ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 669

หยุนชางรู้สึกว่าตนมาที่นี่เพื่อมาพักผ่อนจริงๆ แต่ลั่วชิงเหยียนกลับไม่ใช่ หยุนมองไปที่ลั่วชิงเหยียน ซึ่งเอาแต่สั่งการสายลับอยู่ในห้อง นางรู้สึกตลกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเมื่อมาถึงบ้านพักที่นาแล้ว ลั่วชิงเหยียนกลับยุ่งกว่าเดิมเสียอีก

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง หยุนชางและลั่วชิงเหยียนทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว หยุนชางก็เข้านอนแต่หัวค่ำ ส่วนลั่วชิงเหยียนอ่านหนังสือใต้ตะเกียง เมื่อเห็นว่าหยุนชางมองมา เขาจึงยิ้มและกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ข้าสั่งให้สายลับไปตรวจสอบเรื่องบางอย่าง พวกเขายังมิได้กลับมารายงาน ข้าจะรออีกสักพัก เจ้ารีบพักผ่อนเถิด"

หยุนชางพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นปล่อยม่านข้างเตียงลง ภายในห้องเงียบมาก และฝนเริ่มโปรยปรายอยู่ด้านนอก ฝนกระแทกลงบนใบต้นกล้วย "ซ่าซ่า" ดังสลับกับเสียงพลิกหนังสือของลั่วชิงเหยียน ฟังแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ

หยุนชางผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว นางเพียงได้ยินคนพูดคุยกันอย่างสะลึมสะลือ หยุนชางรู้ว่านั่นคือเสียงของลั่วชิงเหยียน จึงมิได้สนใจ นางพลิกตัวและนอนต่อ

ทันใดนั้นนางตื่นขึ้นกลางดึก พบว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ มีแสงอ่อนๆ สาดส่องผ่านม่านข้างเตียง หยุนชางตกตะลึง ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลายามไหนแล้ว นางจึงเปิดม่านแล้วมองออกไป ลั่วชิงเหยียนยังคงอ่านหนังสืออยู่ใต้ตะเกียง เมื่อเห็นว่าหยุนชางตื่นแล้ว เขาก็ชะงักเล็กน้อย แล้วจึงยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาหยุนชาง แววตาของเขารู้สึกผิดเล็กน้อย " ข้ารบกวนเจ้าหรือไม่?"

หยุนชางยิ้มและส่ายหน้า "เมื่อสักครู่ข้าแค่ฝันไปและจู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา ตอนนี้ยามไหนแล้ว ยังไม่มีข่าวจากสายลับหรือ?"

"ยามโฉ่แล้ว (ช่วงเวลาตี1ถึงตีสอง59นาที) " ลั่วชิงเหยียนนั่งลงที่ข้างเตียงกอดหยุนชางไว้ แล้วให้นางนอนลงที่ตักของตน "สายลับพบเบาะแสขององค์หญิงใหญ่ที่เมืองจิ่น ข้าได้สั่งให้สายลับไปตามสืบแล้ว"

"องค์หญิงใหญ่?" หยุนชางผงะไปครู่หนึ่ง เมื่อวานข้าได้ยินข่าวขององค์หญิงใหญ่จากหนิงเฉี่ยน วันนี้นางก็โผล่มาอีกครั้ง อีกทั้งปรากฏตัวตอนที่พวกเขาออกจากเมืองแล้ว นี่เป็นเรื่องบังเอิญเกินไปหรือไม่

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ เลื่อนมือไปที่หัวของหยุนชางและพูดด้วยรอยยิ้มว่า " เมื่อตอนที่เรานอนพักกลางวัน สายลับมาส่งข่าวว่า ดูเหมือนจะพบเบาะแสขององค์หญิงใหญ่"

"พบได้อย่างไร?" หยุนชางขมวดคิ้วและถามอย่างเร่งรีบ

"กองกำลังลับที่ข้าวางไว้ในเมืองเป็นคนพบ กล่าวว่าพบว่าองค์หญิงใหญ่ปรากฏตัวที่ร้านข้าวสาร ซื้อข้าวสารไปห้าสิบกิโล เมื่อซื้อข้าวสารแล้วนางก็แบกข้าวสารเองแล้วขี่ม้าออกจากเมืองไป สายลับตามไปตลอดทาง แล้วพบว่านางซ่อนตัวอยู่บนภูเขาทางตอนใต้ของเมืองจิ่น อาศัยในกระท่อมมุงด้านในภูเขาที่ทำขึ้นเพื่อให้นักล่าได้อาศัยชั่วคราวเมื่อออกล่า ด้วยเหตุที่ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวจึงมีนักล่าน้อยมาก เกรงว่านางคงอาศัยอยู่ที่นั่นมาสักพักแล้ว" ที่ลั่วชิงเหยียนกล่าว

"และนางระวังอย่างมาก นางเลี้ยงนกแปลก ๆ ไว้นอกกระท่อมจำนวนมาก เมื่อสายลับเข้าใกล้ นกเหล่านั้นก็ส่งเสียงทันที จากนั้นองค์หญิงใหญ่ก็หนีออกไป และตอนนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ"

หยุนชางตกตะลึงแล้วกระซิบเบา ๆ "เท่าที่ข้าทราบมา องค์หญิงใหม่ไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้มิใช่หรือ?"

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ "แต่ดูเหมือนว่านางจะอาศัยอยู่ในป่านั่นเป็นเวลานาน นางคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในป่าอย่างมาก และฤดูหนาวภายในป่ามีทั้งหมอกและควัน ฉะนั้นเมื่อสายลับตามตัวนางจึงยากอย่างมาก

หยุนชางหรี่ตาลงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "หากว่ามีหมอกหรือควันหนัก หากว่าสืบค้นตอนกลางคืนจะง่ายกว่าใช่หรือไม่?"

ลั่วชิงเหยียนยิ้มและเอนตัวลงและจูบบนหน้าผากของหยุนชาง "ใช่แล้ว ชางเอ๋อร์ของข้าฉลาดจริงๆ"

เมื่อเห็นว่าหยุนชางดูเหมือนจะไม่ง่วงนอนแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็เลิกคิ้ว และถอนเสื้อนอนลงบนเตียงแล้วปิดม่านเตียง จากนั้นก็ก้มหน้าเข้าหาหยุนชาง เขาทำเสียงโทนต่ำและแหบแห้งเล็กน้อย " ในเมื่อเจ้าตื่นแล้ว หากว่าจะนอนหลับอีกครั้งก็คงยาก หรือว่าพวกเรามาทำกระไรที่มีความหมายร่วมกันเพื่อฆ่าเวลาเสียดีกว่า"

ลั่วชิงเหยียนตอบกลับด้วยเสียงต่ำๆ ว่า "อืม เข้าใจแล้ว กลับไปเถอะ" จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบผ้าที่อยู่บนหิ้งไม้ลงมา บิดผ้าแล้วเปิดม่านออก ดูเหมือนหยุนชางจะหลับไปแล้ว ลั่วชิงเหยียนมองจ้องไปที่หยุนชาง แล้วอ่อนโยนขึ้นมาอย่างมาก เขาทำความสะอาดร่องรอยต่างๆ ให้หยุนชางอย่างละเอียก แล้วจึงถอดเสื้อขึ้นเตียงกอดหยุนชางเอาไว้และหลับไป

วันที่สองเมื่อหยุนชางตื่นขึ้นมาฟ้าก็สว่างอย่างมากแล้ว ลั่วชิงเหยียนตื่นนานแล้วแต่ยังมิได้ลุกขึ้น

หยุนชางจ้องไปที่ลั่วชิงเหยียนด้วยความงุนงง ยังคงมึนๆ เล็กน้อยนางเอนตัวลงในอ้อมแขนของลั่วชิงเหยียนแล้วจึงเอ่ยปากกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เกียจคร้านว่า "เป็นอย่างไรบ้างหรือ?"

ลั่วชิงเหยียนทราบว่านางทามเรื่ององค์หญิงใหญ่ จึงอมยิ้มแล้วกล่าวว่า "จับตัวนางมิได้ มีคนมารับตัวนางหนีไปแล้ว"

หยุนชางตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ แล้วจึงขมวดคิ้ว "ข้าเกรงว่าเรื่องนี้เป็นเพียงกลลวงตา องค์หญิงใหญ่ทราบอยู่แล้วว่ามีแต่คนรอจับตัวนางอยู่ทั่วเมืองจิ่น หากว่านางมีคนมารับ เช่นนั้นมิจำเป็นต้องไปซื้อข้าวสารในเมืองจิ่นด้วยตัวเองหรอก เกรงว่าทำเช่นนี้เผื่อเป็นกลลวงตาเท่านั้น"

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ เขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้วเมื่อตอนที่สายลับมารายงานเรื่องนี้เมื่อคืน

หยุนชางยังคงไม่เข้าใจเล็กน้อย "เพียงแต่ว่า เหตุใดนางจึงเลือกปรากฏตัวในเวลานี้?"

ลั่วชิงเหยียนกอดหยุนชางไว้แน่นสักครู่ จึงยิ้มและกล่าวว่า " มีความเป็นไปได้หลายอย่าง ประการแรกคือเบี่ยงเบนความสนใจ ประการสองคือผู้หญิงที่ปรากฏตัวอยู่ในเมืองจิ่นมิใช่องค์หญิงใหญ่ตั้งแต่แรก และการปรากฏตัวของนางก็เพื่อที่จะซ่อนเบาะแสขององค์หญิงใหญ่ตัวจริงเท่านั้น"

หยุนชางพิงไปที่หน้าอกของลั่วชิงเหยียน ทุกครั้งที่เขาพูดหน้าอกของเขาจะสั่นเบาๆ ไปด้วย หยุนชางอมยิ้มครุ่นคิดแล้วจึงกล่าวว่า "ตามนิสัยขององค์หญิงใหญ่แล้ว ข้ารู้สึกว่านางมิยอมให้ตัวเองไปเสี่ยงอย่างแน่นอน เช่นนั้นผู้หญิงที่อยู่ร้านข้าวสารคงเป็นคนที่แปลงโฉมมา เพียงแต่องค์หญิงใหญ่ตัวจริงจะอยู่ที่ไหนกันนะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง