หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 209

ไม่นานประตูก็แง้มเปิดอกมา

เด็กสาวที่ย้อมผมสีทอง ผูกผมแกะสองข้าง ไว้ผมหน้าม้าก็ชะโงกหัวออกมา

เด็กสาวเอียงหัวพลางมองเขา และยิ้มอย่างสดใส ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความใสบริสุทธิ์ ลักยิ้มที่งดงามมุมปาก ทำให้เธอมองดูแล้วน่ารักเป็นพิเศษ

“ทำไมนายมาช้าจัง?” เธอพูดบ่น น้ำเสียงหวานใส

“ฉันมีธุระ ทำไมย้อมผมสีนี้? ดูไม่ได้เลย......” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ขมวดคิ้วด้วยสีหน้ารังเกียจ

ถึงแม้สายตาจะดูรังเกียจ แต่ท่าทีกับนัยน์ตาของเขานั้นอ่อนโยนสุดๆ

หญิงสาวเปิดประตูออกจนหมด และมองบนใส่เขา “ปีนี้สีนี้เป็นที่นิยมมั้ยล่ะ? ไม่มีเทสเอาซะเลย”

“อ่าๆๆ ...... ฉันไม่มีเทส โอเคแล้วใช่มั้ย?” พูดจบ เขาก็ลูบผมของเธออีกครั้ง และก้าวเท้าเข้าห้องไป

หญิงสาวเดินตามมาติดๆ และนั่งลงบนโซฟากับเขา

หลังจากนั้นเธอก็นั่งไขว่ห้างอย่างเป็นธรรมชาติ และหยิบอมยิ้มอันนึงขึ้นมาแกะ แล้วยื่นให้เขา “กินมั้ย?”

“ฉันไม่เอา” แทนไทพูด

“พี่ไม่ได้บอกแม่ ว่าฉันกลับมาแล้วใช่มั้ย?” เธอกะพริบตาใสปริบๆ และถาม

“ถ้าหากพี่บอกแม่ล่ะก็ ตอนนี้เธอยังจะหายใจได้อย่างอิสระแบบนี้มั้ย?”

“ก็นั่นสิ คงถูกห่อส่งกลับประเทศ J ไปนานแล้ว” เธอยู่ปาก และพูดอย่างน่าสงสาร

“พี่ห้าแหละดี ฉันบอกว่าจะโดดเรียนกลับมาเที่ยว พี่ห้ายังไม่ด่าฉันเลย......” เธอพลางกินอมยิ้ม พลางพูด

“ฉันด่าเธอไป เธอก็จะไม่โดดเรียนงั้นเหรอ?ธนิดา” แทนไททำหน้าเอือมๆ

“นั่นก็ใช่......” ธนิดายิ้มฮี่ๆ ลักยิ้มที่น่ารัก ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ด้านในราวกับมีแอลกอฮอล์ของไวน์ อ่อนหวานทำคนมึนเมา

“เมื่อกี้ฉันโทรหาพี่หก บอกว่าฉันกลับมาแล้ว พี่หกบอกว่าคืนนี้จะกลับมาหาฉัน คืนนี้ไปเที่ยวผับด้วยกันกับพวกเรา......”

“รู้แล้ว” แทนไทตอบอย่างไม่ต้องคิด

“พี่ห้า อีกแป๊บนึงฉันจะไปเล่นเกมที่ร้านเกม พี่ไปด้วยมั้ย?”

“ไม่ไป......” แทนไทขมวดคิ้ว “เธออยากเล่นเกม ฉันจะให้แล็บท๊อปที่ดีที่สุดกับเธอ”

ร้านเกมที่แบบนี้มีแต่ควันบุหรี่ เขาไม่อยากไป

“โห่ว วันนี้ฉันอยากไปร้านเกม” ธนิดาจิ้มแขนของเขาเบาๆ และพูดอ้อน

“ตอนบ่ายฉันยังมีงานอยู่ เธออยากไปก็ไปเอง ฉันให้คนแอบคอยปกป้องเธอ” ท่าทีของแทนไทนั้นหนักแน่น

“ตอนบ่ายพี่ทำงานได้ แต่ว่าตอนกลางคืนพี่ต้องไปเป็นเพื่อนฉัน”

“รู้แล้วน่า” แทนไทลูบผมของเธออีกครั้ง ในใจก็อดจะถอนหายใจไม่ได้ เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ยังจำได้ว่าตอนที่เธอเข้ามาตระกูลพัฒนาวรวงศ์ เพิ่งจะอายุเจ็ดขวบ เป็นแค่เจ้าตัวเล็กคนนึง

เพียงแป๊บเดียว ชั่วพริบตา ก็กลายเป็นสาวสะโอดสะองไปแล้ว

“แล้วก็พี่อย่าส่งคนตามฉันนะ” ธนิดาพูดขึ้นอีก “ฉันไม่ชอบให้คนเป็นกองตามติดฉัน ฉันอึดอัด”

“งั้นก็ได้......มีเรื่องอะไรโทรหาพี่”

“อื้ม......ฉันได้ยินแม่พูดเรื่องพี่กับพี่สะใภ้แล้วนะ......พี่ห้า ตอนนี้พี่กับพี่สะใภ้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ?” ธนิดาทำหน้าตาสนใจมากๆ

“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆ ถามให้น้อยๆ หน่อย”

“ขอโทษค่ะ ไม่ได้” ธนิดาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

กลุ่มคนพวกนี้มองดูก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลง เธอไม่คิดอยากจะคุยกับพวกเขาเลย

โดนแบบนี้เด็กหนุ่มหัวทองนั้นก็หัวร้อนขึ้นมาทันที และชี้ไปทางธนิดาพลางพูด “ฉันเตือนไว้เลยนะ พูดดีด้วยไม่สนชอบให้ใช้กำลัง...... เธอลองถามคนรอบๆ นี้ดู ว่าพวกฉันนั้นเป็นใคร...... ที่ร้านเกมนี้ ไม่มีใครกล้าหือกับพวกฉัน”

“ถ้าเธอฉลาดล่ะก็ ให้ที่ว่างคอมพวกนี้ซะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เจอดีแน่” เด็กหนุ่มหัวทองพูดขึ้นอีกครั้ง

“นายจะให้ฉันเจอดียังไง?” ธนิดายกยิ้มอย่างดูแคลน จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน สายตาเย็นชาลงทันที เท้าถีบไปข้างหลัง ถีบเก้าให้กระเด็นออกไปไกล

“หึ......น่าสนุกดีนี่ อยากจะลงไม้ลงมือใช่มั้ย? ก็ดีนี่ วันนี้พวกพี่ชายจะให้น้องได้ลิ้มรสหมัด......โอ๊ย......”

เด็กหนุ่มหัวทองยังไม่ทันได้พูดจบ ธนิดาก็ยกเท้าขึ้น และเตะไปทางบริเวณจุดสำคัญของเขาอย่างแรง

วินาทีนั้น หน้าของเด็กหนุ่มหัวทองก็ขาวซีด และล้มลงไปนั่งกับพื้น กุมบริเวณตรงนั้นของตน พลางร้องโอดครวญ พลางชี้ไปที่ธนิดา“แก......แกช่างกล้าดีนัก เห้ยพวกลุยแม่ง......”

ธนิดามองบนใส่ จากนั้นมือทั้งสองข้างก็ประสานกัน วอร์มข้อมือเล็กน้อย

ไม่นานเด็กหนุ่มหลายคนก็พุ่งเข้ามาพร้อมกัน......

ธนิดากลับเตะพวกเขาเรียงตัวทีละคน ล้มลงอย่างง่ายดาย

ท่วงท่าไม่เยอะและเฉียบคม ราวกับเตะไปคนละที แต่ทุกๆ การเตะล้วนเตะไปที่จุดสำคัญของพวกเขาพอดี

ไม่นาน เด็กหนุ่มหลายคนก็ลงไปกองรวมกันบนพื้น กุมบริเวณตรงนั้นเอาไว้ เจ็บแบบจุก

เหตุการณ์นี้ ทำเอาคนรอบข้างทั้งหมดถึงกับช็อก

ธนิดาขยับคอของเธออย่างใจเย็น พลางกดสายตาลงมองพวกเขา “พวกกลุ่มไก่อ่อน ต่อสู้ได้สักคนยังไม่มี”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว