หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 43

เวลาประมาณห้าโมงเย็น หลี่จื้อก็มาถึงด้านล่างของบริษัทฉัน "คุณหญิงลู่"

ฉันเข้าไปในรถแล้ว ทำให้เขาต้องมารับฉันอีกรอบ ฉันรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย "รบกวนคุณแล้ว เลขาหลี่"

"เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ ประธานลู่ให้ผมพาคุณไปแต่งหน้าทำผมก่อน อีกครึ่งชั่วโมงชุดจะตามมา"

ฉันตื่นตระหนกเล็กน้อย "งานเลี้ยงอะไรกัน ใหญ่โตมากเลยเหรอ?"

ด้านหน้าคือไฟแดง หลี่จื้อจึงหันกลับมามองฉัน "คือว่าคุณหญิงลู่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วประธานลู่ได้ร่วมเซ็นต์สัญญากับทางฝั่งยุโรป"

เรื่องสัญญานั้นฉันเคยได้ยินลู่จือสิงพูดถึงอยู่ครั้งหนึ่ง ในเวลานั้นมีบริษัทคู่แข่งภายในประเทศถึง17บริษัทและมี7บริษัทที่มีสถานะใกล้เคียงกับเฟิงเหิง ภายในนั้นคู่แข่งนั้นเฟิงเหิงก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นตัวเต็ง แต่ผลประโยชน์ของความร่วมมือนั้นสามารถคิดเป็นร้อยละ 20% ของมูลค่าการซื้อขายของเฟิงเหิง วันนี้ได้เซ็นต์สัญญาก็ควรแล้วแก่งานเลี้ยงฉลอง

ฉันเข้าใจโดยถ่องแท้และพยักหน้ารับรู้

หลังจากแต่งตัวแล้ว ฉันมองตัวเองในกระจกและรู้สึกว่าผู้คนต้องพึ่งพาเสื้อผ้าไม่ใช่การแต่งหน้า

แม้ว่าฉันอาจจะไม่ได้สวยอะไรมากนัก แต่ว่าโดยปกติแล้วเวลาไปทำงานฉันก็แต่งหน้าธรรมดาง่ายๆ แต่ไม่มีวันไหนเหมือนกับวันนี้ ฉันอยู่ในชุดที่ลู่จือสิงมอบให้กับฉัน ฉันรู้สึกราวกับภาพลวงตาว่าฉันเป็นลูกสาวของคนดังท่านใดท่านหนึ่ง

หลี่จื้อเดินเข้ามาเขาเหลือบมองฉันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นดูประหลาดใจเล็กน้อย "คุณหญิงลู่สวยจริงๆ"

"ขอบคุณ"

ผู้หญิงชอบที่ได้รับการชื่นชม เครื่องสำอางบนใบหน้าฉันนั้นน่าพอใจเป็นอย่างมาก แทบอดใจรอไม่ไหวอยากให้ลู่จือสิงได้เห็นฉันในลักษณะเช่นนี้

สำหรับงานเลี้ยงฉลองคืนนี้ เฟิงเหิงได้จัดเลี้ยงในโรงแรมระดับห้าดาวของเมืองA

ทันทีที่รถมาถึงหน้าประตู ลู่จือสิงก็มารับฉัน

ก่อนหน้าที่จะมาถึงฉันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อได้เห็นงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่พร้อมด้วยพรมสีแดงเกือบสิบผืนฉันก็รู้สึกประหม่าในทัที

"ซูยุ่น"

ประตูรถถูกเปิดออก ลู่จือสิงยืนอยู่หน้าประตูรถในชุดสูทสีขาว ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองมาที่ฉัน ภายในดวงตาคู่นั้นมีความตกตะลึงและทำให้ฉันรู้สึกเขินอาย เห็นว่าเขาจ้องมองฉันและไม่พูดอะไรฉันจึงกระแอมแกล้งเตือนเขา "อะแฮ่ม ลู่จือสิง"

ดวงตาของเขาเคลื่อนไหวและพยายามระงับอารมณ์จากนั้นเขาก็ยื่นมือมาหาฉันและจับมือฉันไว้แน่น "ไม่ต้องตื่นเต้น"

เมื่อได้ยินเสียงที่สงบและนุ่มนวล ฉันก็ไม่รู้สึกกังวลอีกต่อไป

ความสัมพันธ์ระหว่างลู่จือสิงและฉันนั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสื่อ แต่ในวันนี้ได้ถูกเขาพามายังลานเปิดตัวเช่นนี้ สายตาของทุกคนจ้องมองมาที่เราทั้งสอง

แต่เนื่องด้วยว่ามีลู่จือสิงอยู่ด้วยจึงไม่มีใครกล้าที่จะกล่าวอะไร

งานเลี้ยงฉลองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ลู่จือสิงขอให้ฉันขึ้นไปบนเวทีกับเขา ฉันรู้ว่าเขานั้นตั้งใจจะเปิดตัวฉันและความประหม่าที่หายไปเมื่อครู่นั้นก็ได้กลับมาอีกครั้ง

แต่เขาจับมือฉันแน่นมาก คงเป็นเพราะเขารู้สึกประหม่าและนิ้วหัวแม่มือของเขานั้นก็ถูหลังมือของฉันอย่างปลอบประโลม เราทั้งสองคนนั้นยืนอยู่บนเวทีแล้วไฟก็สว่างขึ้นฉันรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน

ลู่จือสิงนั้นเป็นคนที่ตรงไปตรงมาและค่อนข้างหยาบคาย เขาบอกทุกคนอย่างตรงไปตรงมาว่าฉันคือภรรยาของเขา ทุกวันนี้ฉันรู้สึกขอบคุณตัวฉันเองมากที่ทนต่ออารมณ์ของเขาได้

คำพูดของเขานั้นง่ายดายและกระชับใจความ หลังจากพาฉันลงจากเวทีแล้วเขาก็ชมเชยพนักงานอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็พาฉันออกมา

"ยังประหม่าเหรอ?"

ในตอนที่ฉันเดินลงมานั้นฉันรู้สึกว่าในการสอบเข้าวิทยาลัยฉันยังไม่เคยประหม่าขนาดนี้มาก่อน เมื่อได้ยินคำพูดของลู่จือสิงฉันก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจ "ทำไมคุณไม่บอกฉันล่วงหน้า?"

ฉันไม่รู้ว่าหยาวตันตันหงุดหงิดอะไร จู่ๆใบหน้าของเธอก็บูดบึ้ง "เธอภูมิใจอะไร แต่งงานกับน้าของฉันแล้วมันยังไงเหรอ อย่างไรก็ตามเธอมันก็แค่คนเก่าของถันฮ่าวอวี่ก็เท่านั้นแหละ เหอะ!"

คำพูดของหยาวตันตันนั้นจะมากเกินไปแล้ว กล้าพูดเรื่องแบบนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร!

มีบริกรคนหนึ่งเดินผ่านฉันมาพร้อมกับถาดไวน์แดง ฉันเอื้อมมือไปหยิบไวน์แดงมาหนึ่งแก้วทันที จากนั้นก็สาดบนใบหน้าของหยาวตันตัน

ไวน์แดงไหลรินลงบนใบหน้าของหยาวตันตัน ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นและมองไปยังสีหน้าที่เย็นชาของเธอ "หยาวตันตัน ฉันเป็นน้าของเธอ ไวน์แดงแก้วนี้ไว้สำหรับสั่งสอนคนที่ไม่เคารพผู้อาวุโส!"

"กรี๊ด!" หยาวตันตันกรีดร้องพร้อมกับทำท่าปิดหู ไม่รู้ว่าเกิดอาการประสาทอะไรขึ้นมา เธอหยิบมีดและส้อมบนโต๊ะอาหารข้างๆเธอขึ้นมาจากนั้นเธอก็โยนใส่ฉัน

ฉันโมโหมากและยกมือขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีดนั้นโดนใบหน้าของฉัน

"กรี๊ด----"

หยาวตันตันกรีดร้องอีกครั้ง ฉันก็คิดว่าเธอเป็นผีบ้า ได้ยินเพียงเสียง เพล้ง เท่านั้น เธอดึงผ้าปูโต๊ะของโต๊ะอาหารและเดินโซซัดโซเซถอยหลังไปสองสามก้าวและล้มลงกับพื้นในที่สุด

ฉันมองภาพฉากตรงหน้า ก่อนที่ฉันจะหัวเราะเยาะ ฉันเห็นหยาวตันตันนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดมาก "ลูกของฉัน ลูกของฉัน!"

เมื่อเห็นร่างกายของหยาวตันตันมีเลือดออก ฉันก็ตกตะลึง

"ฮ่าวอวี่! มาช่วยฉันเร็ว ช่วยฉัน ซูยุ่นฆ่าลูกของเรา!"

ถันฮ่าวอวี่ปรากฎตัวออกมาจากฝูงชน หยาวตันตันจับมือของเขาและชี้มาที่ฉันตลอดเวลา

ผู้คนรอบข้างก็มุงดูและชี้มาที่ฉัน ฉันยืนอยู่ตรงนั้นและมีอาการเสียสูญเล็กน้อย ในเวลานี้จู่ๆมือของฉันก็ถูกคว้าเอาไว้ "เกิดอะไรขึ้น?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้