ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 631

"เกรงว่าเขาจะทำให้มั่นคง หรือเขาต้องการใช้เงินเพื่อจัดการเรื่องนี้ ในเวลานี้ ต้องให้เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของจวนรุ่ยอ๋อง ให้เขาพบอุปสรรคบ้าง" หยุนชางยิ้มด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย

"ตอนนี้เงินที่เราเอามาใช้ได้มีประมาณเท่าไหร่?" หยุนชางหันศีรษะและมองเฉี่ยนอิน

เฉี่ยนอินเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรีบกล่าวว่า "ไม่มาก ประมาณหนึ่งแสนตำลึงเงินเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า ไม่มากจริงๆ

"จากที่เราจัดวางร้านค้าลับๆไว้ในเมืองหากถูกจัดวางตามที่ข้าต้องการ ก็ควรมีร้านค้าไม่น้อยในมือของเรา เจ้าลองคำนวณจากร้านเหล่านี้ ใช้เงินสักก้อนแล้วเปิดร้านข้างๆหรือตรงข้ามร้านหวังจี้ทั้งหมด โดยขายสินค้าที่เหมือนกัน แต่ราคาต่ำกว่าร้านหวังจี้ และไม่จำเป็นต้องต่ำเกินไป แค่ขอให้ถูกกว่าก็เป็นพอ สามารถเปิดได้เท่าไหร่ก็เปิดเท่านั้น เรื่องเงิน ข้าจะลองหาวิธี" หยุนชางสั่งด้วยเสียงเบา "อีกทั้ง เร่งมือด้วย"

เฉี่ยนอินไม่เข้าใจว่าหยุนชางกำลังจะทำอะไร แต่นางรีบตอบรับ "หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า แล้วได้ยินเสียงของชายแปลกหน้าเดินลงมาที่ชั้นล่าง ดูเหมือนจะเป็นผู้ดูแลของร้านผ้าหวังจี้ ทันทีที่เข้าประตู เขาเริ่มพูดว่าผ้าที่เกิดเรื่องขึ้นไม่ได้ซื้อมาจากร้านหวังจี้

หยุนชางฟังน้ำเสียงของเฉียนสุ่ยที่มีความโกรธเล็กน้อย "เถ้าแก่ร้านหวังจี้ เป็นพวกผู้ดีมักวางมาตรหยิ่งยโส ลืมมิตรภาพเก่าจริงๆ มันเป็นเรื่องของเมื่อวานนี้เอง แต่ทว่าวันนี้ก็มาหักหน้ากัน ไม่ยอมรับแล้ว ในมือของข้ายังมีหลักฐานการซื้อผ้าจากร้านผ้าหวังจี้ ทั้งราคาและลายผ้าก็เขียนไว้ชัดเจน และลายนิ้วมือของเถ้าแก่ร้านหวังจี้เอง อีกทั้งผ้าที่ขายโดยร้านหวังจี้จะมีลายปักบนผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เถ้าแก่ร้านสามารถมาตรวจดูได้ด้วยตัวเองว่า นี่คือสินค้าจากร้านผ้าหวังจี้หรือไม่"

เสียงของชายคนนั้นค่อนข้างหงุดหงิด "ถึงจะเป็นสินค้าจากร้านเรา ผ้าชิ้นนี้ก็ผ่านมือเจ้าไปแล้ว ใครจะไปรู้ได้ว่าเจ้าได้เล่นตลกอะไรหรือไม่ สินค้าในร้านผ้าหวังจี้นั้นเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว จะขายของที่ไม่ดีอย่างนี้ได้อย่างไร และในบรรดาผ้าที่ขายออกไปทั้งหมดนั้น มีเฉพาะผ้าในร้านของเจ้าเท่านั้น ที่มีปัญหา นี่มันแปลกเกินไปหรือไม่?"

ทันทีที่เสียงลดลง ก็ได้ยินเสียงที่ดูกังวลมากดังขึ้นอีกครั้ง "เถ้าแก่ ท่านรีบกลับร้านไปดูที เถ้าแก่ร้านเสื้อผ้า เฝิงจี้บอกว่าผ้าที่ขายให้พวกเขาในวันนี้มีปัญหา และเขาพาคนมาทุบร้านของเราแล้วขอรับ"

ไม่มีเสียงจากด้านล่าง หยุนชางลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองออกไป ได้เห็นชายวัยกลางคนกับคนใช้รีบเบียดผู้คนที่มามุงดูของด้านนอกหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินจากไปอย่างรวดเร็ว

ผ้าในร้านผ้าหวังจี้แน่นอนว่านางสั่งให้คนเล่นลูกไม้บางอย่าง แต่ถ้ามีเพียงหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินเท่านั้นที่มีปัญหา มันก็ดูจงใจเกินไป นางจะไม่ทำผิดพลาดเช่นนี้แน่

นางจะเลือกหอเฉียนสุ่ยอี้เหริน เป็นเพราะแขกในหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงฮูหยินในหลังจวน แตเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับคนในจวน ก็ไม่ใช่แค่เรื่องของฮูหยินแค่นนั้น แม้ว่าจะเป็นหวังฉงเหวินก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้ขุ่นเคืองได้ แต่หวังฉงเหวินคงจะไม่รู้ และผู้ดูแลของร้านผ้าก็ไม่ทราบด้วยเช่นกัน คำพูดเมื่อครู่นี้ เกรงว่าชีวิตในอนาคตของหวังฉงเหวินก็คงจะอยู่ไม่สุขแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนด้านล่างก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป และหยุนชางก็เดินลงไปชั้นล่าง

เฉียนสุ่ยกำลังจะขึ้นไปชั้นบน และเห็นหยุนชาง จึงรีบคำนับอย่างรวดเร็ว "พระชายา"

หยุนชางยิ้มและพยักหน้า "ทำได้ดีมาก ข้าจะกลับจวนก่อน"

เฉียนสุ่ยตอบรับ และเดินตามหยุนชาง ส่งนางออกจากหอเฉียนสุ่ยอี้เหริน

สองวันต่อมา จนถึงวันที่สาม หวังฉงเหวินรีบไปเยี่ยมจวนอีกครั้ง แต่ทว่าต่างจากครั้งที่แล้วก็คือ คราวนี้ เขาไม่ได้มาพร้อมหวังฮูหยิน

หยุนชางได้ฟังพ่อบ้านมารายงาน นางกำลังอ่านบัญชี แต่ไม่ได้ตั้งใจละเลยหวังฉงเหวิน ยื่นบัญชีให้ฉินยี ยืนขึ้นและให้เฉี่ยนหลิ่วสวมเสื้อคลุม จากนั้นเดินไปที่ห้องโถงรับรอง

หวังฉงเหวินสั่นอย่างหนักและยังคงเงียบไม่พูดเป็นเวลานาน

หยุนชางไม่รีบร้อน ตบด้ามจับของเก้าอี้แล้วยืนขึ้น "นายท่านหวังไม่ต้องรีบร้อน ข้าไม่มีธุระอันใด มีเวลามามาย นายท่านหวังคิดไต่ตรองให้ดี ข้าจะไปเดินเล่นก่อน ประเดี๋ยวค่อยกลับมา ถึงเวลานั้น หวังว่าจะได้ยินคำตอบของท่าน"

พูดแล้วยกมือขึ้นปิดปากเบาๆ หาว และดูเหมือนพึมพำกับตัวเอง "ตั้งแต่ตั้งท้องอารมณ์ข้าก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนมากขึ้น เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า อารมณ์ของหญิงนั้นเปลี่ยนเร็วกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสือเสียอีก"

หยุนชางพูดด้วยพลางเดินออกไปนอกห้องโถงรับรอง เมื่อหวังฉงเหวินเห็นเช่นนี้ เขาเริ่มกังวลและรีบตะโกนว่า "พระชายาโปรดก่อน ข้าน้อยยินดี ข้าน้อยเต็มใจขอรับ"

"โอ้?" หยุนชางปิดบังรอยยิ้มในดวงตาของนาง หันกลับมาและกล่าวว่า "นายท่านหวังจะไม่กลับคำใช่หรือไม่?"

"ไม่ขอรับ ไม่เลยขอรับ" หวังฉงเหวินตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ ปวดใจอย่างมาก

หยุนชางรอประโยคของเขา และหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนั้น พูดด้วยเสียงดังว่า "มานี่สิ นำกระดาษพู่กัน เข้ามา แล้วให้นายท่านหวังลงชื่อประทับตราด้วย"

หลังจากเฉี่ยนจั๋วนำกระดาษพู่กันเข้ามา หวังฉงเหวินตะลึงอีกครั้ง เนื้อหาถูกเขียนลงบนกระดาษแล้ว ซึ่งเป็นข้อความว่าเขาตกลงจะโอนหนึ่งในสามของทรัพย์สินของเขา หวังฉงเหวินเงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง กลับเห็นเพียงรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของหยุนชาง แต่ดวงตาของนางที่จ้องมองมาที่เขากลับมีความเย็นชา

หัวใจของหวังฉงเหวินกระตุก และรีบหยิบพู่กันขึ้นมาเพื่อเขียนชื่อของเขาและประทับนิ้วหัวแม่มือลงบนกระดาษ

เมื่อเห็นเช่นนี้ หยุนชางยิ้มและหยิบกระดาษขึ้นมา เมื่อมองดูแล้ว พยักหน้าอย่างพึงพอใจ "อากาศบาดเจ็บของลูกสาวท่าน ประเดี๋ยวจะมีหมอหลวงไปดูอาการที่จวนในภายหลัง แลที่ข้าก็มียาดีๆอยู่ด้วย ข้าจะสั่งให้คนส่งไปที่จวนของท่านทีหลัง ของที่หนึ่งในสามนี้ ในระยะเวลานี้นายท่านหวังก็สั่งให้คนเตรียมไว้เถอะ พยายามเลือกอะไรที่ง่ายต่อการพกพาไม่สะดุดตานัก อย่างเช่นตั๋วเงินหนังสือที่ดินอะไรประมาณนี้ อีกสองวันข้าจะส่งคนไปรับมันที่จวน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง