ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 731

เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยหวนอวี่ที่เฉยเมยเช่นนั้น ฮองเฮาพลันรีบร้อนกล่าวด้วยรอยยิ้มออกมาว่า "หม่อมฉันทราบมาว่า ภายในวังหลังแห่งนี้ มิได้มีเพียงหม่อมฉันที่มีหยกอุ่นแต่เพียงผู้เดียว. หม่อมฉันจำได้ว่า ในมือของเสิ่นซู่เฟยก็มีอีกก้อนเช่นกันเพคะ"

พลันมีแสงผ่านวาบเข้ามาในนัยน์ตาของเซี่ยหวนอวี่ "ซูเฟยร่างกายมิค่อยแข็งแรง ก่อนหน้านั้นนางต้องเย็นอยู่ในตำหนักอู๋เหยียน มาเวลานี้นางยังเกรงกลัวอากาศหนาวเป็นอย่างมาก หยกอุ่นของนางเก็บไว้ให้นางใช้เสียเถอะ"

เพียงหยุดไปชั่วครู่. เซี่ยหวนอวี่พลันพูดต่อขึ้นมา "เจิ้นได้ยินมาว่า. วันก่อนเจ้าให้คนไปตามหาสถานที่สลักชื่อทั่วเมื่องจิ่น ? เจ้าต้องการสลักสิ่งใดกัน ? "

ภายในใจของฮองเฮาพลันตื่นเต้น พร้อมทั้งระมัดระวังตัวขึ้นมา พลางส่งยิ้มกล่าวกลับมาว่า "ท่านพ่อของหม่อมฉัน มิใช่ว่าอีกไม่นานจะอายุครบหกสิบปีแล้วหรือเพคะ? หม่อมฉันพลันนึกขึ้นมาได้ว่า ปีนี้ยังมิได้มีสิ่งของอะไรใหม่ๆ มามอบให้กับท่านพ่อของหม่อมฉันเสียเลย ก่อนหน้านั้นท่านเคยกล่าวว่า แท่นฝนหมึกดั้งเดิมในมือของท่านพ่อได้มอบให้กับน้องชายของหม่อมฉันไปแล้ว ตอนนี้ในมือของท่านพ่อยังไม่พบแท่นฝนหมึกอันใหม่ที่ท่านถูกใจเลยเพคะ หม่อมฉันจึงอยากมอบแท่นฝนหมึกให้ ทว่า แท่นฝนหมึกที่หม่อมฉันต้องการ คือแท่นฝนหมึกที่มีตัวเรือนเป็นหินนั้น กลับหาได้ยากยิ่ง หม่อมฉันจึงได้สั่งให้คนไปสอบถามบริเวณโดยรอบแล้ว พลันได้ยินมาว่า ช่างฝีมือที่ชอบแกะสลักบนหินนั้น มักจะชอบสะสมหินที่หายากไว้. หม่อมฉันจึงได้ส่งคนไปสอบถามเพคะ"

คำพูดเช่นนี้ เมื่อฟังดูแล้ว ดูสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง แท่นฝนหมึกที่ตัวเรือนเป็นหินนั้น เหมาะสมกับของขวัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นของหายาก

หากแต่ เมื่อเซี่ยหวนอวี่ได้ยินเช่นนั้น พลันเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องฮองเฮา สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา "โอ้? ที่แท้เรื่องเป็นเช่นนี้งั้นหรือ ?"

ฮองเฮาไม่เข้าใจในความหมายที่เซี่ยหวนอวี่จะสื่อถึง พลางมองเซี่ยหวนอวี่ด้วยสีหน้าที่งุนงง เซี่ยหวนอวี่พลันกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาด้วยความเย็นชาว่า "เจิ้นมิรู้มาก่อนเลยว่า เจ้าสั่งให้คนไปสอบถามเรื่องนี้กับช่างฝีมือ"

ฮองเฮาพลันตกตะลึงอยู่กับที่ ราวกลับว่ามีลมหนาวสายหนึ่งพัดผ่านมาที่ฝ่าเท้าของนาง นางมิเคยคิดเลยว่าเซี่ยหวนอวี่จะใช้วิธีเช่นนี้เป็นหลอกล่อนาง

"หมายความว่าอย่างไรเพคะ ฝ่าบาท " ฮองเฮาพลันขบริมฝีปากไปมา พลางแอบกำมืออยู่ที่ใต้แขนเสิ้อเบา ๆ พร้อมยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมาว่า "หม่อมฉันเพียงแค่ตามหาแท่นฝนหมึกให้ท่านพ่อ ฝ่าบาทยังตื่นตูมเช่นนี้ หรือเป็นเพราะฝ่าบาทรู้สึกว่าที่หม่อมฉันตามหาแท่นฝนหมึกให้ท่านพ่อของตนเองเป็นสิ่งที่ผิด ? หรือฝ่าบาทคิดว่า ข่าวลือเรื่องแท่นศิลาในเมื่องจิ่นที่กำลังวุ่นวายในตอนนี้เป็นฝีมือของหม่อมฉันกัน ?"

เซี่ยหวนอวี่ได้ยินเช่นนั้น เพียงจับจ้องไปที่นางด้วยสายตาเย็นชา จ้องเสียฮองเฮาอดไม่ได้ที่จะต้องนั่งตัวตรง ผ่านไปสักพัก พลางกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า " ตระกูลซูอยู่มาตั้งแต่ครั้งที่ก่อตั้งราชวงศ์แล้ว อีกทั้งยังเป็นดั่งเสนาบดีคู่ใจของแคว้นเซี่ยอีก ฮองเฮาเองก็รู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร ?"

"นั้นเป็นเพราะว่า ตระกูลซูในทุก ๆ รุ่นล้วนแต่มีความจงรักภักดีต่อฝ่าบาทมาช้านาน สามารถอุทิศตนให้กับราชวงศ์ได้จนกว่าตนจะตายจาก " ฮองเฮามิกล้าสบสายตากับเซี่ยหวนอวี่มากนัก พลางหันหน้าไปมองภาพหงส์ร่ายร่ำที่สลักอยู่บนเสาของตำหนักไท่จี๋

เซี่ยหวนอวี่เพียงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมส่ายหน้าไปมาว่า " เจ้าพูดออกมาเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นอกจากความภักดีของตระกูลซูแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ควรรู้นั้นคือ สิ่งใดที่ควรถามหรือสิ่งใดที่ไม่ควรถาม"

สีหน้าของฮองเฮาราวกับถูกแช่แข็ง พลางได้ยินน้ำเสียงที่ไม่แยแสและเต็มไปด้วยความเย็นชาของเซี่ยหวนอวี่กล่าวออกมาว่า "ความจงรักภักดีที่มีขอบเขตจึงจะเป็นพื้นฐานที่ดีของตระกูลซู หากแต่ฮองฮองและใต้เท้าซูกลับทำให้เปิ่นหวางรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก"

เซี่ยหวนอวี่ที่จดจ้องไปยังฮองเฮา น้ำเสียงที่แผ่วเบา ลอยเข้ามาในหูของฮองเฮาราวกับมีเข็มนับพันเล่มแทงเข้ามา

"บางครั้งบางครา มนุษย์ก็ควรที่จะรู้จักความพอประมาณเสียบ้าง แม้กระทั่งการมอบภูเขาเจียงให้ผู้ใด นั่นเป็นเรื่องที่ลูกหลานตระกูลเซี่ยสามารถสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้หรือ. ฮองเฮา. เจ้าอยู่ในรั้ววังแห่งนี้มานานหลายปี ยังไม่รู้จักเติบโตขึ้นเลยแม้แต่น้อย หากมิใช่ว่าเจ้ามีอิทธิพลของตระกูลซูอยู่เบื้องหลังแล้ว เกรงว่าในตอนนี้ เจ้าคงจะไม่เหลืออะไรอีก คนเราต้องรู้จักความพอประมาณ ตอนนี้เจ้าถือครองตำแหน่งที่เหนือกว่าผู้คนนับหมื่น"

ในวังหลังแห่งนี้ล้วนแต่เก็บความลับได้ยากยิ่ง เพียงยามเช้าของวันที่สอง ผู้คนทั่วตำหนักพลันรับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมื่อวานตอนกลาวคืน ถึงเหตุการณ์ที่เซี่ยหวนอวี่แตกคอกับฮองเฮาที่ตำหนักเว่ยยาง สุดท้ายจึงได้เดินสะบัดออกจากตำหนักไป ถึงแม้ผู้คนจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใด ทว่า ผู้คนต่างก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่ธรรมดาในเรื่องนี้

ในวันที่สองผู้คนเดินทางมาที่ตำหนักเว่ยยางเพื่อรอการคำนับ ในอีกมุมหนึ่งคือการลอบมาสืบความถึงเหตุการณ์ที่เกิดเขึ้น ไม่คาดคิดว่า ฮองเฮาจะกล่าวออกมาว่าตนเองรู้สึกเจ็บป่วย มิต้องให้สนมมาคำนับในยามเช้าวันนี้

ผ่านไปเพียงพริบตา ผู้คนในวังหลังล้วนแต่ร่ำลือไปต่างๆนานา

ภายในตำหนักเซียงจู๋ ยังเป็นวันที่เป็นไปอย่างเรียบง่ายเช่นเดิม ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่กำลังคาดการณ์เหตุการณ์ต่าง ๆนานาระหว่างฮองเฮาและฝ่าบาทว่าเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น ทว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างจักรพรรดิและฮองเฮา ผู้คนส่วนใหญ่จึงมิกล้าพูดกันอย่างโจ่งแจ้ง อีกทั้ง ยังเป็นเพราะหนิงเชี่ยนและหลินโยวหรานกำลังตั้งครรภ์ด้วยกันทั้งคู่ ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าเข้าไปรบกวนพวกนางมากนัก

หลินโยวหรานเริ่มที่จะเปิดใจมากขึ้นแล้ว. หากแต่เป็นเพราะว่า แรกเริ่มที่รู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์นั้น มีเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้นเยอะเหลือเกิน. อีกทั้ง ครรภ์ในท้องยังไม่มีความคงที่ กลับมาจากตำหนักเว่ยยาง. นางก็เข้าตำหนักพักผ่อน

หลังจากที่หนิงเชี่ยนกลับมาในตำหนักได้ไม่นาน นางเพียงแค่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความเหม่อลอยเท่านั้น

เฉี่ยนซินที่เพิ่งกลับมาจากด้านนอก ภายในมือของนางมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่น พร้อมกระซิบกับหนิงเชี่ยนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "พี่สาวเฉี่ยนยินส่งข้อความมาเพคะ. เรื่องราวในภายนอกให้จัดเตรียมตามที่นายท่านรับสั่ง กรมอาญาพบศพชายชราช่างฝีมือผู้นั้นแล้วเพคะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง