เสียนฮูหยินที่คอยฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้างมองหยุนชางแล้วจึงยิ้มและกล่าวว่า "เด็กในครรภ์ของพระชายาเรียบร้อยยิ่งนัก ไม่มีอาการแพ้ท้องใดๆ เลย"
หยุนชางยิ้ม "ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ทำข้าทรมานเสียแทบแย่ ตอนนี้เพิ่งจะดีขึ้นหน่อย" พูดจบนางก็แสร้งทำเป็นเหลือบมองไปยังปิ่นบัวทองบนศีรษะของเสียนฮูหยิน ความประหลาดใจฉายขึ้นในดวงตาของนาง "เสียนฮูหยิน ปิ่นนี้งามนัก"
เสียนฮูหยินได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึง นางยิ้มและยกมือขึ้นลูบปิ่นปักผมบนศีรษะนาง ดวงตาของนางฉายแววภูมิใจ "เมื่อครู่เซียงกุ้ยผินก็เอ่ยเช่นนี้ ปิ่นนี้เป็นของจากร้านเฉียนสุ่ยอี้เหรินที่พระชายาชื่นชอบมาโดยตลอด แม่ของหม่อมฉันให้เจ้าของร้านทำขึ้นแล้วจึงส่งเข้าวังมา ไม่ต้องพูดเลยว่าฝีมือของที่นั่นไม่ได้ด้อยไปกว่าในวังเลย อีกทั้งรูปแบบก็แปลกใหม่ ไม่เลวเลยเพคะ"
หยุนชางได้ยินดังนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจ "ที่แท้ก็สั่งทำนี่เอง มิน่าเล่าข้าจึงไม่เคยเห็นมาก่อน"
เมื่อสนทนาเรื่อยเปื่อยไปสักพัก คนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นกล่าวคำอำลา ในตำหนักจึงเหลือเพียงหยุนชาง หนิงเชียนและหลินโยวหรานสามคนเท่านั้น หยุนชางมองดูหลินโยวหรานแล้วจึงกล่าวว่า "เด็กคนนี้ในท้องของเจ้าถูกคนในวังหลังคอยจ้องอยู่ เจ้าจงระวังให้มาก"
หลินโยวหรานพยักหน้าน้อยๆ แล้วจึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว "ข้าน้อยเข้าใจ..."
"อยู่ในวังไม่ต้องมากพิธีกับข้าหรอก ทำทุกอย่างไปตามกฎของวังก็พอ ที่นี่มีหูตาอยู่ทุกหนทุกแห่ง หากถูกเห็นเข้าจะแย่เอาได้" หยุนชางจิบชาในถ้วยอย่างเฉยเมย
หนิงเชียนยิ้มและทอดสายตาลงบนท้องของหลินโยวหราน "ตอนนี้เกรงว่าเด็กคนนี้จะเป็นหนามยอกอกของฮองเฮา ท่านคงไม่รู้ว่าหลังจากที่งานเลี้ยงเมื่อคืนได้จบลงแล้ว ฝ่าบาทมาตำหนักเซียงจู๋เพื่อเยี่ยมเยียนหลินโยวหราน เมื่อเช้านี้ได้ยินคนพูดว่าเมื่อคืนฮองเฮาบันดาลโทสะอย่างหนักที่ตำหนักเว่ยยาง นางกำนัลในตำหนักต่างถูกไล่ให้ไปคุกเข่าอยู่ด้านนอก อากาศหนาวเช่นนี้ นางกำนัลเหล่านั้นช่างลำบากยิ่งนัก"
นางหยุดไปนิดหนึ่งแล้วจึงพูดต่อ "เมื่อโยวหรานท้อง ตามปกติแล้วควรมีการแต่งตั้ง เมื่อวานที่ฝ่าบาทมาก็ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่เช้าวันนี้ฮองเฮาทรงประชวรเกรงว่าคงเป็นเพราะไม่อยากประทับตราในราชโองการ"
หยุนชางไม่แปลกใจนัก "ฮองเฮามักจะนึกว่าวังหลังอยู่ภายใต้การควบคุมของนาง เมื่อจู่ๆ เกิดเรื่องที่นางควบคุมไม่ได้ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อวานฮองเฮายังต้องการเสนอจ้าวเซียนอู่ให้กับฝ่าบาท แต่ก่อนที่นางจะได้พูดอะไรก็ถูกพวกเราก็ขัดจังหวะเสียก่อน เกรงว่าโทสะคงจะถูกเก็บกดไร้ที่ระบายออก แต่นางก็คงแสร้งได้อีกไม่นาน อย่างไรนางก็เป็นฮองเฮาผู้เป็นแบบอย่างแก่ผู้คนในวังหลัง เรื่องอิจฉาริษยานั้นนางไม่อาจแสดงออกมาได้ ไม่เกินสามวันนางจะต้องประทับตราหงส์บนคำสั่งแต่งตั้งและแสร้งทำเป็นยินดีแน่ ข้าไม่กลัวว่านางจะทำเรื่องอะไรในที่แจ้ง กลัวเสียแต่ว่านางจะแอบเล่นงานอย่างลับๆ เสียมากกว่า"
หนิงเชียนพยักหน้า "หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้น ตอนนี้โยวหรานอยู่ที่ตำหนักเซียงจู๋ย่อมมีคนคอยดูแล แต่เมื่อวานพระชายาไม่ได้พูดในงานเลี้ยงหรือว่าที่โยวหรานแพ้ท้องหนักเช่นนี้เป็นเพราะกลิ่นชะมดและหญ้าฝรั่น วันนี้ตอนเช้าฝ่าบาทจึงได้ส่งคนไปตรวจดูในตำหนักที่โยวหรานอยู่แต่เดิม แต่กลับไม่พบอะไรเลย..."
หลังจากหยุดไปนิดหนึ่งจึงนึกขึ้นได้ว่าหยุนชางถามว่าความสัมพันธ์ของนางกับฮองเฮาในช่วงนี้เป็นอย่างไร? หนิงเชียนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า "ในบรรดาสาวงามครั้งนี้ จ้าวเซียนอู่ค่อนข้างจะสนิทสนมกับฮองเฮา ว่ากันว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้จ้าวเซียนอู่มีเรื่องบาดหมางกับหยุนกุ้ยเฟยในอุทยานหลวง ฮองเฮาสั่งลงโทษนาง เพียงแต่เมื่อโทษนางแล้วกลับมีรับสั่งให้นางเข้าเฝ้าและประทานรางวัลให้นางมากมาย"
"ตบหัวแล้วลูบหลัง ฮองเฮาช่างมีแผนการที่ดีนัก" หยุนชางวางถ้วยชาในมือลงแล้วปิดฝาถ้วยชาเบาๆ "งานเลี้ยงเมื่อวาน ในวังหลังมีเพียงจ้าวเซียนอู่เท่านั้นที่เต้นระบำกลางจันทร์ คนฉลาดย่อมต้องรู้ได้ว่าต้องเป็นเพราะฮองเฮาจงใจ เจ้าเพียงต้องทำให้คนอื่นรู้ความจริงข้อนี้ ทำให้ทุกคนรู้ว่าจ้าวเซียนอู่เป็นคนของฮองเฮา"
"ดอกเบญจมาศดำในวัง..." หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ทั้งหมดมาจากบิดาจ้าวเซียนอู่ถวายแด่ฝ่าบาท ทั้งหมดมียี่สิบสี่กระถาง กระถางในตำหนักของหลินโยวหรานก็เป็นจ้าวเซียนอู่ที่ส่งไปด้วยตัวเอง เพียงแต่โยวหรานคงจำไม่ได้แล้ว โยวหรานได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ยังไม่ทันเข้าสู่การคัดเลือกรอบที่สามก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นไฉเหรินแล้วและยังเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทเสมอมา สาวงามที่เพิ่งเข้ามาใหม่ต่างก็นำของกำนัลมามอบให้เจ้ามากมาย"
หนิงเชียนได้ยินเช่นนั้นก็ยกมุมปากขึ้นยิ้มกว้าง "ฮองเฮาและแม่นางจ้าวสนิทสนมใกล้ชิด แต่เบญจมาศดำที่นางมอบให้โยวหรานนั้นกลับมีกลิ่นชะมดและหญ้าฝรั่น... แม้ว่าจะอ้อมไปเสียไกล แต่หากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้เข้าย่อมต้องห่างเหินกับฮองเฮาแน่"
หยุนชางพยักหน้าพลางยิ้มกว้างและลูบท้องของนาง "อิทธิพลของตระกูลซูในราชสำนักนั้นไม่น้อยเลย ตราบใดที่ยังมีตระกูลซูอยู่ ตำแหน่งฮองเฮาจะไม่สั่นคลอน สิ่งที่ข้าต้องการคือทำให้ความประทับใจที่ดีของฝ่าบาทที่มีต่อฮองเฮาค่อยๆ หายไปทีละนิด ทำให้เขารู้สึกถึงความทะเยอทะยานของตระกูลซูว่าพวกเขาไม่ได้เพียงต้องการตำแหน่งเจ้าของวังหลังเท่านั้น แต่ยังทำลายลูกหลานของราชวงศ์และอาจลามไปถึงบัลลังก์ของแคว้นเซี่ย ชายสามคนสร้างเสือ เรื่องโกหกเมื่อพูดมากครั้งเข้าก็อาจกลายเป็นความจริงได้ ยิ่งกว่านั้นนี่ยังเป็นความจริงอีก ในวังหลังของฝ่าบาทเต็มไปด้วยองค์หญิง แต่องค์ชายที่อยู่รอดเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัยนั้นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย หากจะบอกว่าตระกูลซูไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าย่อมไม่มีทางเชื่อแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...