ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 748

เสิ่นซู่เฟยถอนหายใจเบาๆ แล้วยิ้มอย่างขมขื่น "อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ไร้ประโยชน์จริงๆ แม้ว่าฮองเฮาจะเกลียดข้า แต่พระนางไม่เคยปล่อยท่านอ๋องเจ็ดไป ดังนั้นฝ่าบาทจึงให้ข้าแสร้งทำเป็นตั้งครรภ์อีกครั้ง และทรงสั่งทหารมากมายมาคอยปกป้องข้า และทรงเลื่อนยศให้ข้าเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ ฮองเฮาจึงทรงเริ่มสนพระทัยมาที่ข้า คิดหาวิธีมาทำร้ายข้า แต่ฝ่าพระบาทก็ทรงขัดขวาง หลังจากที่ข้าตั้งครรภ์ในครบสิบเดือน ข้าก็ผ่านมันไปอย่างปลอดภัย ฝ่าบาททรงนำเด็กคนหนึ่งมาให้ข้าเลี้ยงดู และนั่นก็คือฉีอ๋อง"

เสิ่นซู่เฟยตรัสเบาๆ "ว่าไปแล้ว ข้าไม่เคย รู้เลยว่าแม่ที่แท้จริงของฉีอ๋องเป็นใคร เพียงว่าเด็กคนนั้นถูกเลี้ยงดูจากข้ามาหลายปีแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็มีความรู้สึกผูกพันกัน ข้าก็หวังเพียงแค่ว่า หลังจากฝ่าบาทไม่ต้องการเขาแล้ว ก็สามารถออกจากวังโดยความภาคภูมิ มีชีวิตที่ดีในอนาคต"

หยุนชางฟังเงียบๆ ครุ่นคิดอยู่นาน ยิ้มและกล่าวว่า "ต้องเป็นเช่นนั้นเพคะ หม่อมฉันได้ยินว่าฉีอ๋องฉลาดและรอบรู้ เป็นที่รักของฝ่าบาท อย่างที่ซู่เฟยตรัส นี่ก็หลายปีมาแล้ว ควรจะมีความรู้สึกผูกพันเพคะ"

เสิ่นซู่เฟย ได้ยินหยุนชางพูด นางก็เผยรอยยิ้มที่มุมปาก "ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เขาสามารถออกไปได้โดยไม่มีข้อกังขายิ่งดี ข้าอยู่ในวังหลังนี้มาหลายปี อยากจะออกก็ออกไม่ได้แล้ว"

หยุนชางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นซู่เฟย หลังจากนั้นที่พูดเกริ่นนำมาตั้งนาน แม้แต่ความลับของชีวิตฉีอ๋องก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว และในที่สุด ก็เข้าสู่หัวข้อสำคัญ

เป็นเช่นนั้นจริง ได้ยินเสิ่นซู่เฟยพูดเบาๆว่า "ข้ารู้สึกว่า ไม่มีนางสนมในวังอีกแล้ว เฉกเช่นข้า ผู้ที่รู้ความลับมากมายของฝ่าบาท หากเป็นไปได้ ข้าก็เต็มใจที่จะเปิดเผยความลับเหล่านี้ แลกเปลี่ยนความรุ่งโรจน์ตลอดชีวิต"

มือของหยุนชางที่ถือถ้วยน้ำชาก็เอียงจนเกือบจะทำชาในถ้วยหดออกมา หยุนชางกลับมารู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่สั่นไหว นางก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้น หลังจากนั้น จิบชา นางซ่อนความประหลาดใจในดวงตาของนางด้วยถ้วยน้ำชา

เมื่อหยุนชางดื่มชาเสร็จและวางถ้วยน้ำชาลง สีหน้าของนางก็สงบลงแล้ว

"ซู่เฟยตรัสเกินจริงแล้วเพคะ ตอนนี้ฮองเฮาถูกกักบริเวณที่ตำหนักเว่ยยาง และเซียงเฟยก็เกิดเรื่อง ในวังหลังนี้ ตอนนี้มีเพียงเหนียงเหนียงเท่านั้นที่เป็นที่เคารพ รุ่งโรจน์ อยู่ในมือของฮองเฮาแล้วเพคะ" หยุนชางยิ้มเบาๆ ดวงตาของนางจ้องไปที่ถ้วยชา มองดูดอกท้อสีชมพูที่วาดบนถ้วยเครื่องเคลือบลายคราม แต่ความคิดของนางพลิกกลับอย่างรวดเร็ว

เสิ่นซู่เฟยอยู่ในวังหลังนี้มานานแล้ว และนางก็เข้าใจดีว่า ถ้าสตรีในวังหลังไม่มีโอรสธิดาให้พึ่งพา แม้ว่าพวกนางจะมีเกียรติก็ตาม หลังจากฝ่าบาทสวรรคตแล้ว อย่ากล่าวถึงความรุ่งโรจน์ แม้แต่ชีวิตจะสามารถดำรงอยู่ได้หรือไม่นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด

แม้ว่าฉีอ๋องเป็นเพียงองค์ชายตัวปลอม ตราบใดที่เซี่ยหวนอวี่ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นโอรสปลอม ฉีอ๋องยังคงเป็นที่พึ่งพาของเสิ่นซู่เฟยได้ แต่ตอนนี้เพราะเรื่องขององค์หญิงใหญ่ ตัวตนของเสิ่นซู่เฟยถูกเปิดเผย และเกรงว่าฉีอ๋องจะถูกเซี่ยหวนอวี่มองเป็นลูกที่ไร้ค่า และทอดทิ้งโดยไม่ลังเล

ฉีอ๋องพึ่งพาไม่ได้ เกรงว่าเสิ่นซู่เฟยมองเห็นได้ชัดเจน นางอยู่ในเงื้อมมือของเซี่ยหวนอวี่ เป็นเพียงหมากที่สามารถถูกทิ้งได้ทุกเมื่อ นางทำได้เพียงหาที่พึ่งพา ที่สามารถให้ความรุ่งโรจน์แก่นาง

ท่านอ๋องเจ็ดเป็นไปไม่ได้แน่นอน ข่าวว่านางเป็นองครักษ์ลับคงจะส่งไปถึงหูท่านอ๋องเจ็ดในไม่ช้า ก่อนหน้านี้นางแกล้งทำเป็นอยู่ฝ่ายท่านอ๋องเจ็ดและองค์หญิงใหญ่ แต่กลับหักหลังให้กับองค์หญิงใหญ่ ท่านอ๋องเจ็ดต้องไม่เชื่อนางอีกครั้ง

"ฮ่าฮ่า..." เสิ่นซู่เฟยปิดปากและหัวเราะ "ข้าไม่ได้หมายความว่าเจ้าสนใจคุณชายหลิ่ว แต่นั่น เรื่องนี้อาจจะทำให้พระชายารุ่ยเกิดความสนใจได้ ข้าจำได้ว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว นอกเมืองคังหยาง เป็นคุณชายหลิ่วที่เป็นศัตรูของพระชายาใช่หรือไม่"

หยุนชางฟังอย่างเงียบๆ ได้ยินเสิ่นซู่เฟยยิ้มและพูดว่า "ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว และคือคุณชายหลิ่วคนนี้ เกือบจะคร่าชีวิตรุ่ยอ๋อง! พระชายารุ่ยเคยสงสัยหรือไม่ว่า หลิ่วหยินเฟิงผู้นี้ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการและเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของหลิ่วซือถูเท่านั้น แต่ทำไมฝ่าบาทถึงทรงใช้งานเขาในตำแหน่งที่สำคัญ?"

หยุนชางเลิกคิ้ว ค่อยๆเกี่ยวมุมปาก นางเคยสงสัยเรื่องนี้จริงๆ แต่นางไม่รู้ว่าจากปากของเสิ่นซู่เฟยนิทานเรื่องนี้จะเล่าออกมาในรูปแบบใด

เสิ่นซู่เฟยหัวเราะออกมา "ทำไมหลิ่วซือถูกถึงกลายเป็นซือถูได้ เกรงว่าพระชายารุ่ยคงจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว เพราะเขามีบุตรสาวที่เหมือนนกฟีนิกซ์บินเกาะบนกิ่งไม้ หลิ่วเฟยเสวี่ย นั่นคือหลิ่วเฟย หนึ่งปีหลังจากที่ฮองเฮาฮวาสิ้นพระชนม์ นางก็เข้ามาในวัง และได้รับความโปรดปราน หลายคนบอกว่าเพียงเพราะหลิ่วเฟยเสวี่ยรูปโฉมค่อนข้างคล้ายกับฮองเฮาฮวา ฝ่าบาททรงยกความรักทั้งหมดที่มีต่อฮองเฮาฮวาไปให้กับหลิ่วเฟย หลิ่วหยินเฟิง ก็เป็นคนที่หลิ่วเฟยแนะนำให้ฝ่าบาทได้ทรงรู้จัก"

เสิ่นซู่เฟยหรี่ตา ราวกับกำลังทบทวนความทรงจำ "ในเวลานั้น หลิ่วหยินเฟิงเป็นที่รู้จักในฐานะเด็กอัจฉริยะ อายุน้อยแค่สิบขวบ แต่การพูดและการกระทำนั้นดีกว่าผู้ใหญ่บางคน ตลอดทั้งยุทธศาตร์ ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ ทั้งหมดก็เชี่ยวชาญ ฝ่าบาททรงได้พบหลิ่วหยินเฟิงครั้งแรกก็ชื่นชมเป็นอย่างมาก และทุกคนรู้สึกว่าหลิ่วหยินเฟิงต้องมีอนาคตที่สวยงามราวกับผ้าไหมทอดิ้น และก็เป็นจริงเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นการว่าราชกิจในตำหนักไท่จี๋ หรือการหารือต่างๆในตำหนักหารือ แม้จะเข้าออกวังหลัง ก็ทรงพาหลิ่วหยินเฟิงไว้เคียงข้าง"

"ทุกคนทราบดีว่าหลิ่วหยินเฟิงยังเด็ก และไม่เข้าใจความรัก ดังนั้น แม้ว่าหลิ่วหยินเฟิง จะเป็นญาติฝั่งนางสนม การเข้าออกวังหลังในทุกๆวัน ทุกคนก็คุ้นชินไปแล้ว จนกระทั่ง..."

แววตาของเสิ่นซู่เฟยลึกลง และเสียงของนางก็ดุดันขึ้นเล็กน้อย "จนกระทั่งการสิ้นพระชนม์ของหลิ่วเฟย และทุกคนในวังต่างก็พูดว่า ฝ่าบาททรงบ้าคลั่ง พลั้งมือฆ่าหลิ่วเฟย อีกทั้งทุกคนต่างก็พูดอย่างจริงจัง ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นกับตาของพวกเขาเอง"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง