ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 696

หยุนชางก้มหน้าลงอีกครั้ง และรีบแยกแยะเบาะแสอันน้อยนิดที่มีอยู่ตอนนี้ในใจอย่างรวดเร็ว หลักฐานทั้งแถบผ้าของขันทีรับใช้เซี่ยหวนอวี่ ทั้งหยกแขวน ไม่มีน้ำมัน รวมถึงเกล่องเครื่องประดับ หยุนชางเริ่มเข้าใจเล็กน้อย ลั่วชิงเหยียนกำลังสื่อสารกับนางอยู่อย่างแน่นอน เพียงแต่หยุนชางไม่ทราบว่าสิ่งที่ตนคาดเดานั้นถูกต้องหรือไม่

โดยเฉพาะแถบผ้านั่น

หยุนชางขมวดคิ้ว น้อยครั้งที่ขันทีในวังจะมาที่จวน และแม้เมื่อพวกเขามาที่จวนก็ถูกเชิญไปที่ห้องโถงรับรอง ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ได้เข้ามาที่ลานบ้านด้านใน และภายในจวนมีคนใช้คอยทำความสะอาด อีกทั้งตำแหน่งนั้นเป็นจุดที่มองเห็นได้ง่าย เช่นนั้นแถบผ้านั้นก็คงมิได้ตกหล่น ณ ตรงนั้นมาตั้งแต่แรกอย่างแน่นอน

หากเป็นเช่นนี้ แสดงว่าต้องมีขันทีในวังเคยมาที่นี่อย่างแน่นอน

เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนที่คอยสั่งการจะเป็นคนในวัง?

ส่วนลั่วชิงเหยียนไม่เป็นกระไรอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ลั่วชิงเหยียนอยู่ที่ไหนกันนะ? หยุนชางยังคงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก นางรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูเป็นเหมือนกับดักเลย

ลานบ้านที่หยุนชางอยู่ตอนนี้ตั้งอยู่ข้างๆ ลานบ้านเดิม ฉะนั้นจึงได้ยินเสียงดังมาจากทางนั้นเป็นครั้งคราว ราวกับว่ามีคนจำนวนมากกำลังพูดคุยกัน

หยุนชางนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ แล้วก้มมองลายบนเสื้อผ้าของตนเป็นเวลานาน

ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่ยามแล้ว หยุนชางได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกลานบ้านอย่างแผ่วเบา เฉี่ยนจั๋วและฉินยีเร่งเดินไปยืนข้างๆ หยุนชาง แล้วมองออกไปที่ประตูด้วยแววตาที่แผดเผา หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งแต่งกายเป็นขันทีมาพร้อมกับชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวสองคน

"พระชายาขอรับ ฝ่าบาททรงส่งหมอหลวงมา และสั่งให้หม่อมฉันพาพวกเขามาจับชีพจรให้พระชายาขอรับ" ขันทีกล่าวเบาๆ

ดูเหมือนว่าหยุนชางจะเงยหน้าขึ้นอย่างมึนงงเล็กน้อย แล้วมองดูคนที่อยู่ตรงหน้าประตู นางเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยื่นมือออกมา

เมื่อหมอหลวงทั้งสองเห็นเช่นนี้ จึงรีบก้าวเข้าไป แล้วหยิบผ้าออกจากกล่องยามาคลุมแขนของหยุนชางเอาไว้ จากนั้นจึงยื่นนิ้วออกมาสองนิ้วแล้ววางบนผ้านั่นเพื่อจับชีพจรของหยุนชาง

บรรยากาศภายในห้องเงียบลงทันที และไม่มีเสียงใด ๆ อยู่พักหนึ่ง

ผ่านไปอยู่นานหมอหลวงจึงยืนขึ้น แล้วเปลี่ยนคนใหม่มาจับชีพจรอีกครั้ง

ทั้งสองจับชีพจรเรียบร้อยแล้วจึงกล่าวต่อหยุนชางด้วยเสียงเบาๆ ว่า "พระวรกายของพระชายามิแข็งแรงเท่าไหร่นักขอรับ เดิมทีภาวะครรภ์ก็ไม่คงที่อยู่แล้ว ฉะนั้นพระชายาควรหลีกเลี่ยงการมีอารมณ์ขึ้นลงที่รุนแรงขอรับ มิเช่นนั้นอาจไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นักขอรับ"

ฉินยีพูดอย่างรวดเร็วว่า " จะต้องเขียนใบสั่งยาหรือไม่?"

หมอหลวงส่ายหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า " ขึ้นชื่อว่าเป็นยา ย่อมมีพิษขอรับ หากว่าพระชายามิได้อารมณ์ขึ้นลงรุ่นแรงมากจนเกินไป เช่นนั้นก็ย่อมไม่เป็นกระไรขอรับ"

ฉินยีตอบรับ หมอหลวงทั้งสองคารวะต่อหยุนชาง จากนั้นก็ถอยออกไปอย่างเร่งรีบ ขันทีที่พาหมอหลวงมาก็ถอยออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ผ่านไปไม่นาน เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้คนที่มาคือหลิวเหวินอัน

เซียวหย่วนซานยืนมองหยุนชางอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยปากกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า "ดูเหมือนว่าข้าจะกังวลมากเกินไป เจ้าสงบมากกว่าที่ข้าคิดไว้มาก"

หยุนชางอมยิ้ม " เรื่องนี้ต้องขอคุณท่านตาที่คอยสั่งสอนเพคะ"

เซียวหย่วนซานเดินไปนั่งตรงข้ามหยุนชาง เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "หลิวเหวินอันให้ข้าย้ายมาที่เรือนรับรอง เขากล่าวว่าเจ้าจะย้ายเข้าไปอาศัยในวังหรือ?"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ " ฝ่าบาททรงกล่าวว่าที่จวนนี้ไม่ปลอดภัย จึงสั่งให้ข้าย้ายเข้าไปอาศัยในพระราชวัง แต่อาศัยอยู่ที่วังหลิงหลงที่เหล่าองค์หญิงอาศัยอยู่"

เซียวหย่วนซานพยักหน้า เหลือบมองหยุนชางแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า "ดูท่าทางของเจ้าแล้ว ลั่วชิงเหยียนคงไม่เป็นกระไรมากกระมั้ง เขาได้ติดต่อเข้ามาหรือไม่?"

หยุนชางส่ายหน้า

เมื่อเซียวหย่วนซานเห็นเช่นนี้ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าปกตินิสัยของลั่วชิงเหยียนมิได้ใจดีเข้ากับใครง่ายๆ หากว่ามีคนมาลอบสังหาร เขาคงจะสั่งให้สายลับฆ่าให้หมดสิ้นอย่างแน่นอน แต่เหตุใดครั้งนี้เขาจึงมีมีแผนการอื่น เมื่อสักครู่นี้ข้าตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว แม้ว่าภายในจวนนั้นมีศพเกลื่อนกลาด แต่แทบจะไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เลย แสดงว่าหลังจากที่ลั่วชิงเหยียนทราบสถานการณ์แล้ว เขาก็พาคนออกจากที่นี่ไปทันทีเลย"

หยุนชางตกตะลึงและเงยหน้ามองเซียวหย่วนซาน นางมิได้สังเกตว่ามีร่องรอยของการต่อสู้หรือไม่ แต่หากเป็นดั่งที่เซียวหย่วนซานกล่าว แสดงว่าลั่วชิงเหยียนแทบจะพาคนออกจากที่นี่ทันทีเมื่อรู้ว่ามีคนบุกรุกเข้ามา การรับมือเช่นนี้เป็นวิธีการจัดการของลั่วชิงเหยียนที่หยุนชางรู้จักจริงๆ

เมื่อเซียวหย่วนซานเห็นสีหน้าของหยุนชาง เขาก็ทราบว่านางเข้าใจสิ่งที่ตนจะสื่อ "ข้าเดาว่าเขาต้องพบตัวตนของมือสังหารหรือตัวตนของผู้อยู่เบื้องหลังแล้วอย่างแน่นอน เขาจึงเล่นไปตามแผนของศัตรู"

หยุนชางพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาตั้งใจเล่นไปตามแผนจริงๆ ลั่วชิงเหยียนให้นางแสร้งทำเช่นนี้ แสดงว่าเข้าใช้กลอุบายเล่นไปตามแผนศัตรูน่ะสิ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง