"กินข้าวหน่อยนะ..จะได้กินยา-_-" ไคล์มองหน้าฉันแล้วเบือนหน้าหนี ตอนนี้เหมือนมีลูกจริงๆข้าวก็กินยาก ยาก็กินยาก ฉันเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องนั่งประเคนทุกอย่างให้เขา ซึ่งเขาก็ไม่มีทีท่าจะแตะมัน..ตอนก้านแก้วเข้ามาเยี่ยมไคล์เขาก็คุยกับมันปกตินะ แต่กับฉันตึงใส่มากๆ ไม่รู้เป็นบ้าอะไร
"ทำไมไม่กลับไปนอนคอนโด เฝ้าผมทำไม"
"ก็ห่วงไง..กินข้าวบ้างสิ จะได้กินยา"
"ป้าไปนั่งเถอะ เดี๋ยวผมกินเอง" ฉันกลอกตาให้กับคนเอาใจยากแล้ววางช้อนลง ก่อนจะเดินไปนั่งกอดอกเอาขาไขว้ห้างมองเขา
"เป็นอะไรไคล์..โกรธอะไร?"
"ถามคนโกรธ ด้วยน้ำเสียงแบบนี้เหรอ?" ไคล์ถามกลับแต่ตามองถ้วยข้าวต้มตรงหน้าไม่มองฉัน ให้ตายง้องแง้ง ทำตัวเป็นเด็กอมมือไปได้
"โกรธเรื่องงานแต่งเจ๊ปลายฟ้าใช่ไหม..?-_-"
"อืม.." ฉันถอนหายใจทันที เออ..ก็ผิดเองที่เล่นแรงไป แต่ก็ไม่ได้มีผู้ชายคนไหนเล่นด้วยสักหน่อย ถ้าอยากรักษาผัวไว้..คือกูต้องขอโทษใช่ไหม?
"ไคล์..ขอโทษ รักไคล์นะ..ป่วยอยู่ไม่งอนกันดิ อยากดูแลอ่ะ-///-"
ไคล์เหลือบมองฉันแล้วค่อยๆเผยยิ้มออกมา สีหน้ามู่ทู่ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานๆ...จนฉันดึงสติและอารมณ์กลับมาไม่ทัน
"น่ารักจัง หายป่วยเมื่อไหร่ผมจะฟัดจะหอมให้แก้มแตกเลย^^" ฉันยิ้มตามเขาแห้งๆ ถึงจะหมั่นไส้อิความตอแหลแกล้งงอนของเขาอยู่ก็ตาม ก่อนฉันจะนั่งมองไคล์กินข้าวและคุยกับเขาไปสักพัก ก็มีคนเคาะประตู ก้อก ก้อก ก้อก สามครั้งและเปิดพรวดเข้ามา
อิไม้?? มันไปใช้แรงงานที่ไหนมาเนี่ย เหงื่อซกเชียว
"เจ๊ๆ..ไปหาเจแปนที่ห้องฉุกเฉินหน่อยดิ ยัยนั่นมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
"อ้าว ทำไมเจแปนไม่มากับแก ยัยนั่นเป็นอะไร?" แล้วอิไม้ก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟัง มันเล่าไปหอบแฮกๆไป เหงื่อตามขมับก็ไหล.. จนฉันพยายามฟังและจับใจความลวกๆ ก็คือ..อีกวางโดนเล่นงาน ตอนนี้กำลังอยู่ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนี้
"งั้นฝากไคล์ด้วย" พออิไม้เล่าจบฉันก็หยิบโทรศัพท์เดินออกจากห้องทันที ก่อนที่จะกดลิฟต์และตรงไปที่ห้องฉุกเฉินที่อยู่ไกลประมาณสองช่วงตึก
เมื่อมาถึงก็เห็นเจแปนนั่งรออยู่ข้างนอก เธอเอาแต่ปาดเหงื่อที่ซึมตามขมับและมองประตูห้องฉุกเฉินไปด้วย
"มันยังไม่ตายเหรอ?" ฉันถามแล้วหย่นก้นนั่งข้างๆเจแปน จนเธอหันขวับมาส่ายหน้าตอบ
"ไม่ค่ะๆ โดนพริกโดนตบ..เขียวเป็นจ้ำๆน่าจะช้ำเอาเรื่อง ตอนเข้าไปในห้องฉุกเฉิน..ก็เอาแต่ร้องไห้คิดถึงลูก อยากเจอลูก เฮ้อ..เวรกรรมจริงๆ"
"อ้าว ก็มันทิ้งลูกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?-_-" ฉันถามกลับแล้วมองไปที่ประตูห้องฉุกเฉินแวบนึง
"ค่ะ..สงสัยคิดได้แล้ว ตอนนั้นกวางขอโทษเจแปนด้วยนะคะ ไม่อยากจะเชื่อ" ฉันกอดอกส่ายหน้าเบาๆ รู้สึกเอือมกับเรื่องผู้หญิงคนนี้มาก ไม่รู้เมื่อไหร่หล่อนจะไปผุดไปเกิดหรือคิดได้สักที ขอให้ครั้งนี้มันเป็นบทเรียนจริงๆเถอะ
"ขอให้มันขอโทษจากใจจริงๆ ไม่ใช่ตอแหล-_-"
กวางปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะหยุดมองมือที่มีรอยเขียวช้ำและสะอื้นหนักกว่าเดิมอีก
"ฮึกๆ ฮือๆฉันใฝ่ต่ำเอง...ที่เป็นแบบนี้เพราะฉันใฝ่ต่ำมาก ฉันได้ทำงานเป็นนางฟ้าบนเครื่องแต่งตัวสวยๆ แต่ฉันก็ลดคุณค่าตัวเองจนไม่เหลืออะไรเลย ฮือๆ"
เจแปนถอนหายใจแล้วนั่งลง เธอมองสำรวจร่างกายที่ช้ำและมีแผลของยัยนั่นอยู่สักพัก ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
"เสียดายผิวเธอนะ ไม่น่ามีรอยแผลอะไรแบบนี้เลย..แต่เอาจริงๆแผลภายนอกเธอพอรักษาได้ แต่ฉันอยากรู้จริงๆกวาง..ว่าแผลในใจเธอมันจะรักษาหายไหม? เธอเหนื่อยรึยัง?ที่ทำตัวแบบนี้ จนได้รอยแผลมาขนาดนี้ เห็นสภาพเธอแล้ว..ฉันอดห่วงความรู้สึกลูกเธอไม่ได้ เขาเหมือนนกที่ปีกยังไม่แข็ง..แต่แม่ดันทิ้งไว้ในรัง จากที่เคยออกไปหาอาหารมาป้อนทุกๆวันและกลับมากอดอุ่นๆ ทุกวันนี้ไม่มี....
ตอนนี้คนน้ำตาไหลคือเจแปน เสียงที่อ่อนลงและสั่นเครือทำฉันรู้สึกได้ถึงอะไรแปลกๆ ฉันจึงตัดสินใจนั่งลงข้างๆและตบไหล่ที่เริ่มสั่นนั้นเบาๆ สงสัยน้องสะใภ้ฉัน..เธอคิดถึงแม่ตัวเองอยู่
"เจแปนไม่ต้องร้อง ถึงแม่จะไม่อยู่..เธอก็เก่งมากที่โตมาและประสบความสำเร็จขนาดนี้" กวางเงยหน้าขึ้น..มองหน้าเจแปนทันที ก่อนที่น้ำตายัยนั่นจะไหลพรากออกมาแข่งกับเธอเป็นสาย..
"ฮึกๆ เธอไม่มีแม่เหมือนกันเหรอเจแปน? ฮือๆ ฉะ..ฉันก็ไม่มีแม่ แต่ทำไมชีวิตฉันถึงได้แย่กว่าเธอ ฮือๆฉันท้องจนต้องดรอปเรียน กว่าจะได้เป็นแอร์ก็ต้องประจบประแจงคนในเสียไปไม่รู้เท่าไหร่ ฮือๆ "
เจแปนเงียบไม่ตอบ..เธอคงไม่ได้ฟังกวางพูดเมื่อกี้ เพราะตั้งแต่เธอพูดเรื่องแม่เรื่องครอบครัว..เธอก็ซึมและเหม่อไปเลย
ฉันจึงตัดสินใจ..หันไปคุยกับคนสะอื้นไห้บนรถเข็นแทน คุยแบบคนไม่มีอะไรโกรธแค้น คุยเหมือนคนไม่มีอะไรในใจ เพราะเรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟมาก..ฉันเคยเกือบเสียหลักเป็นคนเก็บตัวเพราะเรื่องนี้มาแล้ว
"มันอยู่ที่เธอเลือกเดินมากกว่ากวาง ถ้าเธอคิดได้และตั้งใจทำให้ชีวิตตัวเองดี..มันก็จะดีแบบเจแปน แต่ถ้าเธอคิดว่าเธอขาดความรัก ความอบอุ่น..และขาดคนซัพพอร์ต รอแต่คนยื่นมือมาช่วย..เธอก็ไม่มีวันเข้มแข็ง สุดท้าย...มันก็จะเป็นเหมือนทุกวันนี้แหละ ฉันว่าเธอเลือกทะเยอทะยานผิดทางมากกว่า ทำไมเหรอ?..ไม่มีพ่อแม่แล้วเธอใช้ชีวิตดีๆไม่ได้เหรอ? มันดีได้นะเว้ยอยู่ที่เธอเลือกเดิน คนอื่นที่ไม่มีพ่อแม่..เขาประสบความสำเร็จเยอะแยะ! -_-"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน