ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 698

หยุนชางหรี่ตาแล้วยืนขึ้นเดินไปที่ห้องสรง จากนั้นก็ออกมาสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็นั่งอยู่หน้ากระจกทองแดงปล่อยให้ฉินยีมวยผมทรงถงซินปักด้วยดอกผ้าสีชมพูอ่อน แล้วปักด้วยปิ่น ข้อไม้ไผ่สีเขียวขจีสองอันในแนวทแยงมุม

หยุนชางยืนขึ้นและเดินออกจากห้องบรรทมไป ด้านนอกตำหนักนั้น เฉี่ยนจั๋วยืนอยู่ข้างโต๊ะกล่าวพร้อมยิ้มว่า "พระชายาเร่งมาเสวยพระกระยาหารสักหน่อยเถิดเพคะ"

หยุนชางพยักหน้าแล้วกินไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็พาฉินยีและเฉี่ยนจั๋วออกจากตำหนักแล้วเดินตรงไปที่ตำหนักเว่ยยาง

ฮองเฮายังไม่ตื่น หยุนชางจึงรออยู่ที่ตำหนักเว่ยยาง จากนั้นเหล่านางสนมที่มาถวายพระก็เริ่มมาถึงกันแล้ว เมื่อพวกนางเห็นหยุนชางนั่งอยู่ในตำหนักต่างก็ตกตะลึงเล็กน้อย คนที่มาถึงท้ายสุดคือหนิงเฉี่ยนและหลินโยวหราน พวกนางมองไปที่หยุนชางจากนั้นจึงไปนั่งประจำที่ของตน

เมื่อทุกคนมาครบแล้ว ฮองเฮาจึงเดินออกมาจากห้องบรรทม ประทับอยู่ที่นั่งหลักแล้วรับการถวายพระพรจากทุกคน จากนั้นจึงยิ้มแล้วมองไปที่หยุนชางพร้อมกล่าวเบาๆ ว่า "เมื่อวานนี้มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นที่จวนรุ่ยอ๋อง ยกเว้นคนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในพระราชวังกับพระชายารุ่ยอ๋องแล้ว คนทั้งจวนไม่มีใครมีชีวิตรอดเลย อีกทั้งท่านรุ่ยอ๋องก็หายตัวไป ตอนนี้พระชายารุ่ยอ๋องกำลังตั้งครรภ์ ฝ่าบาททรงเป็นห่วงความปลอดภัยของพระชายารุ่ยอ๋องและบุตรในครรภ์ จึงได้สั่งให้พระชายารุ่ยอ๋องมาอาศัยอยู่ภายในวังสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ก็อาศัยอยู่ในตำหนักเฉาเซี่ยของวังหลิงหลง"

ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา แววตาที่มองหยุนชางนั้นเผยความแปลกใจและสงสารออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าฮองเฮาจะพอใจกับผลที่ได้มาอย่างมาก จากนั้นนางก็ยิ้มแล้วกล่าวต่อว่า "พระชายารุ่ยอ๋องเข้ากับเหล่าสนมในวังได้อย่างดีมาโดยตลอด ตอนนี้นางอยู่ในวัง ทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแล เพราะถึงอย่างไรแล้ว หากว่าไม่สนเรื่องตำแหน่งและความอาวุโสแล้ว พระชายารุ่ยอ๋องก็ต้องเรียกทุกคนว่าเสด็จแม่"

ทุกคนต่างตอบรับ ฮองเฮาจึงโบกมือแล้วกล่าวว่า "พวกเจ้ามีธุระของตนที่ต้องจัดการ ไปกันเถิด ส่วนพระชายารุ่ยอ๋องอยู่พูดคุยกับข้าสักหน่อย"

นางสนมคนอื่นๆ เร่งคารวะแล้วน้อมลาออกไป

หยุนชางนั่งอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ มีความเศร้าปรากฏในสีหน้าของนางเล็กน้อย

ฮองเฮามองดูหยุนชางอย่างละเอียด จากนั้นจึงเอ่ยปากว่า "เมื่อวานนี้พักอยู่ที่ตำหนักเฉาเซี่ย เจ้าหลับสบายหรือไม่? บุตรในครรภ์ไม่เป็นกระไรใช่หรือไม่? ข้ากลัวว่าเจ้าจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วทำให้ภาวะครรภ์ไม่คงที่"

หยุนชางยิ้มอย่างขมขื่นและตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ทุกอย่างเรียบร้อยดีเพคะ ขอบพระคุณฮองเฮาที่ทรงห่วงใยเพคะ" ขณะที่พูด นางยกมือขึ้นจับท้องที่โตขึ้นมาเล็กน้อยแล้วไว้ แล้วถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า "เด็กคนนี้เป็นเด็กที่รู้จักเห็นใจคนอื่น มิได้มีเรื่องกระไรมากเพคะ"

"เช่นนั้นย่อมดี" ฮองเฮายิ้มแล้วก้มหน้าลงและมองเล็บสีแดงเข้มของตน แล้วอมยิ้มอย่างสบายใจ "ใครกันที่ใจร้ายเช่นนี้ ไม่คาดคิดว่าจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ เจ้ามิต้องกังวลมากไปหรอก รุ่ยอ๋องเป็นคนที่มีวาสนา เขาจะต้องไม่เป็นกระไรอย่างแน่นอน"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ "หม่อมฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเพคะ"

จากนั้นฮองเฮาก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปอย่างเงียบๆ "จะว่าไปแล้ว ตำหนักเฉาเซี่ยที่เจ้าอาศัยอยู่ตอนนี้ เป็นตำหนักที่องค์หญิงใหญ่เคยอาศัยมาก่อน เมื่อครั้งที่องค์หญิงใหญ่ยังสาว นางก็เป็นหญิงสาวที่ไร้เดียงสาเช่นกัน ตอนนั้นนางยังเด็ก เจ้าหญิงคนโตยังเป็นเด็กผู้หญิงไร้เดียงสา ตอนนั้นข้ายังมิได้อภิเษกสมรส และข้ามักจะพบกับนางอยู่บ่อยครั้ง นางชอบการเล่นขิมจีน แล้วเล่นหมากรุก เขียนพู่กันและวาดภาพ และนางสามารถลอกเลียนแบบลายมือของคนอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม และชอบสะสมของสวยๆ งามๆ อย่างมาก โดยเฉพาะพวกพัดต่างๆ"

"เจ้าอาศัยอยู่ในตำหนักเฉาเซี่ย และแน่นอนเจ้าคงเห็นภาพของตำหนักนั้นแล้ว ภายในตำหนักเต็มไปด้วยพัด แต่ก็ยังงดงามอย่างมาก" ฮองเฮาอมยิ้ม "จะว่าไปแล้ว ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ได้รับความโปรดปรานจากอดีตจักรพรรดิอย่างมาก แคว้นเซี่ยในตอนนั้นเน้นเรื่องการศึกษาไม่เน้นเรื่องศิลปะการต่อสู้ จึงถือว่าค่อนข้างอ่อนแอในหมู่แคว้นต่างๆ ชะตากรรมขององค์หญิงหลายคนจึงเป็นการอภิเษกสมรสเพื่อแสดงไมตรีจิตต่อกัน อดีตจักรพรรดิองค์หญิงทั้งหมดเจ็ดองค์ มีองค์หญิงห้าองค์ได้อภิเษกสมรสเพื่อสัมพันธ์ไมตรีไปแล้ว มีเพียงแต่องค์หญิงใหญ่และองค์หญิงไท่อันเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น องค์หญิงใหญ่ได้รับความโปรดปรานของอดีตจักรพรรดิ ฉะนั้นจึงมิได้อภิเษกสมรสไปที่แดนไกล ส่วนองค์หญิงไท่อันเป็นองค์หญิงที่อายุน้อยที่สุด ไทเฮาทรงรักดั่งแก้วตาในดวงใจ แน่นอนว่าจึงไม่ยอมให้นางอภิเษกสมรสเพื่อสัมพันธ์ไมตรีระหว่างแคว้นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีมาตรฐานที่สูงมาก จึงมิได้อภิเษกสมรสเสียที"

เมื่อพูดถึงองค์หญิงไท่อัน สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ถูกปกปิดไปอย่างรวดเร็ว

"องค์หญิงใหญ่ก็เช่นกัน ไม่คาดคิดว่านางจะทำสิ่งที่ดื้อรั้นเช่นนั้นออกมา นางเป็นหญิงสาวที่ยอดเยี่ยมมาก น่าเสียดายจริงๆ"

หยุนชางฟังอย่างเงียบ ๆ และเมื่อฮองเฮาพูดจบ นางจึงเอ่ยปากตอบรับว่า "ใช่เพคะ"

ฮองเฮายกมือขึ้นปิดปากแล้วหาวเบา ๆ จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า " ข้าตื่นเช้าเกินไป ตอนนี้เริ่มล้าเล็กน้อยแล้ว เมื่อคืนนี้เจ้าก็คงมิได้พักผ่อนดีๆ เจ้ากลับไปนอนพักอีกสักหน่อยเถิด"

หยุนชางรีบโค้งคำนับและถอยออกไป แล้วยืนอยู่หน้าประตูตำหนักเว่ยยาง

"พระชายาจะไปที่ตำหนักเซียงจู๋หรือไม่เพคะ?" เฉี่ยนจั๋วเห็นเช่นนี้จึงเร่งเอ่ยปากถาม

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงส่ายหน้า "ตอนนี้ข้ามีปัญหาติดตัวมาเยอะแล้วทางที่ดีควรอยู่ห่างๆ จากตำหนักเซียงจู๋เอาไว้" ขณะที่กล่าว นางก็ก้าวเดินไปทางวังหลิงหลง

วังหลิงหลงอยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวัง ตั้งอยู่ข้างๆ ทะเลสาบเหยียนชุ่ย ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีเลย หยุนชางเดินไปที่ทะเลสาบเหยียนชุ่ย ริมทะเลสาบเหยียนชุ่ยปลูกต้นหลิวอยู่หลายต้น แม้ว่าฤดูหนาวจะยังไม่ผ่านพ้นไป แต่ต้นหลิวก็เริ่มแตกหน่อแล้ว

หยุนชางเดินช้าๆ อยู่ริมทะเลสาบ แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังพูดดังขึ้นมา "ย้ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนตอนดึกๆ แล้ว พวกเจ้าไม่ทราบหรือ ข้าเองก็ได้ยินวันนี้ นางกำนัลกล่าวมา ข่าวแพร่กระจายแต่เช้าแล้ว"

"ฟังจากสิ่งที่ฮองเฮาทรงตรัสแล้ว ครั้งนี้ท่านรุ่ยอ๋องคงจะรอดกลับมายาก แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสของท่านรุ่ยอ๋องเลย พระชายาก็ทรงเข้าวังแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าหากวันหน้าท่านรุ่ยอ๋องกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ท่านจะคิดอย่างไร ฮ่าๆ ......"

"ข้ารู้สึกว่านางมิใช่คนธรรมดา เจ้าคิดดูสินางเป็นพระชายา แต่ข้าเคยได้ยินมาว่าฝ่าบาทเคยเดินหมากกับนางตามลำพัง แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงเป็นเสด็จพ่อของท่านรุ่ยอ๋อง แต่ยังไงก็ต้องหลีกเลี่ยงเช่นนี้สักบ้าง ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าแคว้นหนิงเป็นเช่นนี้เสียอีก แต่วันนี้ข้าเพิ่งเข้าใจแล้วว่า นางมีเจตนาอื่นนี่เอง น่าสงสารท่านรุ่ยอ๋องเหมือนกัน ไม่รู้เลยว่าเขาถูกนอกใจไปกี่ครั้งแล้ว ได้ข่าวมาว่านางตั้งครรภ์แล้ว เด็กนั่นเป็นของใครก็ไม่แน่....."

เสียงที่พูดนั้นมิได้เบามาก มันดังมาพร้อมเสียงหัวเราะเป็นระยะ สะดุดหูอย่างมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง