หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 1974

การแข่งขันยอดหมอเทวดาของเมืองหวาซย่าถือเป็นการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของหอแพทย์แผนจีนเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมการแข่งขันทางการแพทย์ศาสตร์แพทย์แผนจีนที่มีเงินมากที่สุดในโลกอีกด้วย

เพียงแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงบางประการจึงทำให้ไม่ได้จัดขึ้นเป็นเวลาสามปีแล้ว เมื่อเกิดข่าวลือเช่นนี้แพร่กระจายไปทั่ว อยู่ ๆ เซี่ยเชียนซานก็ปล่อยข่าวออกมาว่า

การแข่งขันยอดหมอเทวดาจะกลับมาเริ่มจัดใหม่อีกครั้งในปีนี้ และวันที่ทำการแข่งขันก็เป็นช่วงใกล้ ๆ นี้

ในตอนนี้ผู้อาวุโสเฮ่อและคนอื่น ๆ ก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่านี่เป็นแผนการชั่วร้ายที่ตระกูลเซี่ยวางแผนทั้งสิ้น ฉวยโอกาสช่วงที่หลินมั่วล้มหมอนนอนป่วยอยู่บนเตียง โดยเริ่มจากการกระจายข่าวลือทำลายชื่อเสียงให้ฉาวไปทั่วและใช้พลังของมวลชนทำให้หลินมั่วมีปากมีเสียงไม่ได้

มีวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ตนเองได้ นั้นก็คือสมัครเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้และยังต้องคว้าเอาชัยชนะในการแข่งขันรายการใหญ่นี่ให้ได้

อย่างไรก็ตามการแข่งขันยอดหมอเทวดาของหวาซย่าถือเป็นการแข่งขันที่รวมเอาหมอเทวดาชั้นนำของโลกมารวมไว้ด้วยกัน แค่สุ่มเลือกมาหนึ่งคน ล้วนเป็นบุคคลที่พวกเขายกย่องกันทั้งสิ้น

แม้ว่าพวกเขาจะชื่นชมทักษะทางการแพทย์ของหลินมั่ว แต่ถ้าตอนที่อยู่ในการแข่งขันยอดหมอเทวดาต้องไปดวลกับคู่ต่อสู้ที่ได้ทั้งบู๊และศิลปะการแพทย์ พวกเขาเองก็ไม่มีความมั่นใจเหมือนกันจริง ๆ

นี่คือแผนการร้ายที่หาทางออกยากมาก จุดประสงค์ที่ทำก็เพื่อต้อนหลินมั่วให้เข้าสู่ทางตัน และทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

โหดเหี้ยมที่สุด!

อีกด้านหนึ่ง

ณ ฐานที่พักของตระกูลเซี่ยในมณฑลซู กำลังมีแขกลึกลับกลุ่มหนึ่งมาเยือน

ภายในโรงแรมซูเยว่

ทุกคนในตระกูลเซี่ยต่างรอกันอยู่ในห้องพิเศษที่อยู่ชั้นบนสุดกันอยู่นานแล้ว

“อีกประเดี๋ยวถ้าแขกมาถึงแล้ว พวกแกทั้งหลายจงระวังคำพูดและการกระทำของตัวเองให้ดี ๆ อย่าได้ทำให้ตระกูลเซี่ยของพวกเราขายขี้หน้าได้”

หลังจากเซี่ยเชียนซานกวาดตามองเหล่าลูกหลานตระกูลเซี่ยโดยรอบแล้ว เซี่ยเชียนซานก็กล่าวตักเตือนขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะยังไงแขกที่ต้องต้อนรับในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลระดับปรมาจารย์ด้านการแพทย์แห่งประเทศญี่ปุ่น

และที่สำคัญที่สุดก็คืออำนาจของตระกูลที่คอยหนุนหลังคนกลุ่มนี้ยังไม่เป็นสองรองใครอีก

คนที่มาไม่มีใครไม่ได้อยู่ในสิบอันดับแรกของญี่ปุ่นสักคน

หากสามารถสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ ขอบเขตอำนาจของตระกูลเซี่ยก็จะสามารถขยายกว้างไปได้อีกระดับหนึ่ง

เมื่อยกมือขึ้นดูเวลา ยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งพวกเขาก็จะมาถึงแล้วเซี่ยเชียนซานหันกลับมาตรวจสอบการเตรียมการต่าง ๆ อีกครั้ง

เมื่อมองเห็นมือถือสุดรักของตัวเองเพิ่งซื้อมา พ่อหนุ่มกล้ามโตก็เกิดอาการบ้าคลั่งทันที ด้วยรูปร่างที่กำยำและใบหน้าที่ดูโหดเหี้ยม มองปราดเดียวก็รู้ว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

“ขอโทษ ๆ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ!“

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสจึงรีบเอ่ยขอโทษขอโพยทันทีแต่เสี่ยวเจี้ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลับไม่ได้มีความอดทนทางอารมณ์ดีเหมือนกับผู้อาวุโส

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเคารพ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้อาวุโสเพิ่งจะช่วยพูดแก้สถานการณ์ให้กับตัวเองไป

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดจาหยาบคายใส่ เขาก็เข้าไปยืนประชันหน้าด้วยทันที

“แกอยากตายหรือไง?”

แม้ว่าภาษาหวาซย่าของแต่ละคนจะพูดได้ไม่ค่อยไม่เหมือนเท่าไรแต่สำเนียงที่เข้มขรึมของคนชาวญี่ปุ่น ก็ได้เปิดเผยตัวตนของพวกเขาในทันที

เมื่อลองเปรียบเทียบกับพ่อหนุ่มกล้ามโตคนนี้ เสี่ยวเจี้ยดูเตี้ยกว่ามากอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่อีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาที่เหยียดหยามเล็กน้อย พ่อหนุ่มกล้ามโตก็มองด้วยสายตาที่เย็นชากลับไป

“โย่ เจ้าโจรสลัดแคระญี่ปุ่น แล้วจะยังไง? ทำผิดแล้วยังมีหน้ามาใส่อารมณ์อีกเหรอ ฉันอยากตายแล้วจะยังไง กล้าทำอะไรฉันดูสิ?”

เขาพูดพร้อมกลับยกฝ่ามือขึ้น และมุ่งตรงไปที่ไหล่ของเสี่ยวเจี้ย