หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 5

บนกระดาษมีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน ที่ชลิตาติดสินบนแอคปล่อยข่าวปลอม ให้ข้อมูลใส่ร้ายต่างๆนานา

บันทึกการสนทนาที่บอกว่าชัชนันท์หนีไปกับคนอื่น รวมถึงภาพสลิปโอนเงินต่างๆ

ของพวกนี้ยิ่งเพิ่มความเดือดดาลในอกของวันชัย

สีหน้าของวันชัยเคร่งขรึมมากขึ้น ตะโกนไปทางนอกประตู "เด็กๆ ไปหยิบแส้มาให้ฉันที!"

แค่ได้ฟัง ชลิตาจึงลนลานขึ้นมาทันที "พ่อ......พ่อ......พ่อจะทำอะไรคะ?"

วันชัยหน้านิ่งไม่พูดไม่จา

หทัยจับมือของวันชัยไว้แน่น "คุณคะ ตาแขนขาเล็กนิดเดียว จะทนโดนแส้ฟาดได้ยังไง? อย่าเลยนะคะ"

เธอเพิ่งพูดจบ บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ถือแส้เข้ามา เดินไปถึงด้านหน้าของวันชัย

วันชัยหยิบแส้ขึ้นมา โดยไม่พูดไม่จา แล้วฟาดไปที่ชลิตาอย่างแรง

ความหวาดกลัวที่กำลังแผ่ซ่าน ทำให้ชลิตาหลบอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแส้ยังคงฟาดลงไปที่หลังของเธออยู่ดี

ความเจ็บปวดแสบร้อน ทำให้ชลิตาน้ำตาคลอเบ้า

หทัยรีบกอดชลิตาไว้แน่น ร่ำไห้พูดขึ้น

"คุณ ตามันก็รู้ตัวแล้วว่าทำผิด ถ้าคุณต้องตีใครสักคนหนึ่งถึงจะระบายความโกรธได้ งั้นคุณก็ตีฉันเถอะ!"

วันชัยยกมือขึ้นอีกครั้ง แต่หทัยกลับยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

ท้ายที่สุด แส้ของเขาจึงยกค้างอยู่กลางอากาศ

เขามองชลิตาด้วยความโมโห จากนั้นจึงมองมาที่ใบหน้าของหทัย ตำหนิออกมา "เพราะคุณตามใจทั้งนั้นแหละ!"

พูดจบก็หมุนตัวขึ้นข้างบนไปเลย

สถานการณ์อย่างนี้กลับเป็นสิ่งที่ชัชนันท์คาดการณ์ไว้แล้ว

ถึงยังไงสำหรับพ่อแล้ว ก็ตีลูกไม่ลงอยู่ดี เรื่องพวกนี้ไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เขาลงไม้ลงมือกับชลิตาจริงๆหรอก

ชัชนันท์มองชลิตากับหทัยอย่างไม่ใส่ใจ แล้วก้าวเท้าขึ้นไปข้างบน

แต่ทว่า เพิ่งจะเดินขึ้นบันไดไปได้สามสี่ขั้น เสียงของชลิตาก็ดังขึ้น "ชัชนันท์ เธอรอเดี๋ยว"

ชัชนันท์รู้ว่าเธออยากจะพูดอะไร จึงไม่สนใจสักนิด เดินขึ้นข้างบนต่อ

"เธอเห็นหรือยัง? พ่อรักฉันมากกว่าอย่างชัดเจน ต่อให้เธอเปิดโปงความจริงแล้วไงล่ะ? พ่อก็ฟาดฉันแค่ทีเดียว" ชลิตาเยาะเย้ยแววตาเต็มไปด้วยความอวดดี

พูดจบ เธอก็เดินขึ้นไปสูงกว่าชัชนันท์หนึ่งขั้น เชิดคางเล็กน้อย กอดอก ชำเลืองมองหน้าของชัชนันท์อย่างเย็นชาพูดขึ้น:

"ต่อให้เธอไม่ยอมรับ ฉันก็รู้ว่าที่เธอกลับมาคราวนี้ก็เพื่อแก้แค้น"

"แต่ชัชนันท์......อย่าฝันไปเลย เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก"

"ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ฉันทำเรื่องแค่นิดเดียว มันถึงขั้นที่เธอต้องดึงคนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยงั้นเหรอ?"

"เธอขี้เหร่ขนาดนั้น โดนแย่งแฟนก็สมควรแล้วไง ต่อให้ฉันไม่แย่ง ก็ต้องมีคนอื่นมาแย่งอยู่ดี"

"ส่วนที่พี่วินทิ้งเธอ ก็สมน้ำหน้าเธอเช่นกัน บริจาคไตพังๆแค่อันเดียว เธอก็คิดจะให้เขาอยู่กับคนขี้เหร่อย่างเธอไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?"

"ชัชนันท์ทำไมเธอถึงหน้าไม่อายขนาดนั้น?"

ชลิตากัดฟันพูดออกมาทีละคำๆ แววตาเต็มไปด้วยความอวดดี

คำพูดที่กรอกเข้ามาในหู ราวกับตะปูที่ทิ่มเข้าไปในแก้วหูทีละตัวๆ ทัศนคติสามด้านที่บิดเบี้ยว จิตใจที่โหดร้ายของคนตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน

เธอขี้เกียจฟังชลิตาพูดจาไร้สาระ จึงเมินเธอ เดินขึ้นไปข้างบนทันที

......

เวลาสองทุ่ม ชัชนันท์เดินเข้าไปในห้องฝนพรำของโรงแรมสวีทดรีมอย่างตรงเวลา

ตอนนี้ธันวามาถึงแล้ว กำลังนั่งพิงอยู่ที่หน้าต่าง พิงขอบหน้าเล่นมือถือด้วยความเบื่อหน่าย

สูทผ้าซาตินสีแชมเปญใส่คู่กับเสื้อยืดสีขาวและรองเท้าผ้าใบ มอบความรู้สึกที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนให้กับคนที่ได้เห็น

ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ทั้งหล่อทั้งสวย บนร่างกายเต็มไปด้วยพลังของเด็กหนุ่ม ราวกับเป็นผลงานศิลปะชั้นสูงที่ประเมินค่าไม่ได้

วินาทีนี้ตรงหน้าเธอกลับปรากฏเงาของผู้ชายในโรงแรมคนนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว

เนื่องจากเขามีบางตำแหน่งที่คล้ายๆกับผู้ชายคนนั้นนิดหน่อย

เพียงแต่ผู้ชายคนนั้นเย็นชาจนทำให้เธอไม่กล้าเข้าใกล้ แต่จากบนร่างของธันวากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสนิทใจ ที่เหมือนเป็นพี่ชายข้างบ้าน

เมื่อเห็นชัชนันท์ ธันวาจึงเดินเข้ามาทันที เป็นฝ่ายยื่นมือออกไปหาเธอยิ้มพูดขึ้น "คุณนันท์ ได้ยินกิตติศัพท์ของคุณมานานแล้วครับ"

"ทำงานกับคนสวยๆ คงสบายใจกว่าไม่ใช่เหรอครับ?" ธันวาพูดต่อ

"ความสำคัญของหน้าตาก็เป็นเหตุผลที่เอื้อประโยชน์งั้นเหรอคะ?" ชัชนันท์พูดขำๆ

"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ขอถามชื่อเต็มของคุณนันท์ได้ไหมครับ?" ธันวาถาม

"ชัชนันท์ค่ะ ที่แปลว่า นักรบผู้มีความสุข"

"ชื่อเพราะดีนะครับ"

"ขอบคุณค่ะ เรากลับมาเข้าเรื่อง คุยเรื่องงานเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้นลินประธานกรรมการของบริษัทเป็นคนดูแลคุณด้วยตนเอง ต่อไปเธอจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณ ส่วนผู้ช่วย คุณจะให้คนเดิมของคุณมาจัดการ หรือให้บริษัทช่วยจัดการให้คุณก็ได้ค่ะ"

"ผมพาคนเดิมของผมมาแล้วกันครับ เธออยู่กับผมมาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียงกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ไม่ง่ายเลย" ธันวาพูด

"คุณกลับเป็นคนที่ไม่ลืมมิตรภาพเก่าๆเลยนะคะ" ชัชนันท์พูด

ธันวาแค่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบกลับ

"งั้นเดี๋ยวเรากินข้าวกันก่อน กินไปคุยเรื่องค่าตอบแทนของคุณไปด้วยแล้วกันนะคะ" ชัชนันท์พูดต่อ

......

ธันวาเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากๆ แค่คุยกันสั้นๆครึ่งชั่วโมง เธอก็เซ็นสัญญากับเขาได้สำเร็จ

กินข้าวเสร็จ ชัชนันท์จึงรีบกลับมาที่มาเซราติสีแดงของตนเอง

กำลังเตรียมจะสตาร์ทรถ จู่ๆประตูรถก็โดนใครบางคนเปิดออก กลิ่นคาวเลือดปะทะเข้ามาที่จมูกอย่างฉับพลัน----

แล้วน้ำเสียงที่ทั้งเย็นชาทั้งคุ้นหูก็ดังขึ้น "ออกรถ!"

ชัชนันท์จึงลนลานขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หันไปมองคนพูด ตอนที่เห็นใบหน้านั้น เธอถึงได้งุนงงขึ้นมาทันที......

คนๆนี้ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นที่เคยนอนกับเธอเหรอ?

แสงไฟถนนสลัวๆที่ทะลุผ่านกระจกรถสาดเข้ามาบนร่างของเขา ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาดูซีดเผือด

บนเสื้อเชิ้ตสีขาวเต็มไปด้วยเลือด เขาหายใจค่อนข้างแรง

ดูท่า เขาคงเป็นมาเฟียจริงๆสินะ ดูจากสถานการณ์ของเขาคงจะโดนศัตรูลอบทำร้ายมาใช่ไหม?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว