หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 20

เฮนรี่ยังคงดื้อรั้นไม่ยอมกลับไปเมืองเอส เช่นเดียวกับฉันที่ยืนขวางทางตรงประตูไว้อย่างไม่ยอมหลังจากที่เขามาส่งฉันที่บ้าน พี่ชายปรายตามองมาที่ฉันก่อนถอนหายใจ “เธอจะไล่ฉันกลับไปจริง ๆ เหรอ?”

ฉันมีคนสนิทไม่เยอะมาก และส่วนมากก็อยู่ไกลกัน และเพื่อนคนเดียวของฉัน ซัมเมอร์ ตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในคุก

ว่ากันตามจริง ถ้าเฮนรี่กลับไปฉันคงจะหงอยมากเลยล่ะ

แต่ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เริ่มมีสายโทรตามเขาเยอะมากแล้ว

ฉันได้แต่คิดถึงสิ่งที่เฮนรี่ต้องกลับไปดูแลที่บ้าน เขายังมีสิ่งที่ต้องทำ คนที่ต้องดูแล ฉันคงเกลียดตัวเองมากแน่ ๆ ถ้าฉันรั้งเขาไว้

นอกจากนี้ ฉันยังทำให้เขาต้องมารับรู้เกี่ยวกับการป่วยเจียนตายของตัวเองอีก

ฉันก้มหน้าลงก่อนเอ่ยยืนยันคำเดิม “ใช่ ให้เวลาฉันอยู่กับตัวเองบ้างนะคะ”

“อยู่กับตัวเองมาเก้าปียังไม่พอหรือไง?”

แคโรถึงกับตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คำพูดของเฮนรี่ทำให้เธอระลึกได้ว่าเป็นเวลากว่าเก้าปีแล้วที่เธอเสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วรามกับชั่วพริบตา แต่เธอยังไม่เคยได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลยซักอย่าง

สิ่งเดียวที่เธอตัดสินใจทำลงไปกลับกลายเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ

หากเธอย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่มีทางตอบตกลงแต่งงานกับ ดิกสัน เกร็ก เป็นแน่

ฉันได้แต่คิดย้อนไปพลางขมวดคิ้ว “ขอบคุณนะคะ พี่เฮนรี่ สำหรับที่พี่ดูแลฉันตลอดสามสี่มาวันนี้”

เมื่อฉันเอ่ยปากตอบกลับไปแบบนี้ เขาถึงยอมตกลงว่าจะกลับไปที่เมืองอู๋

เขาเดินไปส่งฉันที่ห้อง พลางช่วยเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้อย่างแผ่วเบา เฮนรี่ไม่สบอารมณ์เมื่อเขาเห็นรอยแผลเป็นจาง ๆ บนใบหน้าของฉัน ก่อนถามเสียงสั่น “เกิดอะไรขึ้น?”

ความทรงจำเหล่านั้นหวนกลับคืนมาอีกครั้ง ในวันที่ดิกสันผลักฉันล้มลงบนพื้นเพราะเกวน ดิกสันไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่าฉันเจ็บปวดขนาดไหน

หลังจากนั้น เขาก็ไม่เคยกังวลถึงอาการบาดเจ็บของฉันอีกเลย

ฉันยิ้มจาง “ฉันแค่หกล้ม”

“ถ้าล้มธรรมดาจะเป็นแผลขนาดนี้เหรอ?”

เฮนรี่รู้ว่าฉันโกหก แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ซักไซร้อะไรต่อเพราะไม่อยากทำลายความสบายใจของฉัน ฉันกระพริบตาก่อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องที่ดูจริงจังกว่าเรื่องนี้แทน “การถอดถอนธุรกิจกับตระกูลเกร็กจะไม่ส่งผลเสียต่อตระกูลคุกเหรอ?”

เฮนรี่มองออกว่าไม่มีทางปกปิดเรื่องนี้กับฉันไปได้ตลอด เพราะที่ผ่านมาฉันก็ทำงานอยู่ในแวดวงนักธุรกิจเช่นเดียวกับเขา “แน่นอน มันอาจจะมีปัญหาบางอย่างตามมา แต่ว่าตระกูลเกร็ก ก็ต้องโดนผลกระทบเหมือนกัน แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ”

ฉันได้เบนสายตาไปบนพื้นขณะรับฟัง “ขอบคุณนะคะ พี่เฮนรี่”

“แคโร เธอคือทายาทตระกูลชอว์ คนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ ด้วยสายเลือดตรงที่ยังคงไหลเวียนและกอบกุมไว้ซึ่งอำนาจ ถ้าเธอเลือกที่จะทิ้งทั้งหมดนี้ไป มันก็ต้องเป็นคราวของฉันที่จะปกป้องดูแลเธอ ฉันอยากจะทำให้เมืองอู๋และ ดิกสัน เกร็ก รู้ว่าถึงหมอนั่นจะจะปฏิเสธเธอ แต่เธอคือสิ่งสำคัญที่สุดของที่สุดสำหรับฉัน”

“สำคัญที่สุดของที่สุด...”

เฮนรี่เดินลงไปเตรียมอาหารร้อน ๆ สำหรับฉันก่อนที่เขาจะเดินทางกลับเมืองเอส แถมยังโทรมาบอกด้วยว่าเขาเดินทางถึงเมืองเอสอย่างปลอดภัยแล้ว เฮนรี่ย้ำกับฉันอีกครั้ง “โทรมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเข้าใจไหม มันใช้เวลาแค่สองชั่วโมงจากเมืองเอสมาที่นี่ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน ฉันจะมาหาเธอภายในสองชั่วโมง เพราะฉะนั้นแคโร ได้โปรด อย่าเผชิญปัญหาแค่คนเดียวอีก”

ฉันรีบตอบกลับไปด้วยหัวใจที่โดนเยียวยา “ฉันรู้สึกขอบคุณแม่มาก ๆ ที่มอบพี่ชายที่แสนดีให้กับฉัน”

“เด็กโง่เอ้ย เธอคือทุกอย่างแล้ว”

ฉันแอบอมยิ้ม “พี่สะใภ้ต้องอิจฉาแน่ ๆ เลย”

“ไม่หรอก หล่อนรักเธอมากเหมือนที่ฉันรัก”

“โอเค งั้นฉันวางสายแล้วนะ”

หญิงสาววางสายไป และในไม่กี่นาทีต่อมาเธอจึงลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ไม่นานมานี้เธอได้รับสายจากคุณกรีน หล่อนเคยเป็นคนสอนเปียโนของเธอ เช้าวันถัดมา แคโรติดต่อกลับไปยังคุณกรีนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคลาสเรียนเปียโนของเธออีกครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยฟื้นฟูให้ทักษะเปียโนของเธอกลับมา นอกจากนี้ มันก็ไม่แปลกที่เธอต้องการคุณกรีนเป็นคนช่วยเรื่องนี้ นั้นก็เพราะแทบจะเรียกได้ว่าหล่อนคือคุณครูสอนเปียโนที่เก่งกาจของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของเมืองอู๋เลยก็ว่าได้

ในสายตาของประธานเกร็ก ฉันอาจจะด้อยค่า แต่เกวนนั้นไร้ค่า

ฉันต้องขอบคุณที่ตัวเองเป็นทายาทคนสุดยอดของตระกูลชอว์และได้รับความเคารพนับถืออย่างดีจากคนรอบข้าง

ฉันรังเกียจความเห็นแก่ตัวคนตระกูลเกร็ก และฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนี้ ฉันวางหูก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนที่อยู่ชั้นหนึ่ง ที่ ๆ นักเรียนคนอื่น ๆ ตื่นเต้นที่จะได้เจอฉัน

“คุณชอว์ คุณไม่ได้สอนพวกเรามาหลายเดือนเลย”

“คุณลืมพวกเราเพราะคุณมีแฟนใช่ไหม?”

“คุณชอว์ วันนี้คุณจะสอนอะไรพวกเราอ่ะ?”

“คุณชอว์ คุณยังสวยไม่เปลี่ยนเลย”

ฉันตกใจแทบพูดไม่ออก

พวกเขาพุ่งคำถามมากมายใส่ฉันรัวเร็วจนฉันตั้งรับไม่ทัน ฉันจึงทำได้เพียงยิ้มรับพวกเขาแทนคำตอบทั้งหมด พวกเขาอายุไม่ห่างกับฉันมาก นั้นทำให้ฉันคิดว่า ถ้าฉันได้เรียนเหมือนคนธรรมดา ฉันคงมีชีวิตแบบพวกเขา แค่มาเข้ามานั่งในห้องเรียน และเรียนเพื่อสอบไฟนอลเท่านั้น ชีวิตไม่จำเป็นต้องเครียดอะไรไปมากกว่านี้

“คุณชอว์ ทำไมคุณเงียบแบบนั้น?”

ชายหนุ่มร่างหนาแลดูอายุน้อยถามฉัน

ฉันเอ่ยตอบ “นายแย่งฉันพูดไปหมดแล้ว ฉันจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?”

พลางว่าต่อ “โอเค โอเค เริ่มเรียนกันได้แล้ว”

“วันนี้คุณชอว์จะสอนเพลงอะไรครับ?”

“ถนนแห่งสายลมค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ