ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 629

เมื่อหยุนชางได้ฟังก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ ลั่วชิงเหยียนช่างเนื้อหอมจริงๆ ใครๆก็อยากจะครอบครองเขา แต่ไม่มีใครถามดูเลยว่าพระชายาเอกที่เด็ดขาดของเขาจะยินยอมหรือไม่

แล้วหยุนชางก็พลันทำสีหน้าถมึงทึง นางคว้าเอาถ้วยน้ำชาเขวี้ยงลงไปบนพื้น ถ้วยน้ำชาแตกเสียงดังฟังชัด สองสามีภรรยาตีะกูลหวังถึงกับสะดุ้งและหน้าถอดสี

หยุนชางลุกขึ้นยืน นางแสยะยิ้มแล้วพูดออกมาว่า "นี่ท่านคิดว่าข้ากำลังต่อรองราคาซื้อขายกับท่านอยู่งั้นหรือ?"

หยุนชางสะบัดแขนเสื้อแล้วพูดต่อไปว่า "ในเมื่อท่านคิดจะต่อรองกับข้าด้วยวิธีนี้ ก็ขอให้ท่านกลับไปเสียเถิด คนที่กำลังนอนหายใจรวยรินหาใช่ข้าไม่ ข้าเองก็ไม่ชอบคนที่จ้องจะแย่งชิงตำแหน่งพระชายารุ่ยอ๋องไปจากข้าอยู่แล้ว ไยข้าต้องให้การช่วยเหลือด้วย?" พูดจบนางก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากลานรับแขกในทันทีโดยไม่มีการหันหลังกลับมามองอีกเลย

สองสามีภรรยาตีะกูลหวังมองหน้ากัน พวกเขายังคงอึ้งกับการถูกหยุนชางอาละวาดใส่

หลังจากนั้นไม่นาน หวังฮูหยินก็เริ่มคร่ำครวญ นางถึงกับทุบกำปั้นลงกับพื้น "โถ ลูกแม่ แล้วนี่แม่จะทำอย่างไร อายุเจ้าก็ยังน้อย ต้องมาถูกพระชายาที่ไร้ซึ่งเหตุผลขัดขวางการรักษาชีวิตเจ้า"

หยุนชางที่เพิ่งเดินออกมาจากลานรับแขกได้ไม่นาน เมื่อได้ยินเสียงหวังฮูหยินคร่ำครวญ นางก็แสยะยิ้ม แล้วสั่งการเสียงดังฟังชัดว่า "เด็กๆ มานำตัวหญิงสาวที่กำลังร้องโอดครวญออกไปจากจวนเร็วๆเข้า!"

บ่าวไพร่ที่ทำงานอยู่บริเวณนั้นก็เดินเข้ามาตามคำสั่ง หวังฮูหยินกรีดร้องด้วยความตกใจ "นี่พวกเจ้าจะทำอะไร? พวกเจ้า......" พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกคนปิดปากเข้าให้ บ่าวไพร่ของหยุนชางได้นำตัวนางออกมาที่นอกประตูจวน

"พระชายาเพคะ......" ฉินยีขมวดคิ้ว แล้วร้องเรียกหยุนชางเบาๆเพื่อกล่าวเตือน

หยุนชางยังคงยิ้มระรื่น นางหันไปพูดกับฉินยีว่า "ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมเป็นที่ยำเกรง หวังฉงเหวินกล้ามายื่นเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับข้าเช่นนี้ เป็นการสบประมาทข้าผู้ซึ่งเป็นถึงพระชายารุ่ยอ๋อง เขาคงคิดว่าตำแหน่งพระชายารุ่ยอ๋องนั้นไม่สูงส่งพอ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ข้าจึงทำให้เขาได้เห็น แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเศรษฐีแห่งเมืองจิ่น ถ้าข้าไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องกระเด็นออกไปอย่างที่ข้าต้องการ วันใดที่เขาคิดได้ เขาจะได้รู้ว่าการมาขอความเห็นใจจากผู้อื่นนั้นควรทำเช่นไร ช่วงนี้เรากำลังขาดแคลนทุนทรัพย์อยู่ ทรัพย์สินในมือของหวังฉงเหวิน ข้าจะต้องเอามาให้จงได้"

ฉินยีพยักหน้าแล้วหัวเราะออกมา "สติปัญญาของพระชายาช่างเฉียบแหลมจริงๆเลยเพคะ หม่อมฉันเชื่อมั่นในความสามารถในการแก้ไขปัญหาของพระชายา แต่หม่อมฉันเพียงแต่กังวลว่า การที่หวังฮูหยินถูกขับไล่ออกไปอย่างไร้เกียรติเช่นนั้น นางจะเที่ยวป่าวประกาศไปทั่ว จนส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของท่านอ๋องเพคะ"

"เหอะๆ......" หยุนชางหาได้เป็นกังวลไม่ "แม้ว่าหวังฉงเหวินจะไม่ใช่ขุนนาง แต่ก็ถือเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคมเมืองนี้ คนแบบนี้ มีแต่จะกลัวการถูกหัวเราะเยาะ หวังฮูหยินคงจะไม่กล้าทำเช่นนั้นหรอก"

ฉินยีได้ฟังก็ครุ่นคิด นางถามหยุนชางต่อว่า "ที่พระชายาตรัสมาก็มีเหตุผล แล้วพระชายาคิดว่าจะทรงทำเช่นไรต่อไปดีล่ะเพคะ?"

หลังจากที่ไตร่ตรองดีแล้ว หยุนชางก็ได้ให้คำตอบว่า "เหล่าคหบดีมักให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ เฉี่ยนจั๋ว เจ้าช่วยไปตามเฉี่ยนอินมาทีสิ"

เฉี่ยนจั๋วรับคำ แล้วออกไปดำเนินการให้ในทันที

หยุนชางกลับมานั่งพักผ่อนในห้อง เฉี่ยนอินก็ได้เดินเข้ามาพบนาง นางยิ้มและเอ่ยว่า "เรื่องในวันนี้ หม่อมฉันได้ยินมาจากเฉี่ยนจั๋วแล้วเพคะ พระชายาต้องการให้หม่อมฉันทำเช่นไร โปรดสั่งมาได้เลยเพคะ"

หยุนชางยิ้ม แล้วเดินไปช่วยลั่วชิงเหยียนถอดชุดคลุมออก "ก็ไม่ถึงกับสร้างความวุ่นวายหรอกเพคะ พวกเขาเพียงแค่มาขอให้หม่อมฉันช่วยสั่งการให้หมอหลวงไปตรวจดูอาการและทำการรักษาคุณหนูหวัง การพูดการจาของพวกเขาฟังไม่เข้าหู ก็เลยถูกข้าอาละวาดใส่จนกระเด็นออกไปนอกจวนเลยเพคะ"

"อะไรนะ?" ลั่วชิงเหยียนมองหน้าหยุนชางแล้วก็รู้สึกขัน "หญิงบ้านางนั้นข้ายังนึกเสียดายอยู่เลยที่ไม่ฆ่านางให้รู้แล้วรู้รอด นี่พ่อแม่นางยังมาขอให้เจ้าช่วยอีก ถ้ายังกล้ากลับมาอีกล่ะก็ ข้าจะให้พ่อบ้านเอาไม้ไล่ตีเลยคอยดูสิ"

เมื่อหยุนชางได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา "แต่หวังฉงเหวินเป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองจิ่น หม่อมฉันไม่กล้าทำเช่นนั้นหรอกเพคะ แล้วยิ่งท่านไม่ให้หมอหลวงไปดูอาการคุณหนูหวังแล้ว ก็ยิ่งทำให้หวังฉงเหวินคับแค้นใจ หากจะเอาไม้ไปไล่ตีพวกเขาอีก เกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษหม่อมฉันก็แล้วกันนะเพคะ"

"ฮ่าๆๆๆ......" ลั่วชิงเหยียนหัวเราะออกมาบ้าง เขาดึงหยุนชางเข้าไปกอด "ข้าเลือกคนไม่ผิดจริงๆ นี่สิ ผู้หญิงที่ลั่วชิงเหยียนหลงรัก"

หยุนชางเห็นคนอื่นๆอีกสามคนในห้องกำลังก้มหน้ากลั้นหัวเราะกันอยู่ หลังจากที่พวกนางทูลลาออกไปด้านนอกแล้ว หยุนชางสบตาลั่วชิงเหยียน "หึ คนอื่นๆก็ยังอยู่ในห้องนะเพคะ ดูสิเนี่ย พวกนางพากันหัวเราะใหญ่เลย!"

"ใครมันจะกล้าหัวเราะพวกเรา?" ลั่วชิงเหยียนพาหยุนชางมานั่งที่ตั่ง "ใครมันกล้าหัวเราะพวกเรา ข้าจะตามไปคิดบัญชีกับมันเอง"

หยุนชางมองหน้าลั่วชิงเหยียน "วันนี้ดูท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเพคะ?"

ลั่วชิงเหยียนเลิกคิ้ว เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า "เจ้าช่างเข้าใจดีเสียจริง วันนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นหลายเรื่องเลยล่ะ" ลั่วชิงเหยียนก้มหน้าสบตาหยุนชางแล้วจูบหน้าผากนางเบาๆ "ขุนนางชั้นผู้น้อย แม้จะไม่ได้มีตำแหน่งสูงมาก แต่มีอำนาจดูแลกิจการในวัง รวมถึงบรรดาแม่ทัพที่ข้าไปเยี่ยมเยียนเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาตกลงจะให้การสนับสนุนข้า"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง