คำพูดของหยุนกุ้ยเฟยพลันถูกตัดลงฉับพลัน ทำให้หยุนชางที่กำลังนั่งฟังอยู่เงียบๆ พลันตกตะลึงไปเล็กน้อย พลางเงยหน้าขึ้นมา พร้อมมองร่างของหยุนกุ้ยเฟยที่กำลังโงนเงนเอียงไปด้านข้าง
หยุนชางและเฉี่ยนจั๋วพลันตกตะลึงไปทั้งสองคน เฉี่ยนจั๋วพลันรีบร้อนนำตัวขึ้นมาบังหยุนชางไว้ด้านหลัง สายลับพลางรีบร้อนเข้ามาดูร่างของหยุนกุ้ยเฟยทันที พร้อมกล่าวรายงานว่า "พระชายา ตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ตายแล้ว?
ภายในใจของหยุนชางพลันสั่นไหว พร้อมดันเฉี่ยนจั๋วให้หลีกทาง แล้วก้าวไปยังด้านหน้า พลางเห็นว่า ทั้งหน้าตาจมูกหูล้วนแต่มีเลือดไหลทะลักออกมาหมด
"ต้องพิษเพคะ " เฉี่ยนจั๋วรีบร้อนกล่าวออกมา "พระชายา ท่านอย่าได้แตะต้องนาง"
หยุนชางเมื่อเห็นลักษณะของหยุนกุ้ยเฟย ก็พลันรู้ได้ทันทีว่าเป็นอาการของผู้ถูกพิษ นางตกตะลึงไปเล็กน้อย หยุนกุ้ยเฟยตายต่อหน้าต่อตาของนางได้อย่างไร ?
หยุนชางราวกับได้ยินเสียงเยาะเย้ยขององค์หญิงใหญ่ดังแว่วมาเสมือนว่าเป็นการยั่วยุ
เมื่อครู่ทุกอย่างยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดจึงได้ถูกพิษอย่างกะทันหันได้เล่า อีกทั้งพิษที่โดนยังดูรุนแรงเป็นอย่างมาก ย่อมมิใช่พิษที่วางมานานแล้วแน่นอน เมื่อครู่หยุนกุ้ยเฟยเพียงกินไปแค่ยาแก้ใบ้ หลังจากนั้นจึงใช้ยาน้ำลบเลือนวิชาแปลงโฉม เลือดออกจากเจ็ดรูทวารจนเสียชีวิตเช่นนี้พิษต้องเข้าจากทางปากแน่
หยุนชางจับจ้องไปที่ศพของหยุนกุ้ยเฟยชั่วครู่แล้วจึงเงยหน้ามองเฉี่ยนจั๋ว "ถามเหล่าสายลับว่ายาสองชนิดนี้ได้มาจากที่ใด?"
เฉี่ยนจั๋วรีบรับคำแล้วรีบออกไปเรียกสายลับที่นำยาเข้ามาพร้อมถามคำถามที่หยุนชางถามจนเสร็จสรรพ สายลับผู้นั้นอึ้งไปก่อนจะรีบตอบว่า "มาจากร้านขายยาเมี่ยวโส่วขอรับ เป็นร้านที่เฉี่ยนอินเพิ่งเปิดขึ้นใหม่เมื่อเดือนก่อน"
หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากของนางยิ่งเย็นเยียบขึ้น ดี ดีมาก องค์หญิงใหญ่รับมือยากกว่าที่นางคิดมากนัก ถึงขั้นกล้าลงมือกับร้านขายยาของนางอย่างโจ่งแจ้ง
หยุนชางกลับรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดองค์หญิงใหญ่จึงรู้ว่าร้านขายยาเมี่ยวโส่วเป็นร้านค้าของนาง อย่างไรหนึ่งถึงสองเดือนก่อนองค์หญิงใหญ่ก็ทำงานเป็นนายบัญชีอยู่แต่ในที่นาอันห่างไกล ที่นั่นปลูกเพียงยาสมุนไพรธรรมดาเท่านั้น
หยุนชางลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าแล้วออกจากห้องไป นางหายใจเข้าลึกแล้วจึงรู้สึกว่าในใจโปร่งสบายขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่นางกำลังจะสั่งให้เฉี่ยนจั๋วนำข่าวไปบอกแกเฉี่ยนอินก็ได้ยินเสียงเคาะประตู "เปิดประตูๆ เราเป็นเจ้าหน้าที่จากทางการ มีคนมาแจ้งว่ามีคนตายที่นี่ คนข้างในรีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นพวกข้าจะพังประตูเข้าไป"
"หึ..." หยุนชางแค่นหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงไม่จางหายไป
"จัดการที่เกิดเหตุเสีย ทิ้งศพของหยุนกุ้ยเฟยไว้ที่นี่" หยุนชางสั่งการอย่างเรียบเฉย
เฉี่ยนจั๋วตะลึงงัน นางหันไปมองสตรีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ "แต่ว่า..."
หยุนชางไม่รอให้เฉี่ยนจั๋วพูดจบ นางโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณให้สายลับรีบพานางไปจากที่นี่ เฉี่ยนจั๋วยังคงตะลึงอยู่เล็กน้อย แล้วจึงค่อยๆ พูดต่อจนจบ "แต่ว่าหากวางศพไว้ที่นี่จะถูกคนใช้ประโยชน์จากมันได้ง่ายนะเพคะ"
แต่อย่างไรนางก็ย่อมปฏิบัติตามคำสั่งของหยุนชาง แม้ว่าในใจนางจะข้องใจแต่นางก็ได้สติขึ้นอย่างรวดเร็ว นางรีบสั่งให้สายลับจัดที่เกิดเหตุเสียใหม่และให้สายลับคอยจับตาดูเหตุการณ์ในจวนต่อแล้วจึงรีบกระโดดข้ามกำแพงหลังจวนแห่งนั้นออกไป
เมื่อกลับมาถึงจวนรุ่ยอ๋อง หยุนชางก็ทิ้งตัวลงบนเบาะ เมื่อฉินยีเห็นสีหน้าท่าทางของหยุนชางไม่ค่อยดีนักจึงได้นำชามาให้และยืนเงียบๆ อยู่ที่ด้านข้าง
หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองดวงตาลึกล้ำดุจมหาสมุทร นางนิ่งคิดเล็กน้อยแล้วจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ลั่วชิงเหยียนฟังอย่างละเอียด
ลั่วชิงเหยียนฟังอย่างเงียบเชียบ มือของเขาลูบหลังหยุนชางเบาๆ เมื่อรอจนนางเล่าจนจบแล้วเขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า "ข้าก็มีเรื่องจะเล่าให้เจ้าฟังเรื่องหนึ่งเช่นกัน" สายตาของหยุนชางจับจ้องไปที่ใบหน้าคมสันของอีกฝ่าย ลั่วชิงเหยียนนิ่งไปชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ "ข้าสงสัยว่าอ๋องเจ็ด องค์หญิงใหญ่และยังมีเสิ่นซู่เฟย พวกเขาร่วมมือกัน"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยุนชางก็ตะลึงงัน นางเงยหน้าขึ้นมองลั่วชิงเหยียนด้วยแววตาข้องใจทันที "ท่านจะบอกว่าพวกเขาสมคบคิดกันเพื่อกำจัดท่านหรือ?"
แต่เมื่อสิ้นเสียงนางก็กลับส่ายศีรษะ "ท่านคงเดาผิดไปแล้วกระมัง พวกเขาจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ท่านลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้เสิ่นซู่เฟยยังถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นและที่จวนท่านอ๋องเจ็ดที่มีคนของเราคอยจับตาดูอยู่ตลอด ตอนนี้องค์ใหญ่ก็ถูกตามล่าโดยทั้งพวกเราและฝ่าบาท พวกเขาจะมีโอกาส..."
หยุนชางพูดได้เพียงครึ่งเดียวก็เงียบลง ลั่วชิงเหยียนก้มลงมองสีหน้าของหยุนชางแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากกล่าวสิ่งใดออกมา ในห้องจึงเงียบลง
ผ่านไปครู่ใหญ่รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนชางได้สลายหายไปจนสิ้น "มีโอกาส..."
หยุนชางพูดราวกับกำลังพึมพำกับตนเอง "ท่านอ๋องเจ็ดและเสิ่นซู่เฟย พวกนางมีเสียนฮูหยิน เขาติดต่อหวังฉงเหวินอยู่แล้วตั้งแต่แรก เรื่องของเสียนฮูหยินดูเหมือนจะซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงหลุมพรางเท่านั้น ทำให้พวกเราคิดไปเองและส่งเสียนฮูหยินไปอยู่ข้างกายเสิ่นซู่เฟยด้วยมือเราเอง เสียนฮูหยินย่อมต้องเป็นผู้ที่ช่วยเสิ่นซู่เฟยส่งข่าว..."
แต่ว่าองค์ชายเจ็ดส่งข่าวอะไรเข้าไปในตำหนักเย็นกันแน่ เรื่องนี้หยุนชางกลับไม่รู้เลย
องค์ชายเจ็ดและองค์หญิงใหญ่...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...