เมื่อได้ยินคำพูดของติงหยวน ฉันเองก็นิ่งไป
อันดับแรกที่ฉันนึกถึงก็คือสถานการณ์ของฉันและลู่จือสิงในตอนนี้ ถ้าหากว่าฉันออกไปทำงานต่างจังหวัด ฉันสงบสติอารมณ์และคิดเกี่ยวกับเรื่องของฉันและลู่จือสิงว่าควรจะดำเนินไปอย่างไร
"ครั้งนี้ไปทำงานต่างจังหวัดประมาณกี่วัน?"
ติงหยวนเหลือบมองฉัน สีหน้าเขาค่อนข้างลำบากใจเล็กน้อย "ทางด้านนั้นบอกว่าอย่างน้อยก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ถ้าหากว่าใช้เวลานานกว่านั้นอีกก็อาจจะประมาณสองสัปดาห์"
ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าทำไมหยวนติงถึงให้ฉันเข้ามาคุยเรื่องนี้กับเขาและไม่ได้เพียงแค่บอกว่าให้ฉันไปทำงานต่างจังหวัด
ถึงแม้ว่าจะบอกว่าหนึ่งสัปดาห์หรือว่าครึ่งเดือน แต่โดยปกติแล้ว สถานการณ์นี้อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย10วัน
หากว่าไม่มีเป้ยเปย ฉันจะพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด
แต่เมื่อฉันนึกถึงเป้ยเปย ฉันก็ลังเล
และยังไปต่างจังหวัดถึงสิบวัน เอาตามจริงระยะเวลาก็นานอยู่พอสมควร ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับลู่จือสิงก็ค่อนข้างย่ำแย่ แม้ว่าฉันจะคิดถึงเรื่องนี้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่ภายในใจของฉันก็มีแนวโน้มที่จะแยกจากเขา แต่ฉันไม่อยากจะสร้างปัญหาระหว่างกันจนน่าเกลียด ท้ายที่สุดเขาและฉันไม่ว่าจะยังไงก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าพวกเราเป็นพ่อและแม่ของเป้ยเปยได้
เมื่อเห็นฉันลังเล หยวนติงก็ไม่ได้บีบให้ฉันตอบตกลงในทันที "เอาแบบนี้ คุณกลับไปคิดให้ดี แต่ก็ต้องรีบหน่อย ทางที่ดีคุณก็ให้คำตอบผมภายในวันนี้"
ฉันเม้มริมฝีปากและทำการตัดสินใจ "ฉันรับ"
"แต่ ลูกของคุณ-----"
เขามองฉันด้วยท่าทางตกตะลึงเล็กน้อย
ฉันยิ้ม "ไม่เป็นไร ตอนนี้เป้ยเปยมีคุณป้าคอยช่วยดูและยังมีพ่อของเขาด้วย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยวนติงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ถ้างั้นก็ดี ผมคิดว่าคุณจะตัดสินใจลำบากแล้ว"
ฉันส่ายหน้า "เปล่าเลย"
ถึงแม้ว่าจะลำบากหน่อย ลู่จือสิงคงไม่ให้ฉันไปทำงานต่างตังหวัดแน่ แต่เขาก็หยุดฉันไม่ได้หรอก
หยวนติงบอกถึงเรื่องตั๋วเครื่องบินในวันพุธนี้ ในสองวันนี้ขอให้ฉันทำความเข้าใจเบื้องหลังของโครงการและบริษัท จากนั้นก็ต้องคิดทบทวนด้วยตัวเอง
ฉันไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องรีบร้อนเช่นนั้น ฉันเพิ่งตกลงไปเมื่อครู่ และวันพุธฉันก็ต้องไปแล้ว
เมื่อฉันเห็นแผนงานของอีกฝ่าย ฉันก็ตะลึงเล็กน้อย นี่คือการขับเครื่องบิน ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือนพวกเราก็ต้องเตรียมตัววางแผนงานกันแล้ว
แต่ในเมื่อรับงานมาแล้ว ฉันก็ต้องทำให้ดีที่สุด
ระยะเวลาสองเดือนจะบอกว่ามากก็ไม่มาก แต่จะบอกว่าน้อยก็ไม่น้อย แต่หากว่าอยากได้ผลงานที่ดี ระยะเวลาสองเดือน ทั้งการเตรียมตัวเบื้องต้นและการเตรียมความพร้อมในงานก็ดูจะยากหน่อย
"หยวนติงเรียกเธอไปทำไม?"
เมื่อใกล้จะถึงเวลาทานอาหาร จู่ๆเซี่ยงฉิงก็โผล่มาด้านหลังฉัน
ฉันมองไปที่เธอและพูดคุยเกี่ยวกับโครงการอย่างคร่าวๆ
"พระเจ้า บริษัทนี้เป็นยักษ์ใหญ่!" เธอพูดพร้อมกับยกมือขึ้นและตบฉันเบาๆ "อย่ากลัวไป ซูยุ่น เธอต้องกัดฟัด เมื่อถึงเวลาค่าคอมมิชชั่นของเธออย่างน้อยอาจจะได้เป็นอีกหลัก"
เธอเทียบตัวเลขกับฉันแล้ว ฉันเองก็ตกใจ เหมือนกับว่าฉันทำโครงการนี้ ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น10,000 หยวนซึ่งถือว่าสูง แต่คาดไม่ถึงว่าเซี่ยงฉิงบอกกับฉันว่าอย่างน้อยโครงการนี้ฉันอาจจะได้รับถึง30,000หยวน
นี่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ธรรมดาแล้ว!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนจำนวนมากจ้องมองโครงการนี้ เมื่อได้ยินสิ่งที่เซี่ยงฉิงกล่าว จู่ๆฉันก็รู้สึกกดดันเล็กน้อย เงินนี้คาดว่าไม่ใช่เงินที่ได้ง่ายๆเลย
"ซูยุ่น แล้วเธอต้องไปเมืองFกี่วัน?"
ฉันส่ายหน้า "ฉันเองก็ไม่มั่นใจ หยวนติงบอกว่าประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่ไม่แน่ก็อาจจะถึงครึ่งเดือน"
"แล้วโครงการนี้ให้เวลาเธอเตรียมตัวเท่าไหร่?"
ฉันหามุมที่ค่อนข้างเงียบสงบและได้หยุดเดิน จากนั้นก็เงยหน้ามองเขา "คุณมีธุระอะไร?"
เขาขมวดคิ้ว "คุณต้องไปทำงานต่างจังหวัดเหรอ?"
ฉันนิ่งไปและตกใจเล็กน้อย "คุณรู้ได้ไง?"
เมื่อฉันพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นในทันใด เขายกมือขึ้นและผลักฉัน ร่างกายของฉันก็ชนเข้ากับผนัง
"ซูยุ่น คุณคิดว่าจะเลิกกับผมอยู่แล้วใช่หรือเปล่า?"
ฉันจ้องมองเขาและอยากจะบอกว่าไม่ แต่เมื่อความคิดภายในจิตใจของตัวเองแล้ว ท้ายที่สุดฉันก็ไม่ได้พูดออกไป
ฉันยังไม่ทันคิดเรื่องที่จะเลิกกับเขา แต่ฉันเริ่มมีความคิดที่จะแยกจากกับเขา
ทุกคนก็รู้ว่าระหว่างคนสองคน หากว่ามีใครคนใดคนหนึ่งริเริ่มมีความคิดเช่นนี้ นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัว
เมื่อเห็นฉันไม่พูด จู่ๆเขาก็เอื้อมมือขึ้นและจับคางฉันเอาไว้
ฉันรู้จักเขาดี แต่ฉันไม่คาดคิดว่าเขาจะจูบฉันในสถานที่แบบนี้
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะบอกว่าอยู่ในที่ลับตา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเพื่อนร่วมงานเดินผ่าน
ฉันหันหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากของเขาตกลงมาที่ใบหน้าด้านข้างของฉัน ฉันใช้แรงผลักเขา "คุณปล่อยฉัน คุณมาทำอะไรที่นี่? ที่นี่คือบริษัทของฉัน ลู่จือสิง คุณช่วยคิดพิจารณาและเห็นแก่ฉันหน่อย?"
ฉันยอมรับมามากพอแล้ว เขายังเป็นคนที่ยโยโอหังเช่นเคย
ทำเรื่องอะไรก็ไม่เคยนึกถึงฉัน ทำอะไรก็นึกถึงเพียงแต่ตัวเอง
แต่ทว่าแรงของเขานั้นค่อนข้างเยอะ ฉันจึงผลักเขาไม่พ้น
โชคดีที่เขาไม่ก้มหน้าจูบฉันต่อ เขาเพียงแค่จ้องมองฉัน และกล่าวเน้นทีละคำ "ซูยุ่น คุณไม่เคยคิดที่จะเริ่มต้นใหม่กับผมเลยใช่หรือเปล่า?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้