ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 689

เซียวหย่วนซานหันไปมอง เขาจับจ้องไปที่สิ่งของบนโต๊ะ เขาขมวดคิ้ว พลางเอ่ยขึ้นมาว่า "ถ้วยน้ำชาก็ไม่รู้จักเก็บ ดีที่ซูฉีไม่ใช่คนละเอียดถี่ถ้วน มิเช่นนั้นเขาต้องจับได้แน่ๆ"

หยุนชางตกใจ เมื่อมองไปบนโต๊ะก็ได้พบกับถ้วยน้ำชาที่ใช้แล้ว 2 ถ้วย ซึ่งเป็นของหยุนชาง นางลืมทิ้งไว้ตอนมานั่งสนทนากับลั่วชิงเหยียน มิน่าล่ะ เซียวหย่วนซานจึงมักจะยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะ คงเป็นเพราะว่าเขากลัวว่าซูฉีจะมาเห็นเข้า

หยุนชางยิ้ม ยังมิทันที่จะได้พูดสิ่งใด ลั่วชิงเหยียนก็ลุกขึ้นมานั่ง สีหน้าของเขายังคงขาวซีด เขาพูดแกมหัวเราะว่า "ซูฉีผู้นี้จะให้มาละเอียดประณีตคงจะยาก เมื่อเขาได้เข้ามาในห้องนี้แล้ว ก็ตรงดิ่งมาที่เตียงในทันที จะไปมีเวลาและกะจิตกะใจสำรวจถ้วยน้ำชาในห้องได้อย่างไรกัน"

เซียวหย่วนซานมองมาที่ลั่วชิงเหยียน "ข้าได้ยินมาว่าเซี่ยหวนอวี่ทรงออกพระบรมราชโองการมอบหมายให้อ๋องเจ็ดเซี่ยโหจิ้งและซูหรูไห่นำทหารไปที่ชายแดนจริงหรือ?"

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้า "ใช่แล้วครับ"

เซียวหย่วนซานเงียบไปสักพัก แล้วจึงพูดออกมาว่า "พวกเจ้าคิดว่า ชางเจียชิงซูจะเริ่มลงมือจากเมืองหลิงซีหรือว่าเมืองชางหนานก่อน?"

หยุนชางและลั่วชิงเหยียนมองหน้ากัน หยุนชางตอบไปว่า "หากมีท่านอ๋องอยู่ด้วย ก็คงจะเริ่มจากเมืองชางหนานก่อนค่ะ แต่ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังต้องพิษ ต้องสลบไปอีก 2 เดือนจึงจะฟื้นขึ้นมา ชางเจียชิงซูก็จะเริ่มลงมือจากเมืองหลิงซีก่อนค่ะ"

เซียวหย่วนซานพยักหน้า "ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลิงซีก็คือแม่น้ำโม่ฮว๋ายของแคว้นเย้หลาง แต่ว่าทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือล่ะ คือที่ไหน?"

หยุนชางยืนนึกอยู่สักพัก แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่า "เป็นแถบหลิ่งหนานของแคว้นหนิงเพคะ"

เซียวหย่วนซานนึกภาพตาม "เป็นแถบหลิ่งหนานงั้นหรือ ข้าเห็นด้วยกับความคิดของชางเอ๋อร์ หากมีชิงเหยียนไปด้วย ชางเจียชิงซูคงจะเพิกเฉยต่อเมืองหลิงซีแล้วเริ่มลงมือที่เมืองชางหนาน แต่ตอนนี้ชิงเหยียนมิอาจไปได้ ข้ารู้ว่า พวกเจ้าคงจะสันนิษฐานกันว่าเซี่ยโหจิ้งจะให้ความร่วมมือกับชางเจียชิงซู หากเป็นเช่นนั้นจริงล่ะก็ การที่เซี่ยโหจิ้งได้เป็นผู้นำกองทัพ ส่วนชางเจียชิงซูก็ทำทีเป็นลงมือที่เมืองหลิงซี ด้วยความร่วมมืออย่างลับๆของพวกเขา ก็จะไม่มีการเข่นฆ่ากันเกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าชางเจียชิงซูได้ไปอยู่ที่ชายแดนแล้ว เขาจะยอมกลับมาโดยปราศจากผลงานได้หรือไม่?"

หยุนชางเริ่มมีสีหน้าหวั่นวิตก "ไม่หรอกค่ะ เขาจะเพิกเฉยต่อเมืองหลิงซี แล้วหันมาจ้องเล่นงานพื้นที่แถบหลิ่งหนานแทน"

ลั่วชิงเหยียนยังคงนั่งเงียบ เขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

เซียวหย่วนซานสังเกตท่าทีของลั่วชิงเหยียน แล้วจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ดูจากท่าทางของชิงเหยียนแล้ว พอจะมีแผนการบ้างแล้วน่ะสินะ?"

ลั่วชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นมา "รบกวนท่านราชครูเซียวเขียนจดหมายไปถวายให้เสด็จพี่ของข้า ให้เสด็จพี่ทรงเตรียมทหารและม้าคอยระวังภัยอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มิต้องทรงกังวลมากเกินไป ชางเจียชิงซูจะไม่มีทางไปโจมตีแถบหลิ่งหนานได้อย่างแน่นอน"

หยุนชางไม่เข้าใจว่าเหตุใดลั่วชิงเหยียนจึงดูมั่นอกมั่นใจนัก แต่ความมั่นอกมั่นใจนี้ก็ทำให้หยุนชางคลายความกังวลลงไปบ้าง นางคิดในใจว่า ในเมื่อเขาพูดแล้วว่าไม่ต้องกังวลมากไป ก็คงจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น

เซียวหย่วนซานยืนมองลั่วชิงเหยียนอยู่สักพัก ก่อนจะกลับที่พักเพื่อไปเขียนจดหมาย

ลั่วชิงเหยียนดึงหยุนชางเข้ามาโอบกอด เขาจุมพิตนางเบาๆ หยุนชางเงยหน้าสบตาลั่วชิงเหยียน แววตาของนางได้เปิดเผยความสงสัยในใจออกมา "ท่านได้เตรียมแผนการสำหรับการรับมือเอาไว้แล้วใช่หรือไม่เพคะ?"

ลั่วชิงเหยียนมิได้พยักหน้า และมิได้ส่ายหน้าเช่นเดียวกัน เขาเพียงแค่ส่งยิ้มอันอบอุ่นมาให้และได้พูดต่อไปว่า "เดี๋ยวต่อไปเจ้าก็จะรู้เอง"

ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว คนต่างแคว้นที่จะมาเข้าร่วมพระราชพิธีหมื่นพรรษา ควรจะมาถึงเมืองจิ่นล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน

หลังจากนั้น ชาวบ้านในเมืองจิ่นก็เริ่มพูดกันไปต่างๆนานา บ้างพูดว่าเมืองหลิงซีกำลังมีสงคราม แคว้นเย้หลางได้ทำการโจมตีเมืองหลิงซีของแคว้นเซี่ยแล้ว

"ดูเหมือนว่า ฤดูกำลังจะเปลี่ยนแปลงอีกแล้วนะ" หยุนชางมองสีท้องฟ้าที่ค่อยๆเปลี่ยนไป นางขมวดคิ้ว

ฉินยีก็เงยหน้าขึ้นมามองดูท้องฟ้าเช่นเดียวกัน แล้วนางก็เดินไปปิดหน้าต่าง "แม้ว่าตอนนี้อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังหนาวเย็นอยู่นะเพคะ พระชายาอย่าทรงโดนลมหนาวเลย นี่ก็ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกลงมาแล้วนะเพคะ......" ฉินยีกล่าว

หยุนชางพยักหน้า แล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป

หลังจากนั้นไม่นานฝนก็ได้ตกลงมา เป็นเพียงฝนปรอยๆมิได้ตกหนักมาก ชวนให้คนบางคนรู้สึกกลัดกลุ้มใจขึ้นมา ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เฉี่ยนจั๋วก็ได้เดินเข้ามาหา นางเปียกฝนไปทั่วทั้งตัว นางคารวะหยุนชางแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "พระชายาเพคะ มีคนจากในวังมา แจ้งว่าฮองเฮาทรงได้ของกำนัลชิ้นใหม่มา คืนนี้จะจัดงานเลี้ยงเล็กๆที่ตำหนักเว่ยยาง เชิญพระชายาไปเข้าร่วมด้วยนะเพคะ"

สามคนที่อยู่ในห้องต่างพากันขมวดคิ้ว ฉินยีเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ฮองเฮาทรงจัดงานเลี้ยงส่วนมากก็จะเชิญเฉพาะสตรีที่อยู่ในวังหลัง เหตุใดต้องมาเชิญพระชายาด้วย จะไม่ขัดต่อธรรมเนียมวังหรอกหรือเพคะ?"

หยุนชางพยักหน้า นางฟังเสียงฝนตกมาจากด้านนอกหน้าต่าง "แล้วนี่ฝนก็ยังไม่หยุดตกเลย"

เฉี่ยนจั๋วครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วจึงเอ่ยถามด้วยความลังเลขึ้นมาว่า "ถ้าเช่นนั้น ให้หม่อมฉันกลับไปปฏิเสธดีหรือไม่เพคะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง