ฮวาอวี้ถงหัวเราะเสียงดัง "กลัวอะไร เขาเป็นถึงชาติชาย ยังจะกลัวหลงทาง? ข้าแค่มาดูงิ้วกับเขา งิ้วก็จบลงแล้ว ก็ควรแยกย้ายกันได้ ไปกันเถอะ ข้าจะกลับจวนรุ่ยอ๋องกับเจ้า" จากนั้นนางก็หันศีรษะและมองที่ซวี่ซานซือ "พี่ซานซือกลับไปที่โรงเตี๊ยมคนเดียวก่อนเถิด ข้าจะไปนั่งที่จวนรุ่ยอ๋องกับชางเอ๋อร์ก่อน"
ซวี่ซานซือมองไปที่ฮวาอวี้ถงด้วยสายตาที่เอ็นดูและตามใจ ยิ้มเบาๆและพูดว่า "ได้ เจ้าไปเถอะ"
ฮวาอวี้ถงดึงหยุนชางลงไปชั้นล่าง ออกจากลี่หยวน และสั่งให้สารถีรถม้าพาซวี่ซานซือกลับไปที่โรงเตี๊ยม ส่วนนางก็ขึ้นไปที่รถม้าของหยุนซาง
หยุนชางค่อยๆหัวเราะออกมา แล้วเดินตามเข้าไปในรถม้า
ฮวาอวี้ถงยกม่านรถม้าขึ้นและโบกมือให้กับซวี่ซานซือ จากนั้นลดม่านรถม้าลง "ช่วงก่อนข้าได้ยินมาว่าชางเอ๋อร์หายตัวไปทำเอาข้าเป็นห่วงมาก เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่"
หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "ก็อยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วมิใช่หรือ ข้าไม่เป็นไร"
ฮวาอวี้ถงดูเหมือนจะโล่งใจ ยิ้มและกล่าวว่า "เช่นนั้นก็ดีแล้ว ก็ดีแล้ว"
หยุนชางจ้องที่ฮวาอวี้ถงเป็นเวลานาน แล้วจึงเอ่ยถามเบาๆ "ช่วงนี้จวนอ๋องเจ็ดอย่างไรบ้าง?"
รอยยิ้มของฮวาอวี้ถงจางลงเล็กน้อยและส่ายหัว "ก็ยังเป็นเช่นนั้นเหมือนเดิม เรื่องต่างๆในจวนก็มีพ่อบ้านและหัวหน้ามามาเป็นคนจัดการ แทบจะไม่เคยมาถึงที่ตัวข้า ตำแหน่งพระชายาของข้าเป็นแค่ในนามแต่ไร้ตัวตนเท่านั้น"
หยุนชางมองไปที่มุมปากของฮวาอวี้ถงที่มีรอยยิ้มที่ขมขื่น เงียบไปนานก่อนที่จะพูดว่า "แม้ว่าข้าเพิ่งจะออกจากวังกลับจวนในเมื่อวานนี้ แต่ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าบ้าง เจ้ารู้หรือไม่?"
ฮวาอวี้ถงตะลึงอยู่พักหนึ่งแล้วหัวเราะ "ที่ว่าข้ากับพี่ซานซือใช่หรือไม่ ข้ารู้ ทำไมข้าจะไม่รู้ ลือกันจนเหมือนจริงเยี่ยงนั้น"
หยุนชางไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ฮวาอวี้ถงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ และจ้องไปที่หยุนชางด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง พูดว่า "ชางเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าเจ้าก็เชื่อตามหรอกนะ"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตอบ
บนใบหน้าของฮวาอวี้ถงมีความลำบากใจเล็กน้อย หลังจากเงียบไปนาน นางพูดเบาๆว่า "ที่จริงข้าไม่ค่อยสนิทกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้มากนัก ที่ข้าไปดูงิ้วกับเขาเกือบทุกวัน ความจริงคือมีจุดประสงค์"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองนาง ฮวาอวี้ถงแลบลิ้นและยิ้มเล็กน้อย "ท่านน้าของข้าทำค้าขายที่บ้าน ลูกพี่ลูกน้องของข้ามักจะติดตามไปกับท่านน้าไปทุกที่ ก่อนที่จะมาที่เมืองจิ่น เขาได้ไปเมืองหลิงซี..."
เมืองหลิงซี... หยุนชางกระพริบตาอยู่ครู่หนึ่งและไม่ตอบ
ฮวาอวี้ถงกล่าวต่อว่า "ลูกพี่ลูกน้องของข้ามาที่เมืองจิ่นเพื่อสอบจอหงวน ท่านน้าและน้าสะใภ้ของข้าได้ยินว่าข้าแต่งงานกับท่านอ๋องเจ็ด จึงกำชับให้ลูกพี่ลูกน้องของข้ามาเยี่ยมข้าที่จวน และอยากดูว่าข้าจะช่วยพวกเขาได้หรือไม่ ข้าจะมีความสามารถเช่นนั้นได้อย่างไร วันนั้นได้ยินลูกพี่ลูกน้องของข้าพูดถึง แต่ไม่กล้าตอบรับ จึงต้องเบี่ยงเบนเรื่องสนทนา ถามเขาว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วเขาก็บอกข้าว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองหลิงซี และบอกว่าบังเอิญได้พบผู้ติดตามของท่านอ๋องเจ็ดหลายครั้งตอนที่อยู่ในเมืองหลิงซี"
หยุนชางถอนหายใจเบาๆ และส่ายหน้า สีหน้าที่มีความเหนื่อยล้าเล็กน้อย "ตอนที่ท่านอ๋องหายตัวก็ถูกพิษด้วย แม้ว่างบัวหิมะปุยจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ยาขับพิษก็มีค่ามากเช่นกัน หากการขับพิษไม่ทันเวลา ท่านอ๋องคงจะต้องหมดสติเช่นนี้ตลอดไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านอ๋องเป็นเช่นไรบ้าง สามารถแก้พิษได้หรือยัง..."
ฮวาอวี้ถงเห็นท่าทีของหยุนชางเช่นนี้ จึงรีบปลอบโยน "ชางเอ๋อร์ อย่าเศร้าไปเลย รุ่ยอ๋องจะต้องไม่เป็นไร ข้าผิดเอง พูดถึงเรื่องนี้ทำไมกัน ชางเอ๋อร์เจ้าตำหนิข้าเถอะ"
หยุนชางหัวเราะ "ข้าจะตำหนิเจ้าไปเพื่ออะไร ดุเจ้าไปท่านอ๋องก็ใช่ว่าจะกลับมา ช่วงนี้เจ้าได้กลับไปที่จวนกั๋วกงเยี่ยมกั๋งกงฮูหยินบ้างหรือไม่"
ฮวาอวี้ถงพยักหน้า "ข้ากลับไปเมื่อสี่หรือห้าวันก่อน ประตูจวนปิดแน่น กั๋วกงฮูหยินพูดคุยกับข้าซักพัก แล้วท่านก็ไปพักผ่อน ข้าได้ยินจากสาวใช้ว่า ท่านดูแลนายท่านกั๋วกงตอนกลางคืน จึงก็ไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่"
"กั๋วกงฮูหยินก็ไม่ง่ายเลย ถ้าว่างๆก็กลับไปเยี่ยมเยียนพูดคุยกับท่านกันเถอะ" หยุนชางพูดเบาๆ
ฮวาอวี้ถงตอบรับ และทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ฮวาอวี้ถงจึงลุกขึ้นออกจากจวนรุ่ยอ๋อง
หยุนชางง่วงเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงขึ้นไปชั้นบน เดินไปที่ห้อง แล้วนอนบนเบาะ เงยหน้าขึ้นและถามเฉี่ยนหลิ่วที่อยู่ข้างหลังนางว่า "ในความคิดของเจ้า พระชายาอ๋องเจ็ดกำลังพูดความจริงอยู่หรือไม่?"
เฉี่ยนหลิ่วก้มศีรษะลง เงียบไปครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว กล่าวว่า "หม่อมฉันรู้สึกว่า พระชายาอ๋องเจ็ดกำลังโกหก"
"โอ้ เจ้าเห็นจากจุดไหน" หยุนชางหลับตาลง แล้วถามอย่างเฉยเมย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...