ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 549

เมื่อคิดได้ดังนี้ หยุนชางก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยจึงรีบกล่าวว่า "ตอนที่ท่านอ๋องเข้าวังไปแสดงความขอบคุณ จะพาหม่อมฉันไปด้วยได้ไหมเพคะ?"

ลั่วชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นเหลือบมองหยุนชาง นิ่งคิดไปชั่วขณะแล้วจึงตกปากรับคำ "ตอนที่ข้าถูกกักบริเวณเจ้าก็อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ ไม่ได้เข้าวังนานแล้ว ไปเถอะ"

หยุนชางพยักหน้าและรีบกลับห้องไปกับลั่วชิงเหยียน นางเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งแล้วจึงรีบขึ้นรถม้าเข้าวัง ตอนนี้เวลาประชุมขุนนางได้ผ่านไปแล้ว เซี่ยหวนอวี่น่าจะกำลังทำงานอยู่ในตำหนักหารือ ลั่วชิงเหยียนจึงแยกกับหยุนชางที่ตำหนักหารือ

หยุนชางไม่ได้ไปที่ตำหนักเซียงจู๋ แต่กลับมุ่งตรงไปยังตำหนักหยุนซีแทน

มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่นางมักจะไปนั่งเล่นที่ตำหนักหยุนซีบ่อยๆ นางกำนัลที่ประตูตำหนักก็จำหยุนชางได้เช่นกัน เมื่อเห็นหยุนชางก็คำนับอย่างรวดเร็ว "พระชายาไม่ได้มาหาพระสนมนานแล้ว พระสนมกับองค์หญิงกำลังบ่นถึงอยู่เลยเพคะ วันนี้พระชายามาแล้ว องค์หญิงต้องดีใจมากเป็นแน่เพคะ"

นางกำนัลนำหยุนชางไปยังตำหนักใหญ่ หยุนชางเห็นว่าหยุนกุ้ยเฟยกำลังนั่งปักผ้าอยู่ที่โต๊ะ องค์หญิงเชียนหลิงกำลังคัดพู่กันอยู่อีกด้าน

"เสด็จแม่ ดูสิเพคะ อักษรนี้เชียนหลิงเขียนได้ดีหรือไม่? เมื่อวานท่านอาจารย์ก็ชมข้าด้วย" องค์หญิงเชียนหลิงเงยหน้าขึ้นมองหยุนกุ้ยเฟยด้วยความคาดหวัง

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น หยุนกุ้ยเฟยวางสะดึงลงแล้วหันศีรษะไปมอง แต่กลับเห็นพระชายารุ่ยอ๋องยืนอยู่ที่ประตู แววแห่งความปีติวาบขึ้นในดวงตาของนาง นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า "พระชายามาแล้วเหตุใดจึงไม่เข้ามา ยืนอยู่ที่ประตูทำไม รีบเข้ามานั่งด้านในเถอะเพคะ"

เชียนหลิงได้ยินเช่นนั้นก็รีบหันศีรษะไปทันที นางวางพู่กันในมือลง แล้วรีบวิ่งไปหาหยุนชาง "พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ ท่านมาหาเชียนหลิงหรือ?"

หยุนชางรีบอ้าแขนออกรับร่างของเชียนหลิงเข้ามากอดแล้วหัวเราะ "ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าลายมือของเชียนหลิงพัฒนาขึ้นมากในช่วงนี้ ข้าจึงตั้งใจมาเยี่ยมเจ้าเป็นพิเศษ"

เชียนหลิงได้ยินเช่นนั้นก็รีบหัวเราะคิกคัก ดิ้นออกจากอ้อมกอดของหยุนชางแล้ววิ่งไปที่หยิบกระดาษที่โต๊ะมายื่นให้หยุนชางดู "พี่สะใภ้ ดูสิ ข้าเขียนอักษรรุ่ยได้แล้ว ท่านคิดว่าข้าเขียนได้ดีไหม?"

แม้ว่าอักษรบนกระดาษจะดูไม่เป็นผู้ใหญ่นักแต่ก็ดูเป็นระเบียบ หยุนชางยิ้มและพูดอย่างรวดเร็วว่า "อืม เขียนได้ดีมาก"

เชียนหลิงยิ่งยินดีขึ้นไปอีก หยุนกุ้ยเฟยยิ้มและมองดูอยู่ด้านข้างสั่งให้คนรินชาให้หยุนชาง แล้วจึงเรียกแม่นมขององค์หญิง "วันนี้เชียนหลิงฝึกพู่กันมานานแล้ว ในเมื่อพระชายาชมนางแล้วก็ให้นางไปเล่นที่สวนสักครู่เถอะ เจ้าคอยเฝ้าดูนางให้ดี อย่าให้นางก่อเรื่อง"

เชียนหลิงได้ยินเช่นนั้นก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขและจูงมือของแม่นมเดินออกไป "พี่สะใภ้ เดี๋ยวข้ากลับมา อย่าเพิ่งไปไหนนะ รอข้าก่อน ข้าจะไปเล่นสักพัก"

หยุนชางมองนางแล้วก็ให้รู้สึกขบขัน แต่ก็ยิ้มกว้างรับคำแล้วโบกมือ "ตกลง ข้าไม่ไป องค์หญิงกลับมาเร็วๆ นะ"

เชียนหลิงวิ่งออกจากตำหนักใหญ่ไป ได้ยินเพียงเสียงรับคำลอยแว่วมาส่วนร่างของนางก็หายลับตาไปแล้ว

หยุนกุ้ยเฟยยิ้มและกล่าวว่า "เงียบลงเสียที พอมีเด็กอยู่ข้างๆ ช่างเอะอะนัก ไม่ต้องคิดว่าจะได้คุยกันดีๆ เลย" นางพูดจบแล้วจึงมองหยุนชาง "ข้าได้ยินมาว่ารุ่ยอ๋องสังหารนักแสดงหรือ?"

หยุนชางยิ้มและพยักหน้า หยุนกุ้ยเฟยจึงหัวเราะออกมา "หากจะให้ข้าพูดก็ต้องบอกว่ารุ่ยทำได้ดีมาก นักแสดงเหล่านั้นทุกวันรู้เพียงแต่การยั่วยวนผู้ชาย ชางเอ๋อร์ช่างโชคดีนัก ไม่กี่วันก่อนข้าได้ยินมาว่าผู้คนภายนอกต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ รุ่ยอ๋องจึงกลายเป็นชายในฝันของหญิงสาวมากมาย ต่อไปเจ้าต้องคอยดูเขาให้มากขึ้น" แล้วนางก็ยิ้มออกมา "แต่ข้าก็คงจะกังวลไปเอง ทั้งนิสัยและรูปโฉมเช่นนี้ของชางเอ๋อร์จะมีใครกล้าทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจได้เล่า"

"กุ้ยเฟยล้อเลียนชางเอ๋อร์ไปได้ ต่อไปข้าคงไม่กล้ามาที่ตำหนักหยุนซีแล้ว" หยุนชางกล่าวอย่างแง่งอน

หยุนกุ้ยเฟยหัวเราะออกมาอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "ยังโกรธอยู่หรือ เจ้าไม่ให้ข้าพูดข้าก็จะไม่พูดแล้ว เจ้าไม่ได้เข้าวังมาเกือบเดือนแล้วนี่ ท่านอ๋องถูกกักบริเวณ เจ้าก็ไม่ยอมออกจากบ้านด้วยหรือ?"

"ไม่มีอะไรหรอกเพคะ เพียงแต่เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศกำลังดี ข้าจึงเกียจคร้านและยิ่งขี้เกียจออกจากบ้าน เพียงแต่กินและนอนอยู่ในจวนไปวันๆ เท่านั้น" หยุนชางพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง "ไม่ได้เข้าวังมานาน แต่หม่อมฉันได้ยินมาว่ามีนางสนมมาเพิ่มขึ้นมาก เมื่อครู่ก็พบคนแปลกหน้ามากมาย"

หยุนกุ้ยเฟยถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินเช่นนั้น นางกล่าวอย่างเศร้าสร้อยเล็กน้อยว่า "ในวังแห่งนี้ขาดคนแปลกหน้าไปเมื่อใดกัน? ข้าเคยชินเสียแล้ว หญิงสาวที่มาแล้วก็ไปเหล่านี้มีมากมายกว่าดอกไม้ในอุทยานหลวงเสียอีก วันนี้เห็นว่าดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง บางทีอีกไม่กี่วันก็ไม่มีเงาเสียแล้ว อย่างไรข้าก็ไม่มีความคิดที่จะแย่งชิงความโปรดปรานจากฝ่าบาทอยู่แล้วจึงได้สงบหน่อย มีเชียนหลิงอยู่เป็นเพื่อนข้าในทุกวันข้าก็พอใจแล้ว โชคดีนักที่เชียนหลิงเป็นผู้หญิง"

"เชียนหลิงเป็นคนช่างใส่ใจ กุ้ยเฟยมีนางอยู่ต้องไม่รู้สึกเหงาแน่" หยุนชางพูดเบาๆ

หยุนกุ้ยเฟยรีบย่อตัวลงปลอบเชียนหลิง หยุนชางเห็นดังนั้นจึงหันไปมองแม่นมแล้วถามขึ้น "แม่นมเป็นอะไรมากไหม?"

สีหน้าของแม่นมยังมีความเจ็บปวดอยู่บ้าง แต่นางก็ส่ายหน้า "ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่เอวกระแทกโต๊ะหินเท่านั้น"

"เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?" หยุนชางถามเสียงเรียบ

แม่นมรีบตอบว่า "องค์หญิงเชียนหลิงกำลังเล่นอยู่ในอุทยาน เห็นว่าดอกเบญจมาศดำในสวนกำลังบานสวยดี นางจึงต้องการเด็ดมันมาเล่น แต่จู่ๆ นายหญิงผู้นี้ก็พุ่งเข้ามาและบอกว่าเบญจมาศดำเหล่านี้บิดาของนางส่งเข้าวังมา จะเด็ดไม่ได้ เดิมทีองค์หญิงเชียนหลิงก็มีนิสัยไม่ยอมใคร เมื่อได้ยินนายหญิงพูดดังนั้น นางก็ยิ่งดื้อรั้นจะเด็ดให้ได้ นายหญิงผู้นี้เกรงว่าคงจะร้อนรนไปเสียหน่อยจึงได้ก้าวเข้าไปดึงตัวองค์หญิง องค์หญิงไม่ทันได้ระวังจึงล้มลงกับพื้น หม่อมฉันจะเข้าไปช่วยพยุงขึ้น นายหญิงก็ผลักหม่อมฉันออกมาจึงได้ไปกระแทกโต๊ะหินด้านหลังเข้า"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า จ้องมองไปยังหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วถามว่า "เจ้าเป็นสาวงามที่เพิ่งเข้าวังมาใหม่หรือ? เงยหน้าขึ้นให้ข้าดูหน่อย เจ้าชื่ออะไรหรือ?"

หญิงสาวคนนั้นตัวสั่นเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้นช้าๆ และตอบเสียงเบา "หม่อมฉันชื่อจ้าวเซียนอู่เพคะ"

จ้าวเซียนอู่ ชื่อนี้หยุนชางเห็นจากในรายชื่อหลายครั้ง หยุนชางประเมินหญิงสาวตรงหน้าอย่างละเอียด นางมีผิวขาวนวลสะอาด มองดูแล้วก็ดูเป็นเจ้านายที่อ่อนโยนและสง่างาม เพียงแต่นิสัยไม่เหมาะกับการอยู่ในวังหลังนัก "เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่เจ้าดึงตัวไว้เมื่อครู่คือใคร?"

ดวงตาของหญิงสาวนางนั้นจ้องไปที่เชียนหลิงและหยุนกุ้ยเฟยแล้วจึงรีบก้มศีรษะลงอีกครั้ง "เมื่อครู่หม่อมฉันไม่ได้ระวัง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นองค์หญิงเพคะ"

ขณะที่หยุนชางกำลังจะพูด หยุนกุ้ยเฟยก็ดึงแขนเสื้อของนางไว้ หยุนชางจึงหันไปมองนาง หยุนกุ้ยเฟยส่ายศีรษะเล็กน้อย สายตาของนางมองไปยังด้านหลังของหยุนชาง หยุนชางหันศีรษะไปมองก็เห็นฮองเฮาเดินมาพร้อมกับนางสนมอีกสองสามคน ท่าทางเหมือนจะมาชมดอกเบญจมาศในอุทยานเช่นกัน

หยุนกุ้ยเฟยลูบหลังเชียนหลิงเบาๆ ก่อนจะเอ่ยว่า "เจ้าเข้าวังมาครั้งแรก ผู้ที่ไม่รู้ย่อมก็ไม่ผิด คราวนี้ข้าจะไม่เอาโทษ เพียงแต่หวังว่าเจ้าจะรู้ได้ว่าผู้ที่สามารถเข้ามายังอุทยานแห่งนี้ได้ย่อมมีฐานะสูงส่ง ต่อไปอย่าได้มีเรื่องกับใครโดยไม่ระวังอีก มิเช่นนั้นหากไปทำให้พระสนมคนใดไม่พอใจแล้วเกรงว่าเจ้าจะเดือดร้อน"

ในขณะที่นางพูด ฮองเฮาก็เดินเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าดวงตาของนางก็ฉายแววประหลาดใจ นางจึงเดินเข้ามาหยุดตรงที่ไม่ไกลจากหยุนชางและหยุนกุ้ยเฟยนัก นางกวาดตามองภาพเบื้องหน้าแล้วจึงเอ่ยว่า "เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เอ๊ะ เหตุใดองค์หญิงเชียนหลิงจึงได้ร้องไห้หนักเช่นนี้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง