"ใครจะไปรู้ล่ะ" ลั่วชิงเหยียนมิได้เร่งรีบกระไร เขากล่าวพร้อมอมยิ้ม "ได้เวลาลุกแล้ว พวกเราควรกลับจวนให้เร็วกว่านี้"
หยุนชางพยักหน้าและลุกขึ้นนั่ง ลั่วชิงเหยียนก็ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน เขาก้มตัวลงช่วยหยุนชางใส่รองเท้า จากนั้นก็หาเสื้อผ้าของตนมาสวมใส่ให้เรียบร้อย
หยุนชางรอให้ลั่วชิงเหยียนสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปล้างหน้าล้างตาอยู่ข้างๆ จากนั้นจึงตามตัวเฉี่ยนจั๋วเข้ามา
เฉี่ยนจั๋วสวมเสื้อผ้าให้หยุนชางเรียบร้อยแล้วกล่าวพร้อมยิ้ม "เมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน วันนี้ที่นาดูเหมือนผ่านการชะล้างของฝนมา งามยิ่งนักเพคะ"
หยุนชางหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นก็สั่งให้เฉี่ยนจั๋วเปิดหน้าต่าง ลมที่ปะปนไปด้วยกลิ่นดินเล็กน้อยก็พัดโชยมา หยุนชางมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นว่าพ่อบ้านหลิวพายายอิงเดินตรงเข้ามาในลานบ้าน
เสียงถามเบาๆ ของพ่อบ้านหลิวดังมาจากด้านนอก หยุนชางได้ยินสาวใช้ตอบรับว่า "พระชายาเพิ่งตื่นนอน ยังมิได้ล้างหน้าล้างตา"
หากเทียบกับฉินยีและเฉี่ยนหลิ่วแล้ว ฝีมือการมวยผมของเฉี่ยนจั๋วนั้นแย่กว่าเล็กน้อย หยุนชางจึงให้นางมวยผมเป็นทรงง่ายๆ แล้วปักปิ่นหยกขาวที่แกะสลักด้วยเมฆมงคลสองตัว
หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว หยุนชางและลั่วชิงเหยียนก็ออกจากห้องพร้อมกัน อาหารเช้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พ่อบ้านหลิวและยายอิงก็ถวายพระพรต่อทั้งสองอย่างเร่งรีบ
ใบหน้าของลั่วชิงเหยียนเย็นชาเช่นเดิม ส่วนหยุนชางนั้นยิ้มแย้ม ให้พวกเขาลุกขึ้น แล้วนั่งที่ริมโต๊ะ " พ่อบ้านหลิวและยายอิงตื่นเช้ามากนะ"
พ่อบ้านหลิวเร่งกล่าวว่า "นาน ๆ ครั้งที่พระชายาจะมาที่นี่ ข้าน้อยจึงอยากให้พระชายาตรวจดูสมุดบัญชีในเดือนนี้ของเราขอรับ"
ลั่วชิงเหยียนขมวดคิ้ว แล้วหยิบเจียนปิ่งใส่ในชามของหยุนชาง แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า " เจ้าวางสมุดบัญชีนั่นไว้ข้างๆ เถิด"
พ่อบ้านหลิวสั่นสะท้านไปทั้งตัว มิกล้าที่จะคัดค้าน เขาเร่งวางมสมุดบัญชีนั้นลงบนโต๊ะข้างๆ จากนั้นก็เร่งพายายอิงถอยออกไป
หยุนชางจ้องมองไปที่ทั้งสอง แล้วหยุดชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ละสายตาออกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางยิ้มและกล่าวต่อลั่วชิงเหยียนว่า " เหตุใดเจ้าจึงชักสีหน้าใส่บ่าวใช้แต่เช้าล่ะ?"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา " เอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มารบกวนเจ้าแต่เช้า"
หยุนชางหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางจึงส่ายหน้า แววตาของนางจับจ้องไปที่เขาสองคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป นางใช้ตะเกียบหยิบเจียนปิ่งที่ลั่วชิงเหยียนหยิบมาให้ขึ้นมาแล้วกัดไปหนึ่งคำ นางยิ้มและกล่าวว่า " เจียนปิ่งนี้รสชาติดีนะ เจ้าลองชิมดูสิ"
จากนั้นสีหน้าของลั่วชิงเหยียนจึงดูดีขึ้นมาเล็กน้อย และเขากินอาหารเช้าไปอย่างเงียบๆ เมื่อได้กินบางอย่างที่รสชาติดีเขาก็จะหยิบใส่จานหยุนชาง
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว หยุนชางก็สั่งให้คนเก็บโต๊ะกลับไป แล้วจึงเข้าห้องไปพร้อมลั่วชิงเหยียน และกล่าวเบาว่า "เมื่อคืนยายาอิงน่าจะออกไปข้างนอกไกลๆ มา อีกทั้งน่าจะเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน สายลับมีวิธีสืบหรือไม่ว่าเมื่อคืนนางไปไหนมา?"
ลั่วชิงเหยียนตกตะลึงเล็กน้อยแล้วหันไปมองหยุนชาง "เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจเช่นนี้?"
หยุนชางพยักหน้าและเหลือบมองไปที่พ่อบ้านหลิว แล้วยิ้มด้วยความอ่อนโยน "พ่อบ้านหลิวจะไปไหนหรือ?"
พ่อบ้านหลิวได้ยินเช่นนี้จึงยิ้มและพูดว่า " ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะเริ่มขึ้นขอรับ ทางที่นาต้องเร่งซื้อเมล็ดพันธุ์ เมื่อสักครู่ข้าน้อยให้ยายอิงเขียนรายการซื้อเอาไว้ ตอนนี้กำลังหาคนให้ไปเตรียมการขอรับ"
หยุนชางพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางมองดูกระดาษในมือของเขาพลางพูดว่า "ปีนี้เตรียมจะปลูกกระไรบ้างหรือ มาให้ข้าดูหน่อย"
พ่อบ้านหลิวได้ยินหยุนชางกล่าวเช่นนี้ จึงรีบส่งกระดาษในมือให้หยุนชาง หยุนชางคลี่กระดาษออกแต่กลัยตกตะลึงเล็กน้อย "เจ้าบอกว่ายายอิงเป็นคนเขียนให้เจ้าหรือ?"
พ่อบ้านหลิวไม่ทราบว่าเกิดกระไรขึ้น จึงพยักหน้าอย่างซื่อตรง และตอบกลับว่า "ใช่ขอรับ ยายอิงเป็นคนเขียนขอรับ ข้าน้อยมองดูยายอิงเขียนด้วยตัวเองขอรับ"
หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของนางเย็นชาลง "เหตุใดข้ารู้สึกว่าลายมือนี้ต่างจากลายมือบนสมุดบัญชีเล็กน้อย?"
พ่อบ้านหลิวได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มขึ้นมา และอธิบายว่า " ยายอิงสามารถเขียนอักษรได้หลายแบบขอรับ และสามารถเลียนแบบอักษรของผู้อื่นได้"
"เช่นนี้หรือ?" หยุนชางยิ้มอ่อนๆ แล้วพับกระดาษในมือให้เรียบร้อย แล้วยื่นกลับไปให้พ่อบ้านหลิว จากนั้นก็ยิ้มและชมว่า "เป็นทักษะที่เยี่ยมจริงๆ" ขณะที่พูดนางก็หันหลังเดินกลับไปอย่างไม่เร่งรีบ
พ่อบ้านหลิวจับศีรษะของตน เมื่อเห็นว่าหยุนชางเดินไปไกลแล้ว เขาจึงเดินไปอีกด้านหนึ่งของที่นา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...