เซี่ยงฉิงจัดงานเลี้ยงเล็กๆที่บ้านของเธอ ฉันกับลู่จือสิงแล้วก็ถงเจียหลินและแฟนไปด้วย ในตอนกลางคืนจู่ๆเซี่ยงก็บอกว่ามีเรื่องที่ต้องการอยากจะบอกฉัน ต้องการให้ฉันอยู่ต่อ
ในเวลานั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าทั้งสองคนขัดแย้งกัน ให้ลู่จือสิงพาเป้ยเปยกลับบ้านไปนอนก่อน เมื่อถึงเวลาฉันดูว่าจะกลับไปยังไงอีกที
ในที่สุดเซี่ยงฉิงก็ลากฉันไปคุย ตลอดเวลาที่คุยเธอพูดถึงเรื่องราวที่เมื่อก่อนแอบรักฉีซิ่วหราน พูดจนจบ ก็ไม่ได้มีประเด็นสำคัญเลย
ฉันดูเวลา ก็เที่ยงคืนแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ง่วงมาก ให้เธอไปนอนก่อน แต่เธอก็รั้งไม่ให้ฉันไป บอกว่ายังมีอะไรจะพูดอีกเยอะ ฉันกลัวว่าเธอจะหลับไปในขณะที่พูด เลยให้เธอไปอาบน้ำก่อน อย่างไรเสียดมื่อตอนดึกเราทำปิ้งย่างกัน กลิ่นปิ้งย่างก็ติดตัว
ใช้ประโยชน์จากเวลานี้ ฉันก็ไปล้างหน้าบ้วนปาก ฉันใส่ชุดนอนที่เซียงชิงเตรียมไว้ให้
ออกมาปรากฏว่าเซี่ยงฉิงยังอาบไม่เสร็จ ฉันทำได้แค่หยิบโทรศัพท์มาเข้าเว็บweibo
ก็ไม่รู้ว่าเพราะง่วงเหลือเกินแล้วหรือเปล่า ฉันไม่ได้รอเซี่ยงฉิงก็นอนไปก่อนเลย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เซี่ยงฉิงก็ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมา บอกว่ามีเรื่องด่วน ก่อนส่งฉันกลับบ้านกับฉีซิ่วหราน
ฉันรู้สึกว่าเซี่ยงฉิงดูแปลกๆ แต่คิดไม่ออกว่ามีอะไรผิดปกติ
รถอยู่บนถนน สักพัก ฉันรู้สึกว่าเส้นทางผิดแปลกไป อดไม่ได้ที่จะถามฉีซิ่วหราน : "ฉีซิ่วหราน ตอนนี้คุณกำลังจะไปไหน?"
พูดจบ ฉันก้มหน้ามองโทรศัพท์เล็กน้อย นี่เวลาตีห้ากว่า ยังไม่ถึงหกโมง สีท้องฟ้าข้างนอกยังคงมืดอยู่ เธอเรียกฉันตื่นแต่เช้าขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไร
ฉีซิ่วหรานเหลือบมองกระจกมองหลัง : "มาไม่ผิดหรอก"
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย รถเลี้ยวเข้าไปในตึกเล็กๆ เซี่ยงฉิงลงจากรถก่อน : "มาสิ ซูยุ่น"
แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่เคยเก็บอาการอยู่ เวลามองฉันด้วยสีหน้าตื่นเต้น ฉันอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ : "พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่?"
เซี่ยงฉินไม่ได้ตอบฉัน : "คุณมากับฉันก็พอ"
ฉันมองฉีซิ่วหราน อยากจะได้คำตอบจากเจา แต่เขาก็แค่มองฉัน ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
คู่รักคู่ใหม่คู่นี้แปลกจริงๆเลย!
ฉันเห็นว่าพวกเขาไม่บอก ก็แปลกใจเล็กน้อย ก็ตามเซี่ยงฉิงไป
เซี่ยงฉิงกดลิฟท์ชั้นสิบแปด ลิฟต์ขึ้นไปใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที
สภาพหนึ่งชั้นมีสี่ห้อง เซี่ยงฉิงออกจากลิฟท์ พาฉันไปห้องที่สองทางซ้ายมือ
เธอเปิดประตู
จากนั้นฉีซิ่วหรานก็มาดึงฉันไป
เมื่อเห็นการประดับตกแต่งด้านหน่า ฉันก็ตกตะลึง : "นี่——”
ยังไม่ได้มีสติกลับมา ถงเจียหลินก็เข้ามาดึงฉัน : "เร็วมาแต่งหน้า เจ้าสาวต้องแต่งหน้ากว่าสองชั่วโมงเลยนะ!" คำพูดของเธอทำให้ฉันแข็งทื่อ ถูกเธอดึงเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ทันทีที่มองขึ้นไปฉันเห็นลูกโป่งอยู่บนเพดาน บนหัวเตียงยังมีรูปใหญ่เป็นรูปแต่งงานของฉันกับลู่จือสิง
รูปถ่ายเมื่อก่อนนั้น เรายิ้มหวานอยู่ในรูป
ฉันมองไม่กี่วินาที ถงเจียหลินก็กดฉันนั่งลงบนเก้าอี้
"ตกใจหรอ? นี่เป็นเซอร์ไพรส์ของลู่จือสิงให้คุณ เซอร์ไพรส์ใหญ่กว่านี้ ยังมีอีกนะ!"
ในห้องมีฉันเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าลู่จือสิงไปไหน
ฉันลืมตาขึ้นมองห้องตรงหน้า ฉันอาศัยอยู่ห้องนี้มาครึ่งปีแล้ว คุ้นชินเป็นอย่างมาก แต่ว่าตอนนี้ มันถูกปกคลุมไปด้วยของประดับตกแต่งต่างๆโดยลู่จือสิง ห้องกว่าสี่สิบตารางเมตร ดูเหมือนว่าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
ฉันกระพริบๆตา น้ำตาไหลออกมาจากหัวตา ฉันรู้ว่าไม่ควรร้องไห้ แต่ว่าก็อดไม่ได้ ท้ายที่สุดทำได้เพียงหลับตาลงเพื่อกลั้นน้ำตาไว้
คาดว่าเป็นเพราะฉันง่วงมากจริงๆ นอนไปนอนมา คาดไม่ถึงว่าจะหลับไปจริงๆ
ห้าโมงกว่าๆลู่จือสิงก็ปลุกฉัน เขายกของมาให้ฉันกินเล็กน้อย
ฉันรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แขกมากมายขนาดนั้น เราเป็นคู่บ่าวสาว โดยปกติต้องดื่มเหล้าแสดงความเคารพ สิ้นสุดลงก่อนสามทุ่มก็ดีสิ มีเวลากินข้าวซะที่ไหน เป็นเรื่องธรรมดาที่ในเวลานี้จะกินอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการรองท้อง
แม้ว่าฉันจะรู้แล้วว่าตนเองจะทำอะไรต่อไป แต่เพราะว่าฉันไม่รู้แผนงานงานแต่ง เวลาฉันทานอาหารยังอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
ตอนหกโมงเย็นลู่จือสิงพาฉันไปที่รถแต่งงาน บนถนน ฉันรู้สึกประหม่าจนฝ่ามือชุ่มเหงื่อ
ลู่จือสิงคงมองออก เขานื่นมือมาลูบๆฝ่ามือฉันเล็กน้อย เลิกๆคิ้ว ความสุขบนใบหน้าเห็นได้ชัดมาก
ฉันมองเขา ไม่แน่ชัดว่าตอนนี้ตนเองรู้สึกอย่างไร
เมื่อรถหยุดลง ฉันรู้สึกว่าหัวใจตนเองหยุดเต้นไปชั่วขณะ
ลู่จือสิงมองฉัน "พร้อมแล้วใช่ไหม?"
ฉันเงยหน้ามองฉัน คิดอยากจะพูด เขาก็พูดว่า : "ไม่พร้อมก็ต้องไปแล้ว ผ่านคืนวันนี้ไปแล้ว ทั้งโลกก็จะรู้ว่าคุณเป็นภรรยาของฉันลู่จือสิง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้