สามวันนี้ผมเหนื่อยมาก...แต่เหนื่อยกว่าผมก็คือเจแปน ที่ต้องเดินเอามือมาให้ผมดมเรื่อยๆในห้องนักบิน ฟังไม่ผิดหรอก!เราบินด้วยกัน ผมหาแลกไฟลท์บินกับเจแปนจนได้ ซึ่งไฟลท์แรกของการขึ้น BC ของเธอก็คือ...เวียนนา,ประเทศออสเตรีย
สิบกว่าชั่วโมงที่บินไป และสองวันที่อยู่นั่นเราเจออากาศหนาวๆติดลบมาอย่างหนักหน่วง จนวันนี้แลนด์ดิ้งกลับ..เจแปนเธอได้หวัดแถมมาด้วย เธอไม่สบายไอและมีน้ำมูก แลนด์เสร็จผมต้องรีบพาเธอกลับมาพักผ่อนที่คอนโด
แต่ไม่ทันได้แตะคีย์การ์ดเข้าห้องงานก็เข้าผมแล้ว พ่อแม่ผมอยู่ๆก็เดินออกมาจากลิฟต์! แม่เดินดุ่มๆมือหนึ่งข้างหิ้วกระเป๋าส่วนอีกข้างดึงแขนพ่อ ท่านกำลังตรงมาที่เราสองคน ก่อนจะหยุดจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
"ต้นไม้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เจแปนยิ้มแล้วยกมือไหว้พ่อแม่ผม จนผมหันไปเห็นว่าหน้าเธอเริ่มซีด..จึงรีบแตะคีย์การ์ดเปิดประตูให้ก่อน
"แปปนะครับ เจแปนต้องนอน-_-"
แต่แม่ไม่ฟังผมเลย ทันทีที่ผมเปิดประตูให้เจแปนเข้าไป แม่ก็รีบแทรกผม!!..และดึงพ่อเข้าตาม เจแปนเธอคงคิดว่ามันน่าเกลียดมากถ้าหากตรงเข้าห้องนอน เธอจึงเดินอ้อยอิ่งไปนั่งที่โซฟา..แล้วเอาหมอนมากอดแทน
ส่วนผมรีบลากกระเป๋าเก็บเซ็งๆและปิดประตูห้อง แต่แปลกชิบ!.. ไม่ว่าผมจะทำอะไร แม่กับพ่อผมมองตา หลังไม่ละสายตา
"มีอะไรครับ มาถึงนี่" พอผมทิ้งตัวนั่งข้างๆเจแปนผมก็หันไปถามพ่อกับแม่ทันที ก่อนที่จะดึงคนข้างๆเอนมานอนหนุนตัก เพราะดูท่าจะไม่ไหวแล้ว
"ยังจะถามว่ามีอะไร? ไม่คิดจะบอกพ่อกับแม่เหรอต้นไม้" พ่อผมถามและมองเจแปนไปด้วย จนผมต้องนั่งคิดว่ามันเรื่องอะไรวะ!!? มาถึงก็เกิดเรื่องเลย คือผมเหนื่อยจนเบลอไปหมดแล้ว
และเมื่อผมเงียบไป..แม่ก็พูดขึ้นมาอีก
"เจแปนท้องใช่ไหม?" เชี่ย!เออว่ะ! ผมลืมบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้เลย ให้ตายสิวะ..พ่อแม่ผมรู้ได้ไง!? พอเจแปนได้ยินแบบนั้น..เธอก็หยัดตัวลุกขึ้นนั่งจ้องผมอีกคน
"กัปตันลืมบอกคุณพ่อคุณแม่เหรอคะ?" เธอถามผมเสียงแหบ ป่วยแบบนี้..ไอ้ตัวเล็กจะเป็นยังไงบ้างวะ? ห่วงเมียกับลูกก็ห่วง ห่วงชีวิตตัวเองก็ห่วง
"อืม ยุ่งๆ พ่อครับแม่ครับ..ขอโทษครับผมลืมบอก ว่าแต่รู้ได้ยังไง?" แม่ผมถอนหายใจทันที
"เฮ้อ..ก็ใบไม้บอก รายนั้นก็ท้องด้วยนะ! รู้ไหมว่าพ่อกับแม่จะเป็นลม ถึงขึ้นโทรหาต้นกล้าอีกคน!..ว่าไปทำใครท้องอีกรึป่าว?"
เวรแล้วไอ้กล้ามึงโดนเพ่งเล็งซะงั้น
"แล้วไอ้กล้าว่าไงครับ?-_-" ผมถามต่อเรียบๆ จนพ่อเงยหน้าขึ้นมาตอบทันที
"9 เดือนใกล้คลอด"
"ห้ะ!!?" แม่ง! ผมเกือบช็อค ทั้งอุทานทั้งเบิกตากว้างมองพ่อตัวเอง ที่ตอบกลับมาเรียบๆสีหน้าจริงจัง จนพ่อผมท่านค่อยๆเผยยิ้มออกมาทีละนิด ทีละนิด...และจบที่ขำลั่นชี้หน้าผม!
"อ่ะ ล้อเล่น ฮ่าๆ^^" ผมถอนหายเฮ้ออออ เฮือกใหญ่ แล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา อยากด่าพ่อตัวเองนะ..แต่ก็กลัวบาป เล่นอะไรไม่รู้เรื่องจริงๆ..-_-
"คุณพ่ออารมณ์ดีจังเลยค่ะ ทำไมกัปตันไม่อารมณ์แบบนี้บ้างคะ^^?"
"ถ้าอารมณ์ดีเกินไปไม่มีใครเชื่อถือ-_-" พ่อหัวเราะผมทันทีที่ผมเหน็บแนม ท่านเอาแต่หัวเราะเป็นหน้าเป็นหลัง..จนแม่หันไปขมวดคิ้วใส่ถึงหยุด
"พอๆ เจแปนจ้ะ ว่าแต่..ญาติผู้ใหญ่นอกจากหมอฮาวายแล้วมีใครอีกไหม? แม่จะไปสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราวจ้ะ^^"
เจแปนเงียบไปสักพัก เธอมองหน้าผมแวบนึงก่อนจะมองไปที่พ่อแม่ผมอีก จะลังเลอะไรอีกเหรอวะ..เป็นเมียผม..สบายทั้งกายสบายทั้งใจ
"แต่งงานเลยเหรอคะ? ที่จริง..ไม่ต้องสู่ขอก็ได้นะคะคุณแม่ อยู่แบบนี้ก็ได้ค่ะ^^"
"ไม่ได้นะเจแปน! เธอเป็นผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย พ่อแม่ฉันไปสู่ขอน่ะถูกแล้ว สู่ขอกับพี่ชายเธอก็ได้ จากนั้นก็จัดงานแต่งให้มันใหญ่ๆ คนจะได้รู้ว่าเธอมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว!-_-"
แล้วเสียงจิ๊ปากก็ดังขึ้น..ตามด้วยฝ่ามือ ที่แม่ผมฟาดลงแขนดัง เพียะ!
"ต้นไม้! อยากได้เขาเป็นเมีย แต่พูดจาไม่น่าฟังเลยนะเรา-_-!" ผมลูบแขน..และเบี่ยงหลบแม่ ที่จะหยิกผมอีกครั้ง
ยาชนิดไหนที่กินได้หรือไม่ได้ผมไม่รู้เลย ได้แต่ต้มข้าวต้มง่ายๆและหาพวกผักผลไม้ที่มีวิตามินซีเตรียมไว้ให้เธอ
ไอ้ข้าวต้ม แม่ง..มันเป็นข้าวต้มที่ผมวิ่งไปอ้วกไม่รู้กี่รอบ..รสชาติอย่าหวังเหอะ ผมใส่ทุกอย่างเดาๆรีบๆเพราะผมเหม็นมาก! เหม็นบรรลัย!..เหม็นขึ้นตาขึ้นจมูก ไม่อ้วกลงหม้อก็ดีแค่ไหนแล้ว!
ครืนนน ครืนนน ครืนนน ครืนนน
ผมวางทัพพีลง..แล้วมองหาตามเสียง จนสักพักหันไปเห็นกระเป๋าหนังสะพายสีดำของเจแปนที่โซฟา และมันก็น่าจะเป็นที่มาของเสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ผมได้ยิน
ผมจึงรีบเดินไปเปิดกระเป๋าเธอดู..ซึ่งแม่ง กว่าจะเปิดได้ยุ่งยากชิบหาย บีบยังไงวะ? ผมพยายามบีบที่ล็อคสองข้างพร้อมกันจนมันดัง ปึก! ซึ่งกว่าจะได้หยิบโทรศัพท์ออกมาดู ผมก็เห็นสายที่ไม่ได้รับห้าสายแล้ว...ใครโทรมาบ้างวะ?!
เจ๊แพท?! กับสายการบิน?!
ครืนนนนนน ครืนนนน ครืนนนน (P'Nadear) ไม่นานโทรศัพท์เจแปนก็สั่นขึ้นอีก แต่สายนี้เป็นของ.. เจ๊นาเดียร์ ?!
"ไงเจ๊ เจแปนหลับ..."
(เดี๋ยวนะ! กัปตันต้นไม้เหรอ? คือ...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเจแปนคะ ทำไมสายการบินเรียกพบ?!)
ผมดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันที และมองไปที่ประตูห้องนอนแวบนึง ก่อนจะตัดสินใจเดินดุ่มๆไปที่ระเบียงห้อง และเมื่อผมเลื่อนประตูกระจกปิดสนิทปุ๊บ ผมก็รีบทวนถามคนปลายสายอย่างร้อนใจ
"เรียกพบยังไง? เรื่องอะไรเจ๊นาเดียร์?"
(ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร? นี่เจแปนไม่อ่านไลน์กลุ่มเหรอคะ? ในกลุ่มแอร์รูทต่างประเทศน่ะค่ะ เห็นกวางไลน์ทิ้งไว้..ว่าสายการบินเรียกพบ พร้อมสติกเกอร์รูปหัวใจ..มันเรื่องดีใช่ไหมกัปตัน?)
"เจ๊นาเดียร์ ตบผู้หญิงแอร์ชื่อกวางให้ผม...ผมให้แสนนึง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน