ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก จากนั้นหลิวเหวินอันก็เดินเข้ามา เขาไม่แปลกใจเมื่อเห็นว่าเซียวหย่วนซานอยู่ที่นี่เช่นกัน เขาคารวะและกล่าวว่า " พระชายาขอรับ มหาราชครูเซียวขอรับ เชิญได้เลยขอรับ รถม้าพร้อมแล้วขอรับ"
หยุนชางและเซียวหย่วนซานยืนขึ้นพร้อมกันแล้วออกจากห้องไป รอบๆ ลานบ้านมีองครักษ์คอยคุ้มกัน เมื่อออกจากลานบ้านไปก็พบว่ามีทหารองครักษ์เดินผ่านไปมาพร้อมถือไฟไว้ในมือ ดูเร่งรีบอย่างมาก
หยุนชางหันไปมองดูลานบ้านที่ถูกไฟไหม้เสียหาย นางหยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แล้วเดินตามหลิวเหวินอันออกจากจวนไป
หลังจากขึ้นรถม้าไปได้ไม่นานก็เข้ามาในวัง
อาจเพราะว่าเซี่ยหวนอวี่ได้ส่งคนเข้าวังเพื่อรายงานแต่เนิ่นๆ แล้ว เมื่อหยุนชางตามหลิวเหวินอันมาถึงวงหลิงหลง ก็พบว่านางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาได้ยืนรออยู่หน้าประตูวังแล้ว
เมื่อเห็นหลิวเหวินอันพาหยุนชางเดินเข้ามา นางกำนัลเหลือบมองหยุนชางอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ละสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว "ต่อไปนี้พระชายารุ่ยอ๋องก็อาศัยอยู่ในตำหนักเฉาเซี่ยของวังหลิงหลงเถิด พระราชินีทรงสั่งให้คนไปทำความสะอาดแล้ว"
หยุนชางเร่งโค้งคำนับขอบคุณอย่างรวดเร็วไปยังทิศทางของตำหนักเว่ยยาง นางกำนัลนั่นมองดูหยุนชางอีกครั้ง จากนั้นจึงเร่งเดินจากไป
หลิวเหวินอันพาหยุนชางไปที่ตำหนักเฉาเซี่ยแล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า " วันนี้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอย่างกะทันหัน พระชายาทรงอดทนอาศัยก่อนคืนหนึ่ง หม่อมฉันได้ตามนางกำนัลของตำหนักไท่จี๋มารับใช้พระชายาก่อน หากว่าพระชายามีคำสั่งใดก็สั่งได้เลยขอรับ วันพรุ่งหม่อมฉันจะสั่งให้สำนักพระราชวังส่งตัวนางกำนัลมาให้พระชายาขอรับ"
หยุนชางตอบรับ จากนั้นหลิวเหวินอันก็ถอยออกไป
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและมองไปยังตำหนักที่อยู่ตรงหน้า ภายในตำหนักนั้นสะอาดหมดจด มีโต๊ะและเก้าอี้สองสามตัวตั้งอยู่ในห้องโถงใหญ่ โดยมีที่นั่งหลักอยู่ด้านหน้าสุด และมีฉากกั้นวางอยู่หลังเก้าอี้ และคลุมด้วยผ้าโปร่งบาง แม้ว่าจะไม่ดูดีเท่าไหร่นัก แต่ก็มีความสูงศักดิ์ที่พบได้เฉพาะในพระราชวังเท่านั้น หยุนชางหันกลับไปแล้วพบว่ามีนางกำนัลยืนอยู่นอกตำหนักหลายคน
หยุนชางยิ้มด้วยความขมขื่น ดูเหมือนว่านางจะถูกกักขังไว้ในพระราชวังอันงดงามนี้แล้วสิ
ทั้งฉินยีและเฉี่ยนจั๋วต่างมองดูนางกำนัลที่อยู่ด้านนอกนั่น สีหน้าของพวกนางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
เมื่อหยุนชางเห็นสีหน้าของทั้งสองแล้วจึงหัวเราะออกมา "วันนี้เราวุ่นวายมาทั้งทั้งคืนแล้ว ไปยกน้ำมาให้ข้าหน่อย ข้าจะล้างหน้าล้างตาแล้วรีบพักผ่อน"
ฉินยีและเฉี่ยนจั๋วสบตากัน ฉินยีเพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูตำหนัก เฉี่ยนจั๋วก็ยิ้มและกล่าวต่อนางกำนัลที่ยืนอยู่หน้าตำหนักว่า "น้องสาวสั่งให้คนยกน้ำร้อนมาให้ที่ตำหนักหน่อยได้หรือไม่?"
นางกำนัลนั่นตอบรับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอยออกไป
หยุนชางหันหลังเดินเข้าไปทางตำหนักใน ภายในตำหนักในงดงามอย่างมาก มีเตียงใหญ่หนึ่งเตียง เตียงที่ทำจากไม้มะฮอกกานีปกคลุมไปด้วยลวดลายดอกไม้สีดำที่ซับซ้อน และม่านเตียงยังปักด้วยดอกโบตั๋นบานใหญ่ ส่วนตรงข้ามประตูนั้นมีม่านลูกปัดสีม่วงแขวนอยู่ ม่านลูกปัดทำมาจากลูกแก้วเคลือบสีม่วง งดงามอย่างมาก ด้านหลังม่านลูกปัดนั่นมีโต๊ะขิมจีนวางอยู่
รอบๆ ห้องบรรทมมีพัดหลากหลายแบบตั้งอยู่ มีทั้งรูปผู้หญิง รูปลวดลายต่างๆ และพัดที่ปักรูปดอกไม้เอาไว้ ต่างก็ประณีตอย่างมาก แม้จะว่างอยู่อย่างนั้นโดยมิได้จัดแต่งกระไร แต่ก็สามารถมีเสน่ห์ของตัวมันเองได้
หยุนชางหันไปมองฉินยี และกล่าวด้วยเสียงเบาว่า "เจ้าทราบหรือไม่ว่าใครเคยอยู่ที่ตำหนักเฉาเซี่ยนี่?"
ท่านตากล่าว ลั่วชิงเหยียนมิได้ออกมาแสดงตนว่าตนปลอดภัยในทันทีที่พวกเขามาถึง แสดงว่าเขาทราบแล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร อีกทั้งเป็นไปได้อย่างสูงที่คนคนนั้นอาจจะมาถึงจวนรุ่ยอ๋องพร้อมหยุนชาง
และการที่เซี่ยหวนอวี่สั่งให้นางเข้าวัง ดูเหมือนว่าจะเป็นการปกป้องนาง แต่อันที่จริงกลับเหมือนว่าเขากักขังหยุนชางไว้ในวังเสียมากกว่า เซี่ยหวนอวี่คิดจะทำกระไร? หรือว่าเขาคิดจะเอาตัวนางเป็นตัวประกันที่จะข่มขู่ใครบางคนหรือไม่?
หยุนชางสับสนเล็กน้อย และหลายสิ่งหลายอย่างก็เหมือนกับเถาวัลย์พันกันไปหมด นางคิดไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ผล็อยหลับไป
หยุนชางหลับไปไม่ถึงสองชั่วโมง และเมื่อนางตื่นขึ้นมาฟ้ายังไม่สว่าง ทันทีที่ลืมตาขึ้นนางเห็นม่านเตียงสีแดงที่ปักด้วยดอกโบตั๋น หยุนชางตกตะลึงในทันที ดูเหมือนว่านางจะไม่ทราบว่าตนอยู่ที่ใด จึงเร่งเรียกอย่างเสียงดังว่า "ฉินยี เฉี่ยนจั๋ว?"
ม่านเตียงถูกเปิดออก ใบหน้าของฉินยีปรากฏอยู่ตรงหน้าหยุนชาง
"พระชายาตื่นแล้วหรือเพคะ? หม่อมฉันกำลังจำมาเรียกพระชายาเลยเพคะ วันนี้เป็นวันแรกที่เราอยู่ในพระราชวัง ตามกฎระเบียบแล้ว ควรที่จะไปถวายพระพรต่อพระราชินีที่ตำหนักเว่ยยางเพคะ หม่อมฉันจะไปหยิบเสื้อผ้ามาให้พระชายาสวมใส่ประเดี๋ยวนี้เพคะ ตอนนี้ก็เริ่มสายแล้ว พระชายาจำต้องเร่งเตรียมตัวเพคะ อย่าได้สายเกินไปเพคะ" ฉินยีกระซิบเบาๆ แล้วแขวนม่านเตียงบนตะขอทองที่อยู่ข้างๆ แล้วจึงก้มตัวลงเตรียมจะพยุงหยุนชางขึ้นมา
หยุนชางโบกมือและลุกขึ้นนั่งด้วยตัวเอง ใช่แล้ว นางอยู่ในวัง อยู่ในตำหนักเฉาเซี่ยของวังหลิงหลง
ฉินยีจึงหันไปหยิบเสื้อผ้ามาแล้วคลี่ออกให้หยุนชางดู เสื้อนี้เป็นแบบที่หยุนชางไม่เคยพบมาก่อน เป็นชุดกระโปรงยาวลากพื้นสีชมพูอ่อน ปักดอกชบาไว้ที่ชายกระโปรงด้วยไหมสีขาวดั่งพระจันทร์เสี้ยว
เมื่อเห็นว่าหยุนชางจ้องมองไปที่กระโปรงนั้น ฉินยีจึงเร่งกล่าวว่า "นี่เป็นเสื้อผ้าที่นางกำนัลด้านนอกนำมาส่งเมื่อเช้านี้เพคะ ได้ยินมาว่าเป็นเสื้อที่ฝ่าบาทสั่งให้จัดเตรียมไว้เพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...