หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก นิยาย บท 4

เวินซื่อที่โซเซจนไปชนกับมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็เม้มริมฝีปากแน่น

ชาติที่แล้วนางเสียรู้ในน้ำมือของเวินเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนั้น ตอนนี้แค่เห็นเวินเยวี่ยทำท่าทางเช่นนี้ เวินซื่อก็รู้ว่านางจะเล่นตุกติกอะไรอีกแล้ว

นางหยิบชุดพิธีการที่ร่วงลงพื้นขึ้นมา

“ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าทำอะไรถึงทำให้น้องหกมีปฏิกิริยายกใหญ่เช่นนี้ ไม่สู้รบกวนน้องหกอธิบายให้ข้าเถิด”

“เจ้าทำอะไรไว้เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!”

ไม่รอให้เวินเยวี่ยเอ่ยวาจา เวินจื่อเฉินก็ตวาดใส่นางเสียงดุดันก่อน

แววตาของเวินซื่อเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนนางยังดูไม่ออก ตอนนี้นางรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินช่างตาบอดจริง ๆ

อยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา ใครทำอะไร ใครไม่ได้ทำอะไร เขามองไม่เห็นเองทั้งนั้น

บางทีต่อให้เห็น เขาก็แค่เชื่อคำพูดของคนผู้เดียว

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างอำมหิตแวบหนึ่งแล้วตบไหล่เวินเยวี่ยเบา ๆ ปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “น้องหกไม่ต้องกลัวนะ มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่รอง ไม่ว่าอย่างไร พี่รองก็จะตัดสินแทนเจ้าเอง”

ทั้งสองคนมีท่าทางแทบจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

แต่เวินจื่อเฉินกลับเหมือนไม่สังเกตเห็นเลย เขาไม่เก็บงำเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาที่เหมือนกับลูกกวางของเวินเยวี่ยแดงระเรื่อ “พี่รอง ขะ...ข้าเจ็บมากเลย”

แต่ไหนแต่ไรมาเวินเยวี่ยก็รู้ว่าจะหลอกล่อพี่รองที่ใจร้อนหัวทึบตรงหน้านี้อย่างไร

นางไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนมากมาย แค่ใช้สามคำก็เพียงพอที่จะกระตุ้นโทสะของเวินจื่อเฉินแล้ว

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจไร้ที่พึ่งของเวินเยวี่ย เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

เขานึกได้ว่าเมื่อกี้เวินเยวี่ยสัมผัสชุดพิธีการถึงได้จู่ ๆ ร้องด้วยความเจ็บปวด ดังนั้นเขาพลันปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างที่เขาคิดไว้สมอง...

“เพียะ!”

ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเวินซื่อ

“ดีมากเวินซื่อ ข้ายังนึกว่าเจ้าตกลงมอบชุดพิธีการให้น้องหกเป็นเพราะกลับตัวกลับใจแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้ เล่นตุกติกบนชุดพิธีการ!”

แก้มซ้ายถูกตบจนแสบร้อนทำให้เวินซื่อกัดฟันกรอด ความเคียดแค้นชิงชังพรั่งพรูขึ้นมาในใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นางจะต้องออกจากสกุลเวินให้ได้

หากอยู่ที่นี่ ไม่ว่านางทำสิ่งใด ทุกคนก็จะเข้าข้างเวินเยวี่ย

มีเพียงออกไปจากสกุลเวิน นางถึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้

แต่ว่าก่อนหน้านั้น นางยังต้องทำพิธีปักปิ่นของวันนี้ให้จบ

เนื่องจากยังมีสัญญาหมั้นหมายบัดซบนั่นรอนางอยู่ในพิธีปักปิ่น

ส่วนเรื่องที่เวินจื่อเฉินบอกว่าไม่ให้นางเข้าร่วมพิธีปักปิ่น...

เหอะ ต่อให้เขาเป็นคุณชายรองของจวนกั๋วกง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขาสามารถตัดสินใจเองได้ในจวนกั๋วกงแห่งนี้

คนทั้งเมืองหลวงต่างรู้ว่าวันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีบุตรสาวสองคนกำลังจะจัดพิธีปักปิ่น หากนางไม่ปรากฏตัวจะต้องก่อให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ นานาจากภายนอกอย่างแน่นอน

และท่านกั๋วกงผู้นั้นของนางคงไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

เวินซื่อหยุดคิดแล้ววางชุดพิธีการลงบนโต๊ะ

“หากพี่รองคิดว่าชุดพิธีการมีปัญหาก็ตรวจสอบได้ตามใจชอบ”

นางไม่อยากสิ้นเปลืองคำพูดกับอันธพาลหูหนวกตาบอดที่เอาแต่วู่วามทำร้ายคนแล้ว

เวินซื่อกล่าวจบก็หันตัวเดินเข้าไปในห้อง ค้นหาชุดสีฟ้าครามเรียบ ๆ ออกมาจากในตู้เสื้อผ้า

ในขณะเดียวกัน เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้างนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น

“ฮึ ได้สิ ตรวจสอบก็ตรวจสอบ หากข้าพบว่าเจ้าเล่นตุกติกกับชุดพิธีการนี้จริง ๆ เจ้าก็รอข้าจัดการเจ้าอย่างหนักได้เลย!”

ครู่ต่อมา

บทที่ 4 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก