หยาวตันตันถามฉัน แต่ว่าไม่มีทางเลือกให้ฉันเลย เธอดึงฉันเดินออกไปข้างนอก
ฉันคิดว่าเรื่องเมื่อกี้นี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับเธออย่างนี้ แต่ทุกคนพูดไว้ว่า อย่าซ้ำเติมคนผิด
หยาวตันตันเป็นแสดงความดีก่อน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบ ก็ไม่สามารถปฏิเสธโดยไม่ไว้หน้าได้
ในที่สุดฉันก็ไปทานน้ำชายามบ่ายกับหยาวตันตัน เธอไม่ได้พูดเรื่องอะไรที่ทำให้ฉันไม่สบายใจ เหมือนสองสามปีนี้ หยาวตันตันเปลี่ยนไปมากจริงๆ
แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆเล็กน้อย แต่ว่าบอกไม่ถูก ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"ซูยุ่น คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ถันฮ่าวอวี่อยู่ที่ไหน?"
ฉันตกตะลึง หลายปีมาแล้วที่ไม่เคยได้ยินชื่อของคนคนนี้ จู่ๆตอนนี้หยาวตันตันพูดถึงขึ้นมา ฉันอึ้งไปเล็กน้อย แค่รู้สึกได้ว่าเวลาผ่านไปเร็วมากจริงๆ
ฉันส่ายหัว : "ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องทางด้านเมืองAนี้เท่าไหร่นัก"
เธอเบ้ปากเล็กน้อย นี่เหมือนหยาวตันตันที่ฉันเคยรู้จักเมื่อตอนก่อน แต่อย่างรวดเร็ว เธอก็กลับมาเหมือนเดิม ยิ้มแล้วมองฉัน : "ฉันลืมไป หลายปีนี้คุณอยู่ที่เมืองD"
ฉันพยักหน้า ตอบแบบเรียบเฉยว่า : "อืม"
"นี่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณจะไม่รู้ ถันฮ่าวอวี่ทำอยู่ที่หวนอวี่นั่น"
ฉันงงเล็กน้อย หยาวตันตันก็ดูออก ก่อนจะพูดเองว่า : "หวนอวี่เป็นบริษัทที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา คุณไม่รู้จักก็ไม่แปลก มันเหมือนกับกิจการของเฟิงเหิงอย่างมาก ตอนนี้ทั้งสองบริษัทกำลังเร่งหาแหล่งทรัพยากรอยู่"
ฟังถึงตรงนี้ ฉันอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
หนาวตันตันบอกสิ่งเหล่านี้กับฉันก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร คิดๆดูแล้ว ฉันไม่ได้ตอบรับคำพูดเธอ เห็นว่าห้าโมงกว่าแล้ว ก็ไม่อยากพูดคุยกับเธอต่อไปอีกแล้ว
ฉันกำลังเศร้าใจว่าจะปลีกตัวออกไปอย่างไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
ฉันมองดู ลู่จือสิงโทรมา จึงรีบรับสาย : "ฮัลโหล?"
"สอบสัมภาษณ์เสร็จแล้วหรอ?"
"เสร็จแล้ว ทำไมหรอ?"
"ฉันเพิ่งประชุมเสร็จกำลังเตรียมจะกลับบ้าน ให้มารับคุณไหม?"
โชคเข้าข้าง เดิมทีฉันก็ไม่รู้ว่าจะสะบัดออกจากหยาวตันตันได้อย่างไร : "โอเค"
"คุณอยู่ที่ไหน?"
ฉับบอกที่อยู่ให้กับลู่จือสิงไป เขาบอกว่าอีกสิบห้านาทีถึง
วางสายแล้ว หยาวตันตันมองฉัน : "คุณน้าโทรมาหรอ?"
ฉันพยักหน้า : "ใช่ เขาจะมารับฉัน"
ฉันเพิ่งพูดจบ สีหน้าหยวนตันตันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ฉันเห็นเธอหยิบกระเป๋าขึ้นมา ชัดเจนว่าต้องการจะไปแล้ว
อย่างที่คาดไว้ วินาทีต่อมา เธอก็เอ่ยปากว่า : "ฉันนึกขึ้นมาได้ว่าฉันมีนัด งั้นไม่คุยต่อแล้ว วันหลังเราค่อยคุยกัน"
ฉันพยักหน้า มองดูเธอเดินไปอย่างรีบร้อน ก็อดหัวเราะไม่ได้
ไม่ว่าหยาวตันตันจะคิดอะไร ฉันก็ไม่สามารถทำให้เธอสมหวังได้
ดื่มน้ำผลไม้แล้ว ฉันก็เช็คบิลออกไปรอลู่จือสิงที่หน้าประตูห้างสรรพสินค้า
ลู่จือสิงบอกว่าอีกสิบห้านาทีจะมาถึง ไม่ถึงสิบห้านาทีฉันก็เห็นเขาแล้ว
"คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"
ฉันก็ไม่ได้คิดจะปิดบังเขา : "เวลาสอบสัมภาษณ์ฉันบังเอิญเจอหยาวตันตัน เธอช่วยฉันคุยกับเจ้านาย จากนั้นก็ลากฉันมาดื่มน้ำชายามบ่าย ฉันเกรงใจ ก็เลยมา เพีงแต่เมื่อกี้เธอได้ยินฉันบอกว่าคุณจะมารับฉัน เธอเองก็กลับไปก่อนเลย"
ฉันเพิ่งพูดจบ ลู่จือสิงทำเสียงเย็นชา : "ต่อไปก็อย่าใส่ใจเธอ"
ฉันพยักหน้า : "ครั้งนี้เธอถือโอกาสแสดงน้ำใจให้ฉัน ฉันก็ไม่คิดอยากจะสนใจเธอหรอก"
นึกถึงท่าทางที่หยาวตันตันเดินเมื่อกี้ เธออดที่จะประหลาดใจไม่ได้ : "คุณทำอะไร ทำไมเธอถึงกลัวคุณขนาดนี้?"
"ไม่มีอะไร"
เขาตอบฉันอย่างเรียบๆ ชัดเจนว่าไม่อยากบอก
ในเมื่อเขาคิดแบบนี้ ฉันก็ไม่อธิบายแล้ว ตอบไปอย่างนั้น : "อืม"
"ซูยุ่น"
เขาเรียกฉัน ทว่ามือยื่นเข้ามาจากชายเสื้อของฉัน
รู้สึกได้ถึงว่าเขามากขึ้นเรื่อยๆ ฉันจึงรีบหยุดเขา : "คุณอย่ามาก่อกวน เป้ยเปยยังไม่ได้อาบน้ำเข้านอนนะ!"
เค้นถามในประโยคคำพูดของฉัน : "เป้ยเปยอาบน้ำเข้านอนก็ได้แล้วใช่ไหม?"
เขาพูดจบ ไม่รอให้ฉันได้อ้าปากตอบ ก็พูดเองก่อนเลย : "โอเค ตอนนี้ฉันจะพาเป้ยเปยไปอาบน้ำเข้านอน"
ฉันโมโห : ลู่จือสิง!"
เขาก็ไม่สนใจฉัน อุ้มเป้ยเปยขึ้นตะโกนเสียงดังว่า : "เป้ยเปยไป พ่อจะพาคุณไปอาบน้ำ!"
พูดจบ เขายังทำอารมณ์ลึกซึ้งส่งสายตามองฉัน
ถ้าไม่ใช่เพราะเป้ยเปยอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฉันอยากจะขว้างหมอนใส่เขาจริงๆเลย!
เป้ยเปยทะเลาะกับลู่จือสิงในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นหวัด เลยเตือนลู่จือสิง
อาบน้ำครั้งหนึ่ง เป้ยเปยอาบไปเกือบสี่สิบนาที เมื่อออกมาก็สามทุ่มกว่าแล้ว
คาดว่าวุ่นวายอยู่ในห้องน้ำพักหนึ่ง ทว่าเป้ยเปยหลับได้เร็ว
เมื่อฉันอาบน้ำเสร็จออกมา เดินเข้าไปดูเป้ยเปยในห้อง ปรากฏว่าหลับไปแล้ว
พอดีกับลู่จือสิงลุกขึ้นมา เดินมาเห็นฉันก็ยกแขนขึ้นมากอดฉวยโอกาสจูบลงมาตอนที่ฉันไม่ทันได้ก้มหน้า
เขาจูบแรงๆทีนึง "รอฉันนะ แปปเดียว"
พูดจบ เขาก็เดินออกไป เหลือฉันที่ยืนหน้าหูแดงอยู่ตรงนั้นคนเดียว
คืออะไร ทำเหมือนว่าฉันรีบร้อนมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้