หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 31

"ลู่จือซิง ได้โปรดอย่าทำกับฉันแบบนี้..."

"ขอร้องผมเหรอ ตอนที่คุณเริ่มกินยานี้ ทำไมไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ฮะ"

ขณะลู่จือซิงแผดเสียงใส่ ก็พุ่งเข้าใส่อย่างกับจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ

ฉันรู้ ไม่ว่าฉันจะพูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อฉันอยู่แล้ว

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก ความอัปยศอดสูนี้ทำให้เขาคิดว่าฉันกำลังแสดงอยู่

ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาที่ไม่เคยโหดเหี้ยมก็เหมือนกับหมาป่าที่หิวกระหายมานานที่กำลังฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ

มือเขาจับเอวฉันไว้จนแทบจะหัก ฉันกัดฟันไม่เปล่งเสียงออกมาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลริน

หลังจากความเจ็บปวดที่แสนยาวนาน เขาผละออกจากตัวแล้วนั่งสูบบุหรี่บนโซฟา

ฉันกัดฟันและพาร่างตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมสวมใส่เสื้อผ้า ยกมือปาดน้ำตาแล้วมองตรงไปที่เขา"ประธานลู่ ฉันไปได้หรือยังคะ"

เขาเงยหน้าแล้วมองมาที่ฉัน แววตาเต็มไปด้วยความประชดประชัน "พอใจไหมซูยุ่น เธอยังจะมายั่วฉันอีกไหม"

ฉันมองที่เขาหัวใจฉันเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กัดฟันแล้วยิ้ม "ฉันพอใจมาก ต้องขอบคุณประธานลู่แล้ว จากนี้ฉันคงไม่มารบกวนคุณอีก"

สิ้นเสียงฉัน เหมือนมีบรรยายกาศเย็นยะเยือกทั่วตัวลู่จือซิง เขายื่นมือกวาดของลงพื้น"ไส้หัวไป"

ฉันไม่อยากจะพูดอะไร เพียงแค่อยากกลับไปอาบน้ำแล้วนอนให้สบาย แล้วลืมสิ่งที่บ้าบอของปีนี้ออกไป

“ ปัง!”

ฉันพึ่งเดินออกประตูมาได้ไม่กี่ก้าวข้างหลังฉัน ก็เกิดเสียงดังขึ้น ฉันตัวแข็งทื่อแต่ก็ยังคงเดินจากโดยไม่หันกลับมามอง

เขาให้ฉันไส้หัวไป ฉันไส้หัวไปแล้วจะไม่ไส้หัวกลับมาอีก

ความสัมพันธ์ฉันกับลู่จือซิงไม่เหมือนกัน เขาเหมือนกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และฉันเป็นเพียงแค่ทาสที่คอยรับใช้เขาอยู่ใต้ฝ่าเท้า

และฉันเริ่มต้นด้วยเจตนาแอบแฝง ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่เชื่อฉัน

เมื่อฉันกลับมาฉันก็เข้าใจ คนที่ขีดเขียนเรื่องนี้ก็คงเป็นลู่เว่ยกั๋ว

ทุกอย่างเขาวางแผนไว้เป็นอย่างดีโดยยัดเงิดให้หมอแล้วให้ฉันกินยานั้น ฉันเชื่อว่าลู่จือซิงต้องตรวจสอบมาแล้ว แต่ถ้าหมอปฎิเสธว่าจ่ายยาให้ฉัน ฉันก็หมดคำพูดแล้ว

เรื่องนี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือลู่จือซิงเดิมไม่เคยคิดจะเชื่อฉัน

ไม่มีใครผิดใครถูก พูดได้แค่เพียงว่าโชคชะตาฉันกับเขาไม่มากพอจึงเดินมาจนสุดทางวันนี้

ไม่มีแล้วความรัก ฉันยังมีคุณยาย

หลังจากออกจากคอนโดลู่จือซิง ฉันเริ่มส่งเรซูเม่หางานทางอินเตอร์เน็ต หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในที่สุดฉันได้งานที่ดี

เจ้านายและเพื่อนร่วมงานดีมาก เมื่อวันศุกร์มีงานเลี้ยงที่แผนก ฉันที่พึ่งเริ่มงานบริษัทก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ ทำได้เพียงตามพวกเขาไป

หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาว่ายังต้องการไปร้องเพลงคาราโอเกะ ฉันรู้สึกไม่สนุกคิดว่าจะนั่งสักพักแล้วค่อยไป

ตอนทานข้าวฉันดื่มเบียร์ไปแล้วขวดหนึ่งแล้วถูกลากให้เล่นลูกเต๋าในห้องส่วนตัว ฉันที่เล่นไม่เป็นพึ่งเล่นได้สามตาก็ดื่มเบียร์แล้วอีกขวด

ฉันเริ่มไม่ไหวแล้ว ฉันหาข้ออ้างไปห้องน้ำแล้วคิดอีกสักสิบนาทีค่อยออกไปบอกกับพวกเขาว่าฉันต้องดูคุณยายแล้ว

"ซูยุ่น เธอไปเข้าห้องน้ำเหรอ รอฉันด้วย"

ฉันเพิ่งเปิดประตูห้องส่วนตัว เพื่อนร่วมงานผิงผิงเรียกฉันไว้

"เมาก็สามารถชนคนได้เหรอ พวกเธอหน้าตาสวยไม่เบา มาดื่มกับพวกเราสักแก้วเป็นไง"

ขณะที่ผู้ชายพูดก็เอื้อมมือไปแตะผิงผิง ฉันรีบดึงผิงผิงกลับมา: "คุณผู้ชาย เพื่อนของฉันยังรอฉันอยู่ ฉันขอตัวก่อนล่ะ"

พูดจบ ฉันก็ไม่สนใจไรมากลากผิงผิงหนีไป

“ตุบ——”

พึ่งหนีเพียงสองก้าวก็ชนไปที่หน้าอกของคนคนหนึ่ง หน้าอกนั้นแข็งชนจนหน้าผากฉันเจ็บ

ฉันเงยหน้าที่จะขอโทษ คาดไม่ถึงกลับพบดวงตาสีดำที่แสนเย็นชาของลู่จือซิง

ฉันอึ้งสักครู่ แล้วจับมือผิงผิงจนแน่นและเม้มริมฝีปาก แล้วลากผิงผิงเดินต่อไปอย่างเงียบๆ

กลับถึงห้องส่วนตัว ฉันบอกว่าฉันต้องไปก่อน พวกเขาไม่ได้พูดไรมาก เพียงแค่ให้ฉันบอกให้เดินปลอดภัย

พึ่งเดินออกจากประตูสีทึบ ฉันก็เห็นลู่จือซิงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ทางออกแล้ว

ดูเหมือนว่าเขากำลังรอฉันอยู่ เขาสวมเสื้อคลุมกันลมสีดำทำให้เขาดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้นและดวงตาสีดำที่จ้องมาที่ฉัน

ฉันหยุดฝีเท้าแล้วมือกำกระเป๋าไว้แน่ แต่สุดท้ายแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรแล้วก้าวเท้าเดินต่อไป

เมื่อเดินผ่านไหล่ ฉันเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลังฉันวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดอะไร

แต่ฉันก็ยังถูกลู่จือซิงจับเอาไว้ เขาบีบข้อมือฉันแรงจนข้อมือฉันแทบจะหักเป็นเสี่ยงๆ มองมาที่ฉันอย่างเย็นชา"ซูยุ่น คุณไม่อยากเห็นหน้าขนาดนี้เลยเหรอ"

เขาก้มลงมองมาที่ฉัน ดวงตาสีดำที่แสนเย็นชาเหมือนมีดแทงเข้าไปนัยตาฉัน และความรู้สึกฉันที่ปั่นป่วน

ฉันเม้มริมฝีปากแล้วข่มความรู้สึกมากมายในใจ เงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่แสดงความอ่อนแอ"ฉันกลัวทำให้ประธานลู่รังเกียจ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้