หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 142

"ซูยุ่น เป็นอะไรไป?"

ฉันส่ายหน้า หลี่จื้อมองมาที่ฉันราวกับอยากจะพูดอะไร จากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ลู่จือสิงก็ได้เดินผ่านไป ท้ายที่สุดเขาก็พยักหน้าให้กับฉัน "คุณซู"

ฉันพยักหน้าและยืนอยู่เช่นนั้น ทันใดนั้นฉันรู้สึกเหมือนขาของฉันชาไปทั่ว

"ซูยุ่น เธอรู้จักผู้ชายคนเมื่อกี้เหรอ? เขาใช่ลู่จือสิงหรือเปล่า?"

คำพูดของหลี่เจียนีทำให้สติของฉันกลับมา ฉันกระชับมือและบีบฝ่ามือของตัวเองและส่ายหน้า "ไม่รู้จัก พวกเราไปกันเถอะ"

"แล้วเมื่อกี้เลขาของเขาเรียกเธอนี่?"

ฉันไม่อยากจะกล่าวอะไรไปมากกว่านี้ จึงตอบเธอแบบไม่ได้ใส่ใจอะไร "อาจจะทักคนผิดก็ได้" ฉันเห็นเธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง ฉันจึงขมวดคิ้ว แสร้งทำเป็นเจ็บปวด"เจียนี ฉันปวดมือ พวกเรารีบกลับกันเถอะ"

แน่นอนว่าทันทีที่ฉันพูด เจียนีก็ลืมเรื่องเมื่อครู่ไปทันที "อ๊ะ เธอปวดมือเหรอ? ทำไงดี หมอบอกว่าเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว ช่วงนี้จะปวดมาก เธออดทนไว้นะ พวกเรารีบกลับโรงแรมกันเถอะ เธอกลับไปพักผ่อน เรื่องโครงการเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง"

บอกตามตรงว่าฉันไม่รู้สึกวางใจกับหลี่เจียนีมากนัก เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นตั้งแง่ไว้กับหลี่ลี่ชิงแล้ว แต่ฉันนั้นเจ็บมากจริงๆ รอยแผลน้ำร้อนลวกนั้นค่อนข้างรุนแรง ฉันใช้ยาแล้ว แต่ฉันก็ยังรู้สึกแสบร้อนอยู่

"ซูยุ่น เจียนี!"

ฉันและหลี่เจียนีเดินออกจากลิฟต์ก็เห็นหลินเจี้ยนเฟิง

เมื่อนึกถึงหลี่ลี่ชิง รอยยิ้มบนใบหน้าของฉันก็จางหายไปเล็กน้อย "ผู้จัดการหลิน"

"ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

"ไม่----"

"จะไม่เป็นอะไรได้อย่างไร ผู้จัดการหลิน คำพูดคุณก็แปลกประหลาด เมื่อกี้คุณก็เห็นว่ากาน้ำร้อนขนาดนั้นถูกสาดเข้ามา ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? คุณคิดว่าซูยุ่นเป็นรูปปั้นที่ไม่มีความรู้สึกหรือยังไง?"

หลี่เจียนีนั้นทำเพื่อฉัน ฉันจึงไม่กล่าวอะไรและยืนอยู่เช่นนั้น

หลินเจี้ยนเฟิงจ้องมองฉัน สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ซูยุ่น เรื่องนี้ฉันจะจัดการให้คุณ"

จัดการ?

ฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้ "ไม่ต้องหรอก พวกเรามาที่นี่เพื่อทำงาน หวังว่าผู้จัดการหลินจะสามารถแจ้งสมาชิกในกลุ่มของคุณให้เข้าใจในเรื่องนี้ มือของฉันยังคงมีอาการเจ็บอยู่ ในช่วงนี้เรื่องของโครงการก็คงให้เจียนีจัดการ จนกว่าคุณจะสรุปแผนเบื้องต้นกัน ฉันจึงจะเข้าไปร่วมโครงการ"

"ซูยุ่น ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ฉันไม่สามารถจัดคนของฉันได้"

ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้าฉันไม่เคยสงสัยท่าทีของหลินเจี้ยนเฟิงมาก่อนนั้น ตอนนี้ฉันต้องมองเขาและคิดใหม่อีกครั้ง

พูดตามตรง ท่าทีของหลินเจี้ยนเฟิงที่มีต่อฉันนั้นเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนปกติ แต่ในคำพูดของเขาตอนนี้นั้น ฉันรู้สึกปวดหัว "เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้จะเอาเรื่องอะไร ถ้าหากไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปพักผ่อน"

เขาอ้าปากราวกับว่าอยากจะบอกว่าให้หยุดก่อน แต่กลับถูกหลี่เจียนีคว้าเอาไว้

ด้านนอกไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองนั้นพูดคุอะไรกัน เสียงนั้นไม่ได้ดังมากนักแต่ฉันเองก็ได้ยินไม่ค่อยชัดเจน

ตอนนี้ในสมองของฉันนั้นมีเรื่องวุ่นวาย นึกถึงสายตาของลู่จือสิงที่จ้องมองฉันเมื่อครู่นี้

ไม่สิ นั่นอาจจะไม่ได้มองฉัน

ในความจริงเขาอาจเพียงแค่เหลือบมอง เหมือนกับว่าจ้องมองผู้คนที่เดินไปเดินมาบนทางเดินและจ้องมองแค่เพียงเท่านั้น

แค่เพียงแวบเดียว และสายตาของเขาก็ไม่ได้หยุดลง เขาเดินตรงมาทางฉันและเดินผ่านฉันไปราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันเลยเสียด้วยซ้ำ

ฉันคิดว่าฉันควรจะมีความสุข แต่ฉันไม่สามารถมีความสุขได้

ต่อไปคือการอภิปรายอย่างละเอียดซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และส่วนใหญ่เราได้รวมแผนใหญ่ไว้เป็นแผนเดียวแล้ว ในรายละเอียด เมืองทั้งสองเมือง พวกเราสามารถจัดการในส่วนของตัวเองได้โดยไม่ต้องก้าวก่ายกัน

หลินเจี้ยนเฟิงและหลี่เจียนีนั้นได้เล่าคร่าวๆเกี่ยวกับข้อสรุปในช่วงเช้าให้ฉันฟัง ฉันเองก็โล่งใจ "ก็หมายความว่า ฉันและเจียนีในวันมะรืนนี้ก็สามารถกลับได้แล้ว"

ไม่รู้ว่าทำไมหลินเจี้ยนเฟิงมองมาที่ฉันอยู่ชั่วครู่จากนั้นเขาพยักหน้าในที่สุด "พรุ่งนี้เราสามารถสรุปแผนโครงการได้อย่างสมบูรณ์ คุณและเจียนีสามารถจองตั๋วเครื่องได้ในวันพรุ่งนี้"

เขาพูดและนิ่งไป "แต่พรุ่งนี้คือวันเสาร์ ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไร ก็ยังสามารถอยู่ได้อีกวัน ฉันจะพาพวกคุณไปเดินเล่นเมืองA และช็อปปิ้งสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่กลับไป"

ฉันยิ้มและอยากจะส่ายหน้า แต่ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าหลี่เจียนีไม่เคยมาเมืองA ฉันจึงกลืนในสิ่งที่อยากจะกล่าวกลับลงไปในลำคอ "เจียนี เธอว่าอย่างไร?"

หลี่เจียนีเหลือบมองฉัน "ไม่ล่ะ พวกเรากลับกันเร็วหน่อยก็ดี"

ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เพียงเวลาไม่กี่วันก็มีเรื่องราวให้โกรธเคืองมากมาย

"ไม่รบกวนผู้จัดการหลิน วันมะรืนพวกเราก็กลับแล้ว"

หลินเจี้ยนเฟิงยิ้มเล็กน้อย "ก็ได้ มือของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?"

"ก็โอเค หมอบอกว่าต้องใช้เวลาอีกสองสามวันถึงจะเป็นสะเก็ดแผล ในช่วงนี้ก็ไปทำแผลเปลี่ยนยาที่โรงพยาบาล"

หลังจากสรุปโครงการแล้ว เรื่องราวก็จบลง

การทำงานนอกสถานที่ในครั้งนี้ ในที่สุดฉันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

สองวันที่ผ่านมามีเรื่องราวที่แสนวุ่นวาย ความหมายของหลินเจี้ยนเฟิงคือ การทานอาหารมือค่ำร่วมกันนั้นถือเป็นการไถ่โทษ เขากล่าวเช่นนี้ ฉันจึงไม่อาจปฏิเสธได้

ผู้คนต่างจากไป ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด ถ้าหากว่าฉันรู้ว่าจะพบเจอเข้ากับลู่จือสิง ฉันก็คงซื้อตั๋วและกลับไปในคืนนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้