผมบนศีรษะของหยุนชาง เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า "จิ้งอ๋องกลับไปที่จวนแล้วหรือ?"
หยุนชางชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา "เพคะ ชางเอ๋อร์พอมีความสามารถอยู่บ้าง เสด็จพ่อก็คงจะทรงทราบอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะจิ้งอ๋อง ชางเอ๋อร์จะหาหลักฐานได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร"
สายตาของจักรพรรดิหนิงดูลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า "พวกเจ้าจะตามเซี่ยหวนอวี่ไปแคว้นเซี่ยหรือ? จะไปเมื่อไหร่กันล่ะ?"
"วันที่แปดของเดือนหน้าเพคะ" เสียงของหยุนชางยิ่งเบาลงไปอีก
"วันที่แปดเดือนหน้า ตอนนี้ก็วันที่สามสิบแล้ว ยังเหลืออีกแปดวัน" จักรพรรดิหนิงถอนหายใจ "เจิ้นตกลงรับปากตามที่เจ้าขอ เจิ้นจะบอกเซี่ยหวนอวี่เอง หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นลูกสาวที่เจิ้นโปรดปราน เจิ้นจะไม่ปล่อยลูกชายของเขาไปแน่ เขาเป็นหนี้ชีวิตเจ้า ให้เขาเห็นแก่บุญคุณครั้งนี้และปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดียามเจ้าอยู่ที่แคว้นเซี่ย ยามเจ้าอยู่แคว้นเซี่ยสถานะคงไม่เหมือนยามที่อยู่แคว้นหนิง การที่เจ้าวู่วามจัดการเรื่องนั้นเรื่องนี้คิดว่าข้าไม่รู้งั้นหรือ ไม่รู้ว่าเจิ้นจัดการเก็บกวาดให้เจ้าไปกี่รอบแล้วเสียด้วยซ้ำ ต่อไปเมื่อไปอยู่ที่แคว้นเซี่ย จำไว้ว่าต้องทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง ฮองเฮา องค์หญิงและนางสนมต่างๆ ที่แคว้นเซี่ยแต่ละคนนั้นจัดการไม่ได้ง่ายเลย"
จักรพรรดิหนิงเคยชินกับการทำตัวเป็นจักรพรรดิ ยากนักที่เขาจะพูดออกมามากมายเช่นนี้ หยุนชางรู้สึกเพียงว่าปลายจมูกของนางแสบร้อน นางเงียบไปอยู่นานกว่าจะบังคับให้หยดน้ำในดวงตาอันเปียกชื้นนั้นย้อนกลับเข้าไปแล้วจึงผงกศีรษะรับคำ "ชางเอ๋อร์เข้าใจแล้ว ชางเอ๋อร์จะจดจำคำสอนของเสด็จพ่อให้ขึ้นใจเพคะ"
"ไปเถอะ" จักรพรรดิหนิงโบกมือและเอ่ยอย่างราบเรียบ
หยุนชางกลับไปที่จวนก็พบว่าจิ้งอ๋องอยู่ที่นั่นแล้ว "หลักฐานได้ถูกจัดการและส่งเข้าวังไปแล้ว เรื่องนี้คงจะจบลงในไม่ช้า"
หยุนชางพยักหน้าช้าๆ "เพคะ เสด็จพ่อก็รับปากแล้วเช่นกันว่าจะทรงไว้ชีวิตองค์ชายเจ็ด"
จิ้งอ๋องได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยยกมือขึ้นมาโอบหยุนชางเข้าสู่อ้อมแขนอย่างช้าๆ "ยังเหลือเวลาอีกเจ็ดแปดวัน ใช้เวลากับจิ่นกุ้ยเฟยและเสด็จพ่อของเจ้าให้มากเถอะ"
หยุนชางอ้าปากเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าลำคอของนางแห้งผาก ผ่านไปครู่ใหญ่จึงได้พูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง "ไม่เป็นไรเพคะ"
ไม่จำเป็น เพราะถึงอย่างไรก็ต้องจากกันอยู่ดี หากพบกันมากขึ้น นางเกรงว่าเวลาจากกันจะยิ่งยากขึ้นไปอีก หยุนชางเดินกลับห้องไปอย่างเงียบเชียบ นางนอนลงบนเบาะนุ่มคล้ายกับหมดเรี่ยวแรงและในไม่ช้าก็ผล็อยหลับไป
"ใครชนะ?" เมื่อเห็นหยุนชางกลับมา จิ้งอ๋องก็เงยหน้าขึ้นถามอย่างแผ่วเบา
หยุนชางยิ้มน้อยๆ และนั่งลงที่เบาะด้านข้าง "แน่นอนว่าต้องเป็นชางเอ๋อร์"
จิ้งอ๋องจึงยิ้มตามและไม่ได้พูดอะไรอีก สายตาของเขาไม่ได้ละไปจากหนังสือในมือ หยุนชางจึงหันไปพูดกับเฉี่ยนอินว่า "เก็บของเรียบร้อยแล้วหรือ?"
"ทูลพระชายา เกือบเสร็จแล้วเพคะ พวกเสื้อผ้าไม่ต้องนำไปมากนัก พอถึงแคว้นเซี่ยแล้วค่อยซื้อเพิ่มก็ได้ ส่วนของอื่นๆ ช่วงนี้มีของที่องค์จักรพรรดิทรงประทานให้เล็กน้อย แต่ก็ล้วนเป็นของชิ้นเล็กแต่ล้ำค่ามาก หม่อมฉันจึงนำไปหมด คิดว่าเมื่อถึงแคว้นเซี่ยแล้วจะได้ใช้ประโยชน์ ส่วนที่เหลือที่นำไปมากที่สุดก็เป็นพวกหนังสือและภาพวาดของท่านอ๋องกับพระชายา สำหรับข้ารับใช้นั้นหม่อมฉันได้เตรียมบ่าวและสาวใช้ฝั่งละสิบหกคนเพคะ" เฉี่ยนอินก้มหน้าอธิบายไปทีละอย่างแล้วจึงยิ้มให้หยุนชาง "พระชายาต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือไม่เพคะ?"
หยุนชางคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ส่ายหัว "ไม่มีอะไรแล้ว ของที่ขาดไปต่างก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ถึงเวลาค่อยซื้อใหม่ก็ได้" แต่นางกลับเงยขึ้นมองจิ้งอ๋อง "พอไปถึงแคว้นเซี่ยแล้ว จะย่ำแย่เพียงใดท่านอ๋องก็ยังเป็นถึงองค์ชาย คงไม่ถึงขั้นซื้อของใช้ปกติไม่ได้หรอกนะเพคะ?"
จิ้งอ๋องยิ้มและลูบหัวหยุนชางเบาๆ "พูดอะไรอย่างนั้น? ข้าให้พ่อบ้านเอาร้านและที่ดินที่อยู่ภายใต้นามของข้าไปแลกเป็นเงินมาหมดแล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะให้พ่อบ้านนำสมุดบัญชีมาให้เจ้าดู ข้าไม่เชี่ยวชาญด้านนี้ เจ้าเอาไปจัดการดูแลเถอะ"
"ถ้าเช่นนั้นหากท่านอ๋องอยากได้เงินไปใช้ก็ต้องมาขอจากพระชายานะเพคะ" เมื่อเฉี่ยนอินได้ยินเช่นนั้นนางก็พูดติดตลกขึ้น
จิ้งอ๋องกลับไม่โกรธและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "สิ่งของและผู้ที่ทำให้ข้าต้องใช้เงินคงมีไม่มากนัก ทุกเดือนมีเพียงร้อยตำลึงก็น่าจะเพียงพอแล้ว หากข้าประหยัดอดออมได้อีกก็จะมีเงินเพิ่มให้ฮูหยินไปซื้อเครื่องประทินโฉมหรือเครื่องประดับได้อีกด้วย" ทันใดนั้นทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...