หวังฉงเหวินพยักหน้าซ้ำๆ สีหน้าของเขาดูแย่อย่างยิ่ง หยุนชางยิ้มเล็กน้อย แน่นอนว่าตบหัวแล้วก็ต้องลูบหลัง "เสียนฮูหยิน แน่นอนว่าข้าจะให้คนคอยดูแลอย่างดี และจะช่วยนายท่านหวังพูดต่อหน้าฝ่าบาทเป็นครั้งคราว ได้ยินว่านายท่านหวังยังมีบุตรชายอีกสองคน? นายท่านหวังวางใจได้ คุณชายทั้งสองจะต้องมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน"
พอพูดเสร็จก็เปลี่ยนเรื่องพูด "แต่ข้าหวังว่านายท่านหวังอย่าได้มาคิดเล่นลูกไม้อะไรกับข้า ข้าไม่ชอบให้ใครมาทำอะไรตุกติกลับหลัง หากถูกข้าจับได้ หือ นายท่านหวังก็ลองดู ลองดูว่าข้าเป็นแมวเชื่องที่เลี้ยงไว้ในหลังจวน หรือเป็นสิงโตที่กินคน…"
หลังจากหยุนชางพูดจบ นางก็ส่งกระดาษให้ฉินยี หันหลังเดินไปที่ประตูห้องโถงรับรอง "พ่อบ้าน ส่งแขก"
พอกลับมาถึงสวน หยุนชางก็แสดงสีหน้าที่มีความสุข และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ตอนนี้เงินพร้อมแล้ว ถ้าเงินถึงมือ ก็นำเงินทั้งหมดไปให้เฉี่ยนอิน เพื่อที่นางจะได้วางใจและกล้าที่จะเปิดร้านที่เหมือนกันใกล้ร้านหวังจี้ สินค้าต้องดีกว่าร้านหวังจี้ และราคาต่ำกว่าของร้านหวังจี้ อืม ชื่อร้านว่าร้านเซียวจี้"
เฉี่ยนจั๋วรีบตอบรับอย่างเสียงดัง และมีความสุขมากเช่นกัน "พระชายาเอ่ยปากก็เรียกร้องเอาทรัพย์สินหนึ่งในสามของเขา ตาเฒ่าหวังนั่นมีสีหน้าปวดใจมาก ถ้าพี่เฉี่ยนอินสามารถเปิดร้านพวกนั้นขึ้นมาได้ เกรงว่าอีกไม่นาน ร้านหวังจี้อะไรนั่นจะหายตัวไปจากเมืองจิ่นทีละแห่ง"
หยุนชางเดินไปที่เบาะและนอนลง พยักหน้า "เพียงแค่ความมั่งคั่งของหวังฉงเหวินนั้นกว้างใหญ่ เขายังคงสามารถควบคุมในชุมชนค้าขายของเมืองจิ่นได้อย่างง่ายดาย ต้องให้เฉี่ยนอินต้องระวังให้มากกว่านี้ ท้ายที่สุดแล้ว หากหวังฉงเหวินไร้พิษสง ก็คงไม่สามารถสร้างร้านหวังจี้ให้เป็นเหมือนตอนนี้ได้ หวังฉงเหวินมีความเฉียบแหลมทางการค้า รวมถึงมีเสียนฮูหยินที่อยู่ในวังหลังคอยหนุนหลัง รู้จักขุนนางระดับสูงมากมาย คราวนี้ที่เขาประมาทเพราะดูถูกศัตรู อีกทั้งในช่วงนี้เพราะคำสั่งของทหารรักษาการณ์ ท่านอ๋องก็ตกอยู่ในความสนใจ เขาเกรงกลัวสถานะตัวตนของท่านอ๋อง เราต้องใช้ประโยชน์จากชัยชนะและคอยบีบบังคับให้หวังฉงเหวินคายอะไรที่สามารถคายออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด มิฉะนั้น ถ้าหวังฉงเหวิน กลับมาตั้งสติได้ จะทำได้ยากแล้ว"
หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หันหลังกลับแล้วกล่าวว่า "เฉี่ยนหลิ่วและเฉี่ยนจั๋วทั้งสองมีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เฉี่ยนหลิ่วเป็นคนฉลาดด้วย ฉะนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าก็ไปที่จวนหวังคอยดูการตรวจนับทรัพย์สิน นำองครักษ์ลับไปด้วย ถ้าหวังฉงเหวินเล่นลูกไม้แม้แต่น้อย ก็สั่งสอนให้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ"
เฉี่ยนจั๋วและเฉี่ยนหลิ่วตอบรับ หยุนชางยังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย นางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "และคอยระวัง เขาไปขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋องเจ็ด"
ทั้งสองตอบรับอีกครั้ง หยุนชางจึงวางใจลงเล็กน้อย เพราะช่วงเช้าได้ตรวจบัญชีเป็นครึ่งค่อนวัน จึงรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เลยโบกมือให้ทั้งสามคนถอยออกไปก่อน แล้วตนจึงนอนพักผ่อนบนเบาะ
พอตื่นขึ้นมาก็ถึงยามเซินแล้ว(บ่ายสาม) ลั่วชิงเหยียนก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างเบาะ หยุนชางตกตะลึงแล้วพูดว่า "ทำไมกลับมาแล้วก็ไม่ปลุกข้าล่ะ"
ลั่วชิงเหยียนยิ้ม "ข้าได้ยินฉินยีพูด เจ้าตื่นแต่เช้าและตรวจบัญชีทั้งเช้า จึงไม่อยากปลุกเจ้า ท่านหมอก็พูดตลอดว่าคนตั้งครรภ์ควรพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วทำไมจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าอยากตรวจบัญชีหรือ และยังตรวจประวัติคนรับใช้ในจวนทุกคนด้วย? อย่างไรก็แค่ฝากเรื่องพวกนี้ให้พ่อบ้านทำก็ย่อมได้ ต่อให้พ่อบ้านไม่มีเวลา ยังมีฉินยีสามารถช่วยได้"
หยุนชางลุกขึ้นนั่งตัวตรง ยกมือขึ้นแตะมวยผม มวยผมยังอยู่ในสภาพดี หยุนชางจึงยิ้มและพูดว่า "ปกตินายหญิงของจวนมิใช่ดูสิ่งเหล่านี้ทุกวันหรือ หลังจากที่ข้าแต่งงานกับเจ้า เพราะในจวนมิได้มีแม่สามีและชายารอง เดิมเรื่องที่ต้องทำก็น้อยมาก นอกจากนี้พ่อบ้านในจวนของท่านก็ถือว่ามีความสามารถ ข้าจึงแอบอู้ได้ แต่เรื่องบางอย่างที่ต้องเรียนรู้ก็จำต้องฝึก ตอนนี้ข้าท้องแล้ว มีเวลาว่างกว่าเมื่อก่อน ก็ใช้เวลาว่างมาฝึกฝน"
ลั่วชิงเหยียนฟังคำพูดของหยุนชางเงียบๆ แล้วพยักหน้า "อืม ตามที่เจ้าตัดสินใจ แต่อย่าเหนื่อยนักนะ ถ้าเจ้าเหนื่อย จะทำให้ข้าปวดใจได้"
หยุนชางหัวเราะและลุกขึ้นจากเบาะ
ลั่วชิงเหยียนวางหนังสือในมือลงและมองดูหยุนชาง "อ้อ วันนี้ข้าเห็นในวังว่ามีนางข้าหลวงเพิ่มมาหลายคนข้างฝ่าบาท และมีสองคนข้าเคยเห็นตอนคัดหญิงดีงาม เป็นฝีมือเจ้าหรือไม่?"
ลั่วชิงเหยียนที่ถามอย่างไม่ได้คิดอะไรกลับทำให้หยุนชางอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า "เรื่องนี้ข้าไม่รู้ มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ข้าไม่ได้เข้าวังนานพอควรแล้ว ชื่ออะไรบ้างเจ้ายังจำได้ไหม"
ลั่วชิงเหยียนครุ่นคิด "เมื่อวานนี้ข้ายังไม่เห็นพวกนางเลย ดังนั้น ควรจะเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้หรือเช้าตรู่วันนี้ ชื่ออะไร เรื่องนี้ยากสำหรับข้าจริงๆ ข้าคิดดู ก่อนหน้านั้น ข้ายังมีสำเนารายชื่อฉบับร่างไว้ ข้าจะหาให้"
หยุนชางพยักหน้าและเรียกฉินยีเข้ามา
หลินโยวหราน?
หยุนชางขมวดคิ้ว ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องกับหลินโยวหรานได้? หยุนชางรู้สึกกังวลเล็กน้อย จากนั้นมองไปที่ลั่วชิงเหยียน แล้วลั่วชิงเหยียนก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว พูดกับหลิวเหวินอันว่า "ตอนนี้พระชายาก็กำลังตั้งครรภ์ หากต้องเข้าวัง ข้าจะตามไปด้วย"
หลิวเหวินอันไม่มีความคิดเห็นใดๆ ดังนั้นจึงตกลง และออกจากจวนกับลั่วชิงเหยียนและหยุนชาง
เมื่อมาถึงพระราชวัง หลิวเหวินอันก็พาหยุนชางตรงไปที่ตำหนักเซียงจู๋ ฝ่าบาท ฮองเฮา และหนิงเชียนรออยู่ในตำหนักด้านข้าง ฮองเฮาเต็มไปด้วยความโกรธ และเซี่ยหวนอวี่ขมวดคิ้วทั้งยังหมุนแหวนหยกบนนิ้ว ในขณะที่หนิงเชียนกำลังคุกเข่าอยู่ในห้องโถง
หยุนชางหยุดชั่วคราว กวาดสายตาไปที่ใบหน้าของหนิงเชียน จากนั้นนางก็รีบทำความเคารพ "หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาท ฮองเฮา ขอฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปี ฮองเฮาพันปี"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าเบาๆ "ลุกขึ้นเถิด ตอนนี้เจ้าก็ตั้งครรภ์ด้วย พิธีการที่ไม่สำคัญเหล่านี้หลีกเลี่ยงได้ก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็คุกเข่า"
หยุนชางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่จู่ๆ เซี่ยหวนอวี่ก็พูดเช่นนั้น แต่นางเพียงคิดว่านั่นเป็นความเห็นอกเห็นใจของเซี่ยหวนอวี่ที่มีต่อนาง จึงรีบขอบพระทัยและลุกขึ้นยืน
"ฮุ่ยจาวอี๋อยู่ในห้อง เจ้าเข้าไปข้างในเถอะ" เซี่ยหวนอวี่กล่าว จากนั้นก็ลุกขึ้นและเข้าไปในห้องก่อนอย่างรวดเร็ว
หยุนชางก็รีบลุกขึ้น และตามเซี่ยหวนอวี่เข้าไป แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองฮองเฮาและหนิงเชียน เพียงรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองดูแปลกๆเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...