ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 733

หนิงเชี่ยนพลางพยักหน้าลงเล็กน้อย. ช่วงเวลาหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมานั้น เซี่ยหวนอวี่มักจะติดนิสัยเคยชินอย่างหนึ่ง คือการชอบคีบผักหรือเนื้อเพิ่มเข้ามาในชามของหนิงเชี่ยน เมื่อแรกเริ่ม ครั้งที่หนิงเชี่ยนได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน นางรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทว่า จนถึงตอนนี้ นางก็รู้สึกคุ้นเคยไปกับมันเสียแล้ว

"วันนี้หมอหลวงมาตรวจเส้นชีพจรเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ? เด็กในครรรภ์ยังอยู่ดีหรือไม่ ?"เซี่ยหวนอวี่ถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

หนิงเชี่ยนพลันดึงสติกลับมา สายตาที่ล้ำลึกกลับอยากพูดถึงอาการประหลาดบางอย่างในท้องของนางให้เซี่ยหวนอวี่ฟัง หากแต่เมื่อเปิดปากพูดออกมานั้น ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยนไปหมด "ท่านหมอหลิวกล่าวว่าชีพจรคงที่เพคะ หม่อมฉันคิดว่าเด็กคนนี้คงเชื่อฟังเป็นอย่างดี ไ ม่เคยสร้างปัญหาใด ๆให้หม่อมฉันเฉกเช่นครรภ์ของฮุยเจาอี๋เลย. นางดูจะลำบากเป็นอย่างมากเลยเพคะ"

เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าเล็กน้อย อีกทั้งยังไม่ถามถึงสถานการณ์ของฮุยเจาอี๋อีก

เมื่อรับสำรับมื้อค่ำเสร็จ เซี่ยหวนอวี่จึงพำนักพักผ่อนอยู่ที่ตำหนักเซียงจู๋อย่างสบายใจ หนิงเชี่ยนจึงสั่งให้คนไปเตรียมน้ำอาบ แล้วจึงรั้งรอให้เซี่ยหวนอวี่พลันชำระล้างร่างกายเสร็จ

เมื่อเซี่ยหวนอวี่ชำระล้างกายเสร็จแล้ว นางจึงเข้าไปพยุงเซี่ยหวนอวี่เดินเข้าตำหนักไป มือพลันแตะเข้าไปจับชีพจรของเซี่ยหวนอวี่โดยมิได้ตั้งใจ

แรกเริ่มนางมิทันได้รู้สึกตัว ผ่านไปครู่หนึ่ง สายตาพลางฉายแววงุนงงออกมาอย่างแปลกประหลาด ฝีเท้าพลันหยุดชะงักลงกับที่ มิได้ขยับเขยื้อนไปไหน

เซี่ยหวนอวี่พลันชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงหันหน้ากลับมาหาหนิงเชี่ยน ใช้สายตาสื่อถึงคำถามว่า "มีอะไรงั้นหรือ ? "

หนิงเชี่ยนจึงรีบร้อนส่ายหน้าไปมา พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า เมื่อครู่เกรงว่าจะโดนความร้อนมากเกินไป ในหัวจึงรู้สึกวินเวียนไปชั่วครู่เพคะ " แล้วจึงรีบเก็บสายตาที่ฉายแววประหลาดใจลงอย่างรวดเร็ว

มือพลันชักกลับออกมาจากแขนของเซี่ยหวนอวี่ มือขวาทาบกลับมาที่มือซ้ายของตนเองอย่างสงบเสงี่ยม

ยามเช้าของวันที่สอง เซี่ยหวนอวี่จึงออกไปว่าราชการ เมื่อถึงยามที่ต้องไปตำหนักเว่ยยางแล้ว เฉี่ยนซินจึงเดินเข้าไปในห้อง พลางเปิดม่านเข้าไปเรียกหนิงเฉี่ยนให้ลุกขึ้นตื่น พลันเห็นว่าหนิงเฉี่ยนเบิกตากว้างจ้องมองไปยังด้านบนเพดานของเตียง หน้าผากพลางมีร่องรอยเส้นเลือดสีน้ำเงินจางๆ

เฉี่ยนซินรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก จึงรีบร้อนถามขึ้นมาว่า "วันนี้เหนียงเหนียงมีอาการเช่นไรงั้นหรือ ? มีที่ใดรู้สึกไม่สบายหรือไม่เพคะ ?"

หากแต่ หนิงเชี่ยนราวกลับมิได้ยินก็มิปาน เพียงครู่หนึ่ง เฉี่ยนซินพลันได้ยินเสียงพึมพำกล่าวออกมาว่า "เพราะอะไรกัน ?"

เฉี่ยนซินมิเข้าใจว่าหนิงเชี่ยนกำลังกล่าวถึงอันใด เมื่อมองไปที่หนิงเชี่ยนก็มิรู้จักต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน เพียงครู่หนึ่ง จึงเปิดปากพูดขึ้นมาว่า "เหนียงเหนียง ถึงยามที่ต้องไปตำหนักเว่ยยางเพื่อเข้าคำนับยามเช้าแล้วเพคะ "

หนิงเชี่ยนก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอันใดตอบโต้กลับมา

ผ่านไปสักพัก ข้างนอกพลันมีเสียงดังเข้ามา เฉี่ยนซินพยายามตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ หากแต่ได้ยินเป็นเสียงของหลิวเหวินอัน จากนั้นไม่นาน ข้ารับใช้ด้านนอกพลางเข้ามารายงานว่า "เหนียงเหนียง หัวหน้าหลิวต้องการเข้าเฝ้าเพคะ"

เฉี่ยนซินจึงรีบร้อนเขย่าตัวหนิงเชี่ยนไปมา พลางกล่าวออกมาด้วยความรีบร้อนว่า "เหนียงเหนียง หัวหน้าหลิวมาเข้าเฝ้าเพคะ?"

หนิงเชียนจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา พร้อมค่อยๆหันหน้ามาถามว่า "หัวหน้าหลิว ?"

เฉี่ยนซินพลันรีบร้อนพยักหน้า หนิงเชี่ยนครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จึงกล่าวขึ้นมาว่า "ช่วยพยุงข้าลุกขึ้นที"

เฉี่ยนซินจึงรีบร้อนเข้ามาช่วยพยุงหนิงเชี่ยนลุกขึ้น พร้อมทั้งจัดอาภรณ์ให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว หนิงเชี่ยนจึงค่อยๆเดินออกมาจากตำหนักด้วยน้ำเสียงที่ยังคงอ่อนโยนเฉกเช่นเดิม หากแต่ มิรู้ว่าเหตุใดเฉี่ยนซินกลับรู้สึกว่า วันนี้เซียงเฟยเหนียงเหนียง กลับดูเย็นชาลงไปหลายส่วน

ทุกคนมีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้หรือ พลันรีบร้อนกล่าวคำขอบคุณเสียมากมาย หนิงเชี่ยนจึงสั่งให้พวกเขาแยกย้ายกันไปทำงานได้ แล้วจึงสั่งให้เฉี่ยนซินนำตราประทับสีทองถือตามเข้ามาในตำหนัก

"เจ้าหาที่วางเสีย ของเล่นเช่นนี้เอามาวางไว้ที่ข้า บางทีของสิ่งนี้กลับจะทำให้ผู้คนอยู่ไม่สุขก็เป็นได้ หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติอันใดขึ้นมา คงเป็นเพราะฝ่าบาทนำปัญหาที่ยุ่งยากมามอบให้ข้าเสียแล้ว " หนิงเชี่ยนพลันขมวดคิ้วลง ไม่แม้แต่จะมองสิ่งที่ผู้คนในวังหลังต้องการไขว่คว้าตราประทับสีทองของฮองเฮาเช่นนี้ พลางเดินไปเอนตัวนั่งพิงบนตั่งนิ่ม ๆ ลง

"เหนียงเหนียงอย่าได้กล่าวเช่นนี้สิเพคะ นี่เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายต้องการเชียว ฝ่าบาทนำมาให้เหนียงเหนียงเช่นนี้ เป็นเพราะฝ่าบาทไว้วางใจเหนียงเหนียงนะเพคะ"เฉี่ยนซินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่เป็นสุข "นายท่านเชี่ยนเชี่ยนอย่างไรก็ยังคงเป็นนายท่านเชี่ยนเชี่ยน นี่ยังมิทันครบสองปี แม้แต่ตราประทับของฮองเฮา ท่านก็ได้ถือครองเสียแล้ว นู๋ปี๋รู้สึกว่า อีกไม่นานตำแหน่งฮองเฮาก็จักต้องเป็น "

"เจ้าพูดอะไรไร้สาระเช่นนี้ "หนิงเชี่ยนมิสามารถคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ได้เลย ตั้งแต่ที่นางรับราชโองการมา นางกับไม่รู้สึกสบายใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว

เมื่อได้ยินเฉี่ยนซินพูดออกมาเช่นนี้ จึงรีบร้อนกล่าวตำหนิอย่างรวดเร็ว ภายในใจรู้สึกถึงสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก "ข้าเป็นคนขององค์หญิงใหญ่ ก่อนหน้านั้นความสัมพันธ์ระหว่างฝ่าบาทและองค์หญิงใหญ่ยังถือว่าสนิทชิดเชื้อ เมื่อได้รับความโปรดปรานข้ายังมิได้มีปัญหาแต่อย่างใด ทว่า ในเวลานี้องค์หญิงใหญ่เป็นปรปักษ์กับฝ่าบาทแล้ว ในเมื่อฝ่าบาทเป็นเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกถึงความผิดปกติมากยิ่งขึ้น ยิ่งข้าปีนขึ้นสูงเท่าไหร่ ยิ่งมีแต่ความอันตรายมากเท่านั้น"

เมื่อเฉี่ยนซินเห็นหนิงเชี่ยนกำลังคิดมากเช่นนี้ จึงทำได้แต่เพียงก้มหน้า มิกล้าเอ่ยวาจาหลอกล้ออีกต่อไป เพียงครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วจึงค่อย ๆ กล่าวออกมาว่า "หรืออาจจะเป็นเพราะ เหนียงเหนียงในตอนนี้กำลังตั้งครรภ์กันเพคะ "

หนิงเชี่ยนยังมิรู้สึกอันใด เมื่อครั้งที่เฉี่ยนซินกล่าวขึ้นมาว่ากำลังตั้งครรภ์ นางกลับฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง จึงรีบร้อนกวักมือเรียกให้เฉี่ยนซินเดินเข้ามา "เจ้า มาช่วยข้าจับชีพจรที"


เฉี่ยนซินมิรู้ว่าเหตุใดหนิงเชี่ยนถึงให้ทำเช่นนี้ จึงชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงลงไปนั่งคุกเข่าที่ข้างกายหนิงเชี่ยน พลางยื่นมือออกไปจับข้อมือหนิงเชี่ยน เพียงครู่หนึ่ง จึงขมวดคิ้วลง "เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้เพคะ ? เมื่อวานเส้นชีพจรยังเต้นเป็นปกติอยู่เลย. เหตุใดวันนี้ชีพจรถึงลื่นเช่นนี้"

"ชีพจรลื่นใช่หรือไม่ ? " นัยน์ตาของหนิงเชี่ยนฉายแววเย็นเยียบ เพียงครู่หนึ่งจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เฉี่ยนซินเจ้าจำได้หรือไม่ วันก่อนหน้าที่ข้าจะรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์นั้น ฝ่าบาทมักจะมารับสำรับที่ตำหนักเซียงจู๋วันถึงสองวันใช่หรือไม่"

เฉี่ยนซินมิค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดหนิงเชี่ยนจึงพูดถึงเรื่องนี้ออกมา. ทว่าก็พยักหน้ารับคำ "เพคะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง