ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 636

หนิงเฉี่ยนตอบและสั่งให้นางกำนัลเตรียมอาหาร นางกำนัลเตรียมอาหารเต็มโต๊ะ เซี่ยหวนอวี่เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้น "นั่งลงกันเถิด พวกเจ้าแต่ละคนมิใช่คนที่มากพิธีกระไรอยู่แล้ว มิจำเป็นต้องแสร้งทำเช่นนี้ต่อหน้าเจิ้นหรอก"

หยุนชางยิ้ม แต่ไม่เข้าใจว่าคำว่า "แสร้งทำ" เป็นคำชมหรือคำด่ากันแน่

กฎในวังนั้นเข้มงวดมาก ปกติแล้วเสวยพระกระยาหารห้ามออกเสียงใดๆทั้งนั้น พวกเขาสี่คนเสวยพระกระยาหารค่ำพร้อมกัน จากนั้นเซี่ยหวนอวี่ก็อยู่ต่อที่ตำหนักเซียงจู๋และเล่นหมากรุกกับลั่วชิงเหยียนอยู่ข้างๆ

หนิงเฉี่ยนสั่งให้คนใช้เตรียมอาหารส่งไปที่ตำหนักในให้กับหลินโยวหราน จากนั้นนางก็นั่งชมทั้งคู่เล่นหมากรุกอยู่ข้างๆพร้อมกับหยุนชาง

เมื่อเล่นหมากรุกมาถึงครึ่งทาง ฉินยีก็กลับมาแล้ว ดูท่าทีแล้วนางคงรีบมาพอสมควรเพราะว่านางหอบเล็กน้อย หยุนชางมองดูคนสองคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนกระดานหมากรุก นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกฉินยีเดินเข้าไปทางตำหนักใน

"มีเรื่องอะไรก็คุยกันที่นี่สิ เจ้าจะเดินไปไหน?" เสียงของเซี่ยหวนอวี่ดังขึ้น เสียงของเขานิ่งสงบ แต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกหนาวเหน็บเล็กน้อย

หยุนชางลืมตาขึ้นมามองเซี่ยหวนอวี่ แววตาของเขายังคงจ้องไปที่กระดานหมากรุก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้นั่งลง และกล่าวต่อฉินยีว่า " สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เขาว่าอย่างไร?"

ฉินยีมองไปที่เซี่ยหวนอวี่อย่างระแวง แววตาของนางสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินหยุนชางกล่าวเช่นนี้ นางก็ตอบอย่างรวดเร็วเช่นกัน "หม่อมฉันได้นำท่อนไม้นั้นไปให้ช่างไม้ตรวจดูแล้วเพคะ ช่างไม้กล่าวว่า น้ำมันที่อยู่บนท่อนไม้นั้นมิใช่ปัญหา แต่โดยทั่วไปแล้วน้ำมันที่ใช้แปรงพื้นผิวของเครื่องใช้เป็นน้ำมันตุง ซึ่งน้ำมันตุงมีกลิ่นแรง สตรีมีครรภ์ไม่ควรดมกลิ่นนี้เท่าไหร่ มิเช่นนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตร อีกทั้งดูจากท่อนไม้ท่อนนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะทำให้กลิ่นของน้ำมันตุงอ่อนลงเล็กน้อย จึงได้ใส่เครื่องเทศผสมลงไป ซึ่งเครื่องเทศเหล่านั้นก็ไม่ดีต่อสตรีมีครรภ์เช่นกันเมื่อทั้งสองผสมเข้ากัน จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น หากว่าดมกลิ่นนั้นเป็นเวลานาน ลูกในครรภ์คงอยู่ได้ไม่ถึงสามเดือนเพคะ"

หยุนชางขมวดคิ้ว แผนการนี้ร้ายกาจมาก หากมิใช่เพราะว่าหารสัมผัสถึงกลิ่นของนางละเอียดอ่อนจึงได้กลิ่นนั้น เช่นนี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้

และถึงแม้จะถูกค้นพบ แต่น้ำมันตุงเดิมก็ใช้แปรงพวกพื้นผิวของเครื่องใช้ภายในบ้านอยู่แล้ว เครื่องใช้ทั้งหมดในพระราชวังก็คงทำขึ้นในลักษณะนั้น ฉะนั้นก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก

"พวกเจ้าพูดถึงไม้กระไรกัน?" ดูเหมือนว่าเซี่ยหวนอวี่และลั่วชิงเหยียนเพิ่งจะเล่นจบไปหนึ่งเกม จากนั้นก็หันมาถามหยุนชางอย่างนิ่งๆ

หยุนชางจึงรีบลุกขึ้นยืน " ทูลฝ่าบาทเพคะ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันพบบางอย่างในตำหนักข้างที่ฮุ่ยจาวอี๋อาศัยเพคะ ภายในตำหนักข้างนั้นทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เตียง ฉากกั้นห้อง ตู้และโต๊ะเครื่องแป้งต่างก็เป็นเครื่องใช้ที่ทำขึ้นมาใหม่ และมันส่งกลิ่นหอมบางๆ หากไม่ดมอย่างละเอียดก็คงไม่ได้กลิ่นนั้นเพคะ หม่อมฉันสงสัยจึงหยิบท่อนไม้ชิ้นเล็กๆ จากเตียงไม้มะฮอกกานีที่ฮุ่ยจาวอี๋ใช้อยู่แล้วนำออกมาจากพระราชวังเพคะ จากนั้นจึงเอาไปให้ช่างที่มีชื่อเสียงนอกวังตรวจดูเพคะ"

สิ่งที่ฉินยีกล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ พวกเขาก็คงได้ยินอย่างชัดเจน ฉะนั้นจึงมิต้องกล่าวซ้ำ

เซี่ยหวนอวี่ยังไม่ตอบสนองใดๆ ลั่วชิงเหยียนกลับขมวดคิ้วขึ้นมาและเดินไปข้างๆหยุนชางพร้อมกล่าวว่า "เมื่อสักครู่เจ้ายืนอยู่ในห้องนั้นไปครึ่งวัน เจ้าไม่เป็นกระไรใช่หรือไม่ ตอนนี้เจ้าก็ตั้งครรภ์อยู่เช่นกัน ... "

หยุนชางยิ้มและตบมือของลั่วชิงเหยียนเบาๆและกระซิบว่า "ไม่เป็นกระไรหรอก กลิ่นนั้นไม่ถือว่าแรงมาก หากว่าจะส่งผลไม่ดี อย่างน้อยต้องอาศัยอยู่ในนั้นไปหลายวันก่อนจึงจะส่งผล ข้าแค่ยืนอยู่ที่นั่นครู่เดียว ไม่เป็นกระไรหรอก"

"และอาการผื่นแดงของฮุ่ยจาวอี๋ที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วนั่น เป็นเพราะว่าร่างกายของฮุ่ยจาวอี๋ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว และยังแพ้ท้องหนักอีกด้วย ภาวะครรภ์ไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ ฉะนั้นจึงได้เกิดผลออกมาทันทีที่อาศัยไปเพียงไม่กี่วัน แต่โชคดีที่นางเกิดอาการขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นหากผ่านไปอีกสองสามวัน กลิ่นของเครื่องใช้เหล่านั้นก็คงจางหายไปบ้างแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นก็คงหาทางเริ่มตรวจสอบได้ยาก" หยุนชางยิ้มและถอนหายใจเบา ๆ

หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆว่า "ดูเหมือนว่าเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาประมาณสิบกว่าวัน........…"

หยุนชางบอกความคิดของตนให้กับเซี่ยหวนอวี่อย่างละเอียด เซี่ยหวนอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหมุนแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มืออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยุดกะทันหัน และพูดด้วยเสียงที่ทรงพลังว่า "ทำ"

เมื่อหยุนชางออกจากวังไปพร้อมลั่วชิงเหยียนก็เป็นเวลายามจื่อแล้ว ค่ำคืนนี้ค่อนข้างหนาวเหน็บ ลั่วชิงเหยียนโอบหยุนชางไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง แล้วโอบกอดนางอยู่ภายใต้เสื้อคลุมของตน

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ขึ้นรถม้าไป แต่เตาไฟตัวเดิมที่วางอยู่ในรถม้าได้ดับไปแล้ว ภายในรถม้าจึงไม่อุ่นเท่าไหร่นัก แต่โชคดีที่ไม่มีลม จึงดีขึ้นกว่าเดิมอยู่มาก

ดูเหมือนว่าลั่วชิงเหยียนไม่พอใจเล็กน้อย เมื่อนั่งลงบนรถม้าเขาก็ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ และไม่ได้กล่าวกระไรตลอดทาง

หยุนชางรู้สึกแปลกเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนี้ นางก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ลั่วชิงเหยียน หลังจากมองเป็นเวลานานแล้วจึงเอ่ยปาก "เจ้าเป็นกระไรไปหรือ? เหตุใดสีหน้าดูไม่สบอารมณ์นัก"

ลั่วชิงเหยียนกอดหยุนชางแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาถอนหายใจหนักๆ แล้วก้มหัวไว้บนไหล่ของหยุนชาง และกล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า " ข้าอยากจะซ่อนเจ้าไว้จริงๆ เราสองคนไปอยู่ด้วยกันอย่างสันโดษ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นๆบนโลกนี้ เจ้าเองก็มิต้องลำบากเช่นนี้"

หยุนชางไม่ทราบว่าเขาอารมณ์เสียเพราะเหตุการณ์นี้ แต่เขาเหมือนเด็กน้อยเลย จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและกล่าวด้วยเสียเบาว่า "ข้าไม่รู้สึกว่าลำบากเท่าไหร่นัก สองสามวันนี้ด้วยความที่ข้าตั้งครรภ์ และเอาแต่อยู่ในบ้าน ตอนนี้อุตส่าห์ได้ทำงานดูแลบัญชีเพื่อฆ่าเวลา พอตอนนี้มีเรื่องให้ทำข้ากลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง