จิ่งขุยถูกลอบสังหาร หลี่จิ้งเหยียนเสียชีวิตหลังจากถูกคุมขังไม่นาน ส่วนจิ่งเหวินซี หยุนชางก็ส่งให้จักรพรรดิหนิง ไม่ได้สืบถามอีกต่อไป ในชั่วพริบตา ก็เป็นวันที่แปดของเดือนสี่
ในวันที่แปดของเดือนสี่ อากาศค่อนข้างมืดมน แต่เป็นวันที่เหมาะสมสำหรับการจากลาหยุนชางก้มศีรษะลงและมองดูดอกเหมยที่ปักอยู่ที่ชายกระโปรงและคิดอยู่ในใจ
เซี่ยหวนอวี่และจิ้งอ๋องเข้าวังเพื่ออำลาจักรพรรดิหนิง แต่นางเป็นผู้หญิง ดังนั้นนางจึงไม่สามารถเข้าวังได้ในโอกาสดังกล่าว ในขณะนี้ นางทำได้เพียงรออยู่นอกเมืองหลวง รอเซี่ยหวนอวี่และจิ้งอ๋องกลับมา ก็ออกเดินทางได้
เฉี่ยนอินนั่งรถม้าเดียวกันกับหยุนชาง ยื่นศีรษะออกจากหน้าต่างรถม้าและมองออกไป เสียงของนางแฝงด้วยความใจหายเล็กน้อย "พระชายา มีอะไรเกิดขึ้นในวังหรือไม่เพคะ ทำไมจิ่นกุ้ยเฟยถึงไม่เสด็จออกมาเพคะ?"
หยุนชางกวาดมองใบหน้าของเฉี่ยนอิน พูดเบาๆ "ไม่ต้องดูแล้ว เสด็จแม่ไม่มาหรอก ข้าไม่ได้บอกเสด็จแม่ ว่าข้าจะออกจากเมืองหลวงในวันนี้"
เฉี่ยนอินหันศีรษะของนางกระทันหัน แทบจะกระแทกกับบนผนังด้านหลัง นางรีบเหยียดศีรษะกลับอย่างรวดเร็ว จ้องไปที่หยุนชางด้วยดวงตาเบิกกว้าง "พระชายามิได้แจ้งกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงหรือเพคะ? ทำไมหรือเพคะ?"
หยุนชางหลับตาลง "ไม่ทำไม ข้ากลัวการจากลาที่สุด ถ้าเสด็จแม่ร้องไห้ ข้าเกรงว่าข้าจะรู้สึกเสียใจภายหลัง"
ดูเหมือนว่ามีเสียงดังมาจากข้างนอก เฉี่ยนอินจ้องไปที่หยุนชาง แล้วยื่นศีรษะออก หลังจากมองดูสักพัก นางก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า "พระชายา ท่านอ๋องกลับมาแล้วเพคะ" จากนั้นเสียงของนางก็มีความอ้างว่างเล็กน้อย "ทำไมท่านอ๋องเสด็จกลับมาเร็วจังเลยนะเพคะ"
หยุนชางหลับตา ไม่มีรอยยิ้มใดๆที่มุมปากของนาง และพูดเพียงเบาๆว่า "ช้าหรือเร็วก็ไม่ความแตกต่างอะไร?"
ดูเหมือนว่ามีเสียงเกือกม้าเข้ามาใกล้รถม้าของหยุนชาง เฉี่ยนอินรีบดึงแขนของหยุนชาง "ท่านอ๋องเสด็จมาทางนี้เพคะ" จากนั้นเขาก็ดึงหยุนชางไปที่หน้าต่าง และเปิด ม่านหน้าต่าง เพื่อให้คนข้างนอกมองเห็นได้
"ชางเอ๋อร์ ฝ่าบาทให้ข้าส่งจดหมายถึงเจ้า" จิ้งอ๋องมองเข้าไปในรถม้า และยื่นจดหมายให้ หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะได้รับจดหมาย จากนั้นนางก็ยิ้มให้จิ้งอ๋อง กล่าวว่า "เพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋อง..." และรู้สึกว่าการเรียกท่านอ๋องดูจะไม่เหมาะสม นางจึงหยุดและไม่พูดต่อ
"ออกเดินทางได้!" มีเสียงตะโกนจากด้านนอก และค่อยๆส่งผ่านจากด้านหน้า จากขบวนด้านหน้าทยอยส่งสารมายังขบวนหลัง ในตอนท้าย รถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัว หยุนชางพิงกำแพงรถม้า มือของนางบีบซองจดหมายแน่น หัวใจของนางรู้สึกปวดร้าว แคว้นหนิง สถานที่ที่ให้กำเนิดนางและแบกรับความสุขและความเจ็บปวดของนางไว้มากมาย กำลังจะต้องกล่าวคำอำลาแล้ว
"ชางเอ๋อร์" ดูเหมือนจะมีเสียงวิตกกังวลเล็กน้อยจากด้านหลัง หัวใจของหยุนชางก็รัดแน่น และเสียงของจิ้งอ๋องก็เข้าดังมาจากภายนอก "จิ่นกุ้ยเฟยเสด็จมา ชางเอ๋อร์ไปพบพระองค์หน่อยเถิด"
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่ง หลับตาและไม่ตอบรับเป็นเวลานาน จิ้งอ๋องกล่าวด้วยความกังวลเล็กน้อย "จิ่นกุ้ยเฟยทรงขี่ม้ามา แต่ดูเหมือนว่าพระองค์ทรงบังคับม้าไม่เป็น ดูท่าทีพระองค์กำลังจะตกจากหลังม้า"
หยุนชางลืมตาขึ้นทันใด ผลักเฉี่ยนอินซึ่งอยู่หน้าหน้าต่างออกไป แล้วมองย้อนกลับไป แต่ไม่เห็นอะไรเลย นางจึงเงยขึ้นมองจิ้งอ๋อง "ท่านอ๋อง ขอยืมม้าของท่านเพคะ" ขณะที่พูด นางก็เปิดประตูรถม้าออก กระโดดลง แล้วรีบขึ้นหลังม้าของจิ้งอ๋อง จับบังเหียน ปรับหัวม้าแล้ววิ่งย้อนกลับไป
ร่างของผู้หญิงคนนั้นชัดเจนขึ้น หยุนชางหยุดอยู่ตรงหน้านาง คว้ากรงหัวม้าของนางไว้ ขมวดคิ้วและมองไปยังผู้หญิงที่มวยผมมีความยุ่งเยิงเล็กน้อย "เสด็จแม่มิต้องการมีชีวิตแล้วหรือเพคะ ทรงขี่ม้าไม่เป็นยังต้องขี่เร็วเยี่ยงนี้"
หยุนชางกลับไปที่รถม้า และเปิดจดหมายที่ยู่ยี่ในมือนางอย่างช้าๆ ดึงกระดาษออกมา แต่เห็นว่ามีราชโองการลับ ห้าคำบนหัวจดหมาย
หยุนชางผงะ และรีบอ่านราชโองการลับอย่างรวดเร็ว แต่นางอดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจอีกครั้งบนใบหน้า และทวนอ่านอีกรอบ ลายมือนั้นเป็นลายมือของเสด็จพ่อจริงๆ และตราประทับบนนั้นก็เป็นของพระองค์ นอกจากนี้ยังเป็นตราประทับขนาดเล็กของเสด็จพ่อ
"พระชายา เกิดอะไรขึ้นเพคะ?" เฉี่ยนอินถามหยุนชาง ขณะมองดูหยุนชางและเงียบไป
หยุนชางกลับมารู้สึกตัวและพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ไม่มีอะไร" จากนั้น นางก็พับจดหมายอย่างระมัดระวังและใส่ไว้ในแขนเสื้อ
แต่ยังคงมีคลื่นลูกใหญ่อยู่ในหัวใจของนาง และราชโองการลับก็คือการส่งบัลลังก์ให้กับเฉินซี เสด็จพ่อได้มอบราชโองการลับเช่นนี้ให้นาง เพื่อให้นางสบายใจ? หรือป้องกันอะไรบางอย่าง?
เนื่องจากนางเพิ่งผ่านการพรากจากกัน และข้อความราชโองการลับของจักรพรรดิหนิง มารบกวนจิตใจของนาง ระหว่างทางหยุนชางจึงรู้สึกไม่ค่อยสบาย คอยเอาแต่กังวล และเมื่อเข้าใกล้เมืองจิ่นแห่งแคว้นเซี่ย กลับกลายเป็นว่านางได้ล้มป่วยลง
จิ้งอ๋องมองดูสีหน้าของหยุนชาง มีความกังวลในใจ จึงได้สละม้าแล้วไปนั่งในรถม้า และดูแลนางทุกวัน การกระทำนี้ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในขบวน และจักรพรรดิเซี่ยตำหนิหลายครั้ง โดยพูดตรงๆ ว่าผู้ชายจะทำเพื่อผู้หญิงเยี่ยงนี้ได้อย่างไร หลิ่วหยินเฟิงไปเยี่ยมหยุนชางหลายครั้งและเห็นว่านางร้อนมาก ใบหน้าของนางแดงก่ำ และนางก็ดูจะป่วยหนักและมีความกังวลใจอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงรีบให้คนรีบกลับไปที่เมืองจิ่นก่อน และไปตามหมอมาดูอาการ หลังจากกินยาเป็นเวลาห้าถึงหกวัน ก็ค่อยๆดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจิตใจจะยังไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าสองวันที่ผ่านมา จิ้งอ๋องและหลิ่วหยินเฟิงจึงรู้สึกโล่งใจมากขึ้น
กลุ่มขบวนเข้าสู่เมืองจิ่น ก็เป็นวันที่สิบสี่เดือนห้าแล้ว เข้าเมืองจิ่นและเข้าไปยังวังหลวง ทุกคนจึงลงจากรถม้า ฮองเฮาซูหรูจีได้นำเหล่านางสนมในวังหลังและเหล่าขุนนางรออยู่ที่ปลายทางเดินฉางเล่อ เซี่ยหวนอวี่ลงจากรถม้าและนำทุกคนค่อยๆเดินไป ฮองเฮาและเหล่าขุนนางนับร้อยทำความเคารพเซี่ยหวนอวี่ "ขอฝ่าบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตลอดไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...