[ยารา: ฉันไม่เคยเข้าใจว่ารักมันเป็นอย่างไร แต่ฉันก็รู้สึกผูกผันกับความรู้สึกที่แลนซ์ให้กับฉัน บางทีในอนาคตฉันคงจะไม่เข้าใจความรักดีก็ได้ แต่ฉันจะพยายามที่จะเรียนรู้และจะไม่ทำเขาผิดหวังเท่าที่ฉันจะทำได้แล้วกัน]
นั่นคือคำตอบที่ยาราให้กับฉัน
[แคโรไลน์: ฉันหวังให้พวกเธอสองคนมีความสุขนะ สิ่งที่ฉันอยากเห็นมากที่สุดในชีวิตฉันคือการที่เธอ, ซัมเมอร์ และลอเรนมีความสุข]
แล้วก็เอเลน และพี่เชอริลด้วย! อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้สนิทกับยารา ฉันเลยไม่ได้พูดถึงชื่อของพวกเขา
[ยารา: ฉันหวังให้เธอมีความสุขเหมือนกันนะ]
ฉันวางโทรศัพท์มือถือลงหลังจากนั้น
ไม่นาน แซคคารี่ก็เรียกฉันไปทานข้าว ฉันเดินที่โต๊ะและนั่งลง เขาส่งโจ๊กพร้อมกับจานผักมาให้ฉัน
“เธอมีแผลที่ท้องของเธอ ดังนั้นเธอเลยกินได้เเค่อาหารรสอ่อนไปก่อน หลังจากที่เธออาการดีขึ้นแล้ว ฉันจะทำอาหารอย่างอื่นให้ทาน”
ความใส่ใจในรายละเอียดของเเซคคารี่มอบความสบายใจให้กับฉัน
ฉันคลี่ยิ้ม “ขอบคุณค่ะ พี่รอง”
“อืม กินได้แล้ว”
แซคคารี่นั่งลงตรงข้ามกับฉัน เขาทานอาหารอย่างนุ่มนวล และทานโจ๊กสองชามเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปอาบน้ำด้านบน
ตอนที่ฉันทานเสร็จ ฉันเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำความสะอาด จากนั้นฉันก็เห็นเเซคคารี่ยืนอยู่ตรงราวบันได เขามองมาที่ฉันจากบันไดด้วยสายตาอันร้อนแรง
ฉันหยอกเขา “ยังไม่หายคิดถึงฉันอีกเหรอคะ?”
“หลงตัวเองจัง” เขาตอบ
“คุณไม่ชอบมองฉันเหรอ?” ฉันหัวเราะ
ก่อนที่เขาจะตอบกลับมา ฉันก็พูดต่อไปเรื่อย ๆ
“แต่ว่า ฉันชอบที่จะมองคุณนะ ต่อให้ฉันมองคุณตลอดเวลา มันก็ยังไม่พอเลยค่ะ”
“อืม มองได้เท่าที่เธอต้องการเลย” เขายกยิ้ม
ให้ตายเถอะ เขาช่างเป็นชายที่แสนยั่วยวนเสียจริง
เขาเดินลงมาจากบันไดแล้วถามฉันด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า “เหนื่อยหรือยังล่ะ?”
ฉันส่ายหัว เขาจึงเดินเข้ามาเเล้วจูงมือของฉัน “ไปเดินเล่นกับฉันแล้วค่อยเข้านอนทีหลังกัน”
มันเป็นเรื่องที่หายากสำหรับเขาที่จะชวนฉัน เเละตอนนั้นก็เป็นเวลาดึกแล้ว เเต่แซคคารี่ยังคงมีอารมณ์ที่จะออกไปเดินเล่นอีก
ฉันพยักหน้าแล้วตกลงรับคำเชิญของเขา “ได้เลยค่ะ”
แซคคารี่จูงมือของฉัน และเราก็เดินออกจากคฤหาสน์ไปที่สวนด้านหลังด้วยกัน
ในตอนนั้น อีกประมาณสองสามเดือนจะเข้าสู่ฤดูใบไม้พลิ
ในฤดูใบไม้พลิ ดอกไม้ในสวนจะพลิดอกออกมาจากต้นของมัน ต้นอาร์เมเนียนั้นถูกปกคลุมด้วยดอกสีชมพูและสีขาว หลังจากที่พลิดอกมาเกือบหมดแล้ว ดอกซากุระจะร่วงลงมาจากต้นราวกับเศษกระดาษที่ถูกโปรยในงาน ในขณะเดียวกัน ดอกพีชจะเริ่มโตขึ้นเเละรอที่จะพลิดอกออกมา ไม่นานหลังจากนั้น ดอกของต้นคาร์มาเลียจะพลิออกตรงหัวมุม
ฉันปล่อยมือของแซคคารี่ออก และพยายามเอื้อมไปเด็ดดอกบนต้นอาร์เมเนีย
อย่างไรก็ตาม ฉันสูงไม่พอจึงไม่สามารถเอื้อมไปเด็ดมันได้ ฉันรู้สึกเสียกำลังใจเล็กน้อย
ลมหายใจของชายหนุ่มอยู่ดี ๆ ก็รินข้าง ๆ ฉัน มือของเขาพร้อมกับฝ่ามือกว้างแต่ก็เรียวขาวจู่ ๆ ก็เอื้อมขึ้นมาเหนือฉัน
แซคคารี่เอื้อมไปเด็ดดอกไม้จากต้นพลัมอย่างง่ายดาย สายลมอ่อนพัดผ่านบนตัวของของเขาเล็กน้อย เขาส่งดอกไม้มาให้ฉันพร้อมกับสายตาที่อ่อนโยนของเขา ฉันหัวเราะ และทัดดอกไม้ที่หูของฉัน
ฉันคลี่ยิ้มแล้วจึงถามเขาไปว่า “ฉันสวยไหมคะ?”
เขาตอบกลับมาเป็นเสียงในลำคอ
ฉันถามต่ออย่างไม่ลดละ “พูดออกมาด้วยซิคะ ฉันสวยหรือเปล่า?”
ฉันลดสายตาของเขาลงแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ที่รัก เธอสวยมาก”
ฉันเเถบจะไม่เรียกฉันว่า ‘ที่รัก’ นอกจากว่าเขาจะรู้สึกหวั่นไหว
ฉันเขย่งขึ้นไปหอมแก้มของเขา แล้วจึงหันหลังวิ่งหนีออกมา
“แม่ทำโจ๊กสุขภาพเมื่อเช้านี้ ลูกไปทานสักชามซิ เเล้วก็ยังมีแซนวิชกับนมด้วย ลูกให้พ่ออุ่นนมให้ทานนะ”
ตอนที่พ่อของฉันได้ยินดังนั้น เขาก็ส่งเด็กน้อยให้กับพี่เลี้ยง แล้วฉันก็เดินตามเขาเข้าไปในห้องครัว และดูตอนที่เขาอุ่นนมให้ฉัน
ฉันยืนข้างประตูห้องครัวและก็นึกถึงตอนที่แซคคารี่อุ่นนมให้ฉันดื่มเมื่อคืน ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากคลี่ยิ้มออกมา
“เมื่อคืนแซคคารี่ก็อุ่นนมให้หนูทานค่ะ”
ในโลกนี้ ชายสองคนที่รักฉันมากที่สุดก็คือชายสองคนนี้
“มันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ชายแบบเขาที่จะปฏิบัติต่อลูกด้วยความอ่อนโยน แคโร กักเก็บสายสัมพันธ์กับเขาเอาไว้นะ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แล้วก็คิดและพิจารณาก่อนจะทำอะไรไป อย่าทำอะไรวู่วามล่ะ”
“อืม” ฉันส่งเสียงในลำคอ ในขณะที่ฉันกัดแซนวิชที่พ่อของฉันส่งมาให้
“แม่แท้ ๆ ของหนูกำลังรอที่จะพบอยู่ที่ฝรั่งเศส” ฉันบอกกับพ่อของฉัน “เธอน่าจะอยากให้หนูสืบทอดตำแหน่งของดยุคต่อ หนูติดสินใจเเล้วว่าจะรับมันไว้! เธอป่วยหนักมาก และเธอก็ไม่มีเวลาเหลืออยู่มากแล้ว เมื่อคืนเเซคคารี่แนะนำให้หนูลองให้โอกาสตัวเองที่จะรักเธอดู”
ได้ยินดังนั้น พ่อของฉันก็หยุดการกระทำของเขา เขายกแก้วขึ้นมาแล้วทำท่าเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างได้
“เธอคือคนที่บริจาคไตให้กับลูก ในตอนนั้น ลูกป่วยหนักมาก และก็ไม่สามารถหาผู้บริจาคไตที่จะเข้ากับไตของลูกได้” เขาอธิบาย “ในตอนท้าย เธอก็…. แคโร ลูกต้องคิดให้ถี่ถ้วนนะ หลังจากที่ลูกรับตำแหน่งดยุคไว้เเล้ว ลูกจะต้องยกเลิกสถานะพลเมืองของลูกนะ”
“ใช่ค่ะ หนูรู้”
มันคงจะเป็นวิธีสุดท้ายที่จะละทิ้งสถานนะพลเมืองของฉัน ฉันมีความคิดว่า
“บางทีอาจจะมีวิธีอื่นนะคะ”
“มีวิธีไหนอีกเหรอ?” พ่อถามกลับ
“แม่อยากจะยกตำแหน่งดยุคมาให้หนูเพื่อสืบถอดอำนาจ อย่างไรก็ตาม หนูสามารถมอบมันให้กับเบลล่าหรือราฟได้ พวกเขาคือลูก ๆ ของหนู อำนาจของพวกเขาก็มีค่าเท่ากับอำนาจของหนู”
ฉันสามารถโน้มน้าวแม่ให้มอบตำแน่งดยุคมาให้กับลูก ๆ ของฉันได้
พ่อของฉันจึงถามคำถามตรง ๆ ออกมา
“งั้นลูกคนไหนที่จะรับตำแหน่งของดยุคล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ