หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 51

เนื่องจากต้องไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง ฉันจึงเลิกงานก่อนเวลาหน้าครึ่งชั่วโมงเพื่อไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้า

เมื่อเช้านี้ตอนกำลังเลือกชุดไปร่วมงานอยู่ มีลู่จือสิงคอยจู้จี้อยู่ข้างๆ ฉันจึงเลือกได้เพียงชุดกระโปรงสีดำที่ดูไม่โป๊และสุภาพชุดหนึ่ง

ในบริษัทของเรามีคนไปร่วมงานเลี้ยงฉลองทั้งหมด 6 คน ฉันและเพื่อนร่วมงานไปถึงสถานที่จัดงานก็พบว่าแขกมากันเยอะมากแล้ว

“ซูยุ่น”

พอฉันมาถึง ซวี่ชิงหนานก็เข้ามาทักฉัน

ฉันเดินยิ้มๆ เข้าไปหา: “คุณซวี่” ฉันจำได้ว่าเขาไม่ชอบให้ฉันเรียกเขาว่ารองประธานซวี่

สายตาเขามองไปรอบๆ ตัวฉัน จากนั้นก็ยกนิ้วโป้งกล่าวชื่นชม: “คุณสวยมากครับ”

“ขอบคุณค่ะ วันนี้คุณซวี่ก็ดูหล่อขึ้นนะคะ”

ผู้หญิงชอบฟังคำชมกันทั้งนั้น ฉันเองก็ชอบ ซวี่ชิงหนานชมจนฉันยิ้มไม่ยอมหุบ

ห่างกันไม่ไกลนัก มีคนโบกมือทักทายซวี่ชิงหนาน ฉันไม่ควรยึดครองเขาไว้นานๆ จึงเอ่ยปากก่อน: “คุณซวี่แวะไปทางนู้นเถอะค่ะ ฉันมากับเพื่อนร่วมงานน่ะค่ะ”

เขาส่งสัญญาณให้แขกคนนั้น จากนั้นก็มาตบไหล่ฉันเบาๆ: “ช่วงที่ผ่านมานี้ ลำบากคุณแล้ว คืนนี้เอาให้เต็มที่เลยนะครับ”

ฉันยิ้มกลับ มองดูเขาทักทายต้อนรับแขกท่านอื่นๆ

“ซูยุ่น ซวี่ชิงหนานคนนี้เขาคิดจะจีบเธออยู่หรือเปล่า?”

ฉันรับน้ำผลไม้ที่ต๋งฉิ๋ง เพื่อนร่วมงานของฉันยื่นมาให้: “ขอบใจ” ฉันจิบไปอึกหนึ่งแล้วเอ่ยตอบ “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันกับรองประธานซวี่สนิทกันเพราะทำโครงการร่วมกันแค่นั้นเอง”

ฉันรู้ว่าในบริษัทมีข่าวลือเกี่ยวกับฉันกับซวี่ชิงหนานอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเรื่องที่เขาเคยช่วยฉันไว้ ฉันจึงไม่คิดที่จะพูดออกไป คนพูดก็พูดตามๆ กันไป ใครจะรู้สุดท้ายจะถูกลือออกไปแบบไหน

พอฟังฉันพูดออกไปแบบนี้ สายตาของต๋งฉิ๋งก็เป็นประกาย: “แล้วเขามีแฟนหรือยัง? หล่อๆ แบบนี้ เธอไม่หวั่นไหวบ้างเลยหรือ อ๊า ฉันลืมไป เธอมีประธานลู่แล้วนิ! แต่รองประธานซวี่ก็มีเสน่ห์จริงๆ น๊ะ มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนประธานลู่ ทำได้เเค่มอง แต่ไม่อาจเข้าใกล้……”

เห็นท่าทางเธอแบบนี้ ถ้าฉันเดาไม่ออกว่าเธอมีใจให้ซวี่ชิงหนาน ตลอดหลายปีมานี้ของฉันก็เสียเปล่าแล้ว: "ฉันไม่รู้ว่ารองประธานซวี่มีแฟนหรือยัง แต่ฉันน่าจะช่วยถามให้ได้น้ะ"

แม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เวลาคุยกับซวี่ชิงหนานก็ดูชิลๆ ดี ถ้าลองถามดูก็คงไม่น่าขัดเขินอะไร

"ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ"

เห็นเธอไม่ยอมรับซักที ฉันจึงเอนตัวเข้าไปใกล้แล้วกระพริบตาใส่: "เธอแค่อยากรู้จริงๆ หรือ?"

"ก็ ก็——โอ๊ย ซูยุ่น ทำไมเธอน่ารำคาญจัง"

"ฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจแล้ว วางใจเถอะ เรื่องนี้ให้เป็นธุระของฉันแล้วกัน เดี๋ยวจะไปสืบมาให้"

ฉันพูดแล้วก็ตบไหล่เธอเบาๆ แสดงท่าทางบอกว่า "ฉันเข้าใจแล้ว"

"งั้น งั้นเธอก็อย่าลืมแล้วกัน"

แย่ล่ะ ดูท่าต๋งฉิ๋งจะหลงเสน่ห์ซวี่ชิงหนานเข้าแล้วจริงๆ

ขณะที่ฉันกำลังจะเอ่ยปาก ผู้จัดการก็เรียกเราสองคนให้เข้าไปหา: "ซูยุ่น ต๋งฉิ๋ง มานี่ซิ"

ฉันสบตาต๋งฉิ๋ง แล้วรีบเดินเข้าไปหา: "ผู้จัดการหลี่"

ผู้จัดการยิ้มให้เราสองคน: "ท่านนี้คือ ประธานฟาง" พูดจบก็หันไปยิ้มให้ประธานฟาง "ประธานฟาง นี่คือ ซูยุ่น เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ และนี่คือต๋งฉิ๋ง เป็นผู้รับผิดชอบสถานที่จัดงานโปรโมททั้งหมดในครั้งนี้

"ขอบคุณมาก คุณซู คุณต๋ง"

ประธานฟางคือเจ้าของบริษัทป๋ายเล่อ ทั้งฉันกับต๋งฉิ๋งทราบดีว่าผู้จัดการต้องการให้สานสัมพันธ์กันไว้ จึงยื่นมือไปจับมืออีกฝ่าย

คุยกันได้ซักพัก ก็มีคนมาเรียกประธานฟาง จากนั้นผู้จัดการก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับฉันและ

ต๋งฉิ๋งอีก

"ซูยุ่น ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนน๊ะ"

"ได้ ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่แล้วกัน"

ฉันเดินถอยไปด้านข้าง ดูเวลาเห็นว่าใกล้จะเริ่มงานแล้วจึงพูดออกไปอีกคำว่า: "เธอรีบหน่อยแล้วกัน งานจะเริ่มแล้ว"

"ฉันรู้แล้ว จะรีบแล้วกัน!"

ฉันพยักหน้า ผลักประตูเดินเข้าไป จากนั้นก็มีเสียงปิดประตู ฉันรีบหันกลับไปจับประตูทันที แต่ประตูเปิดไม่ออก: "เกิดอะไรขึ้น คุณปิดประตูทำไมคะ?"

"อย่าเปลืองเเรงไปเลย ซูยุ่น"

"ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"

เป็นถันฮ่าวอวี่ ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที แต่แสร้งทำสีหน้าเยือกเย็นเข้าไว้

"เธอคิดว่าทำไมกันล่ะ? เธอเคยบอกว่าที่ตันตันมีกิ๊กเป็นเรื่องที่ฉันสมควรโดนแล้วไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ฉันจะให้ลู่จือสิงโดนสวมเขาดูบ้าง ดูซิว่าเธอหรือฉันที่จะมีจุดจบที่แย่กว่ากัน! "

"อย่าเเตะต้องฉัน!"

ฉันก้าวถอยหลังไป แต่ข้างหลังมีเพียงประตู

ที่แย่ไปกว่านั้น ฉันรู้สึกว่าร่างกายสั่นไม่หยุด ฉันถูกวางยา!

ฉันไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว ถันฮ่าวอวี่คว้าฉันไว้ด้วยมือเดียว: "ตลอด 4 ปีที่เราคบกัน แค่จะสัมผัสเธอๆ ยังไม่ยอมเลย หรือเป็นเพราะเตียงของลู่จือสิงที่ทำให้เธอมีความสุขมากกว่า?ก็ดี วันนี้ฉันจะให้เธอได้เห็นว่าเป็นฉันหรือลู่จือสิงที่เด็ดกว่ากัน!"

"ถอยไปน๊ะ!"

ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากเขา แต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงเลย ตัวก็อ่อนปวกเปลียกไปหมด สติเริ่มสับสน แต่ฉันรู้ว่า นี่เป็นหมากที่ถันฮ่าวอวี่วางเอาไว้ หากฉันถูกเขาแตะต้องแล้วล่ะก็ ความสัมพันธ์ของฉันกับลู่จือสิงคงต้องจบลง

ฉันดึงสติกลับมา ใช้แรงทั้งหมดเคาะประตู: "ช่วยด้วย! มีใครอยู่บ้าง! ช่วยด้วยคะ! ช่วยด้วย!"

ถันฮ่าวอวี่กดฉันไว้กับประตู เอาตัวล็อคตัวฉันไว้: "เรียกซิ ดูซิว่าจะมีใครมาช่วยเธอ?"

พอพูดจบ เขาก็จูบฉันอย่างน่ารังเกียจ ฉันเอียงคอหลบ แล้วอ้าปากกัดเขา: "อย่าแตะต้องฉัน!นายลองแตะต้องฉันดูซิ!"

"จิ๊ๆ ทำไมฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าอกเธอจะสะบึ้มขนาดนี้?"

ถันฮ่าวอวี่ทั้งลูบฉัน ทั้งเอามือมาเเตะที่ข้างหู พูดอย่างตื่นเต้นว่า: "ซูยุ่น เธอยังไม่เคยมีอะไรกับฉันมาก่อนซิน้ะ เรามาลองดูกัน ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่อยากมีอะไรกับลู่จือสิงอีกเลยก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า!"

ฉันคิดจะโต้กลับไป แต่พะลังกำลังของฉันค่อยๆ ลดลง สติก็พร่าเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้