หทัยไฟโกรธลุกโชน หันหน้ามองไปที่นักโทษหญิงหัวล้านที่ผลักตัวเอง"นี่แกทำอะไร?"
"ตบแกไง ยังจะถามอีก? ถูกขังอยู่ในนี้แท้ๆ ยังคิดจะออกไปรังแกคนอื่นอีก แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร"
หทัยอยากจะพูดออกไปว่า:แล้วแกเป็นคนดีมากนักหรือไง?
แต่สุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้ หันหน้าไปอย่างนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ทำงานของตัวเองต่อ
"ฉันได้ยินมาว่าพวกแกสองคน คนหนึ่งเป็นแม่เลี้ยงขยะของชัชนันท์ คนหนึ่งเป็นน้องสาวขยะต่างมารดาของชัชนันท์สินะ"
"เรื่องเหล่านั้นของตระกูลพวกแก แพร่กระจายมาถึงพวกเราที่นี่แล้ว ทุกคนล้วนแต่บอกว่าพวกแกสองคนก็เป็นตัวการอยู่เบื้องหลังที่สร้างข่าวลือว่าพาราวิหคมีปัญหากันทั้งนั้น"
"ไอ้หมาสองตัว จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ แถมยังคิดที่จะทำร้ายคนอีก!"
พูดจบนักโทษหญิงหัวล้านก็ถกแขนเสื้อขึ้นมาตรงๆ ลุกขึ้นยืน มองสองคนแม่ลูกอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย ท่าทางอยากจะฆ่าคน
"เรื่องในตระกูลของพวกเรา ทำไมแกต้องมายุ่งด้วย? หรือว่าแกรู้จักชัชนันท์?"ชลิตาหนังหัวเริ่มรู้สึกชาด้วยความกลัว ย้ายตัวไปริมๆโดยสัญชาตญาณทันที ก่อนจะพูดถามออกมาด้วยความสั่นกลัว
"ไม่รู้จัก แต่ฉันเห็นข่าวแล้วรู้สึกว่าชัชนันท์ดูเป็นคนดี เห็นแวบแรกก็รู้ว่าเป็นคนประเภทที่ถูกพวกแกกลั่นแกล้งรังแกแน่ๆ ฉันก็เลยรู้สึกไม่สบอารมณ์ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ!"นักโทษหญิงหัวล้านพูดจบก็ยกเท้าขึ้น เตะไปที่พวกเธอสองแม่ลูกคนละที
จากนั้นนักโทษหญิงหัวล้านก็ลงมานั่งบนตัวของหทัย ตบไปที่หน้าของเธอตบแล้วตบอีก
ฝ่ามือตบเร็วมาก ดังมาก ไม่กี่วินาทีหน้าของหทัยก็บวมปูดออกมาเหมือนกับหมั่นโถว
ชลิตาตะโกนออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่งทันที"ช่วยด้วย!ใครก็ได้ช่วยที!"
จากนั้น เธอก็คว้าคอเสื้อของนักโทษหญิงหัวล้านเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามดึงเธอลงมา
แต่แรงไม่พอ อีกฝ่ายมั่นคงไม่ไหวติง!
วินาทีต่อมา นักโทษหญิงหัวล้านก็พลิกมือตบไปที่หน้าของชลิตาเข้าอย่างจัง"ดูท่าคงจะอยากใส่ชุดเจ้าสาวทั้งที่หน้าบวมเขียวจริงๆสินะ ไม่เป็นไร ฉันจะเติมเต็มให้สมดั่งใจแกเอง"
วินาทีต่อมา ชลิตาก็ถูกตบจนล้มไปกองกับพื้น เลือดไหลออกมาจากมุมปาก
เธอทั้งโกรธทั้งกระวนกระวาย อยากที่จะคลานไปสู้กับเธอ แต่กลับพบว่าข้อมือขวาของตัวเองแพลงแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่กล้าขยับเขยื้อนเท่านั้น แต่ยังเจ็บจนถึงกระดูกอีกด้วย
"อา......"ชลิตาอดไม่ได้ที่จะร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า
นักโทษหญิงหัวล้านไม่สนใจเธออีก ตบไปที่หน้าของหทัยอย่างต่อเนื่อง
หทัยถูกตบจนกรีดร้องตะโกนขอความช่วยเหลือไม่หยุด
ไม่นาน ประตูเหล็กก็ถูกคนเปิดออก......
ผู้คุมเรือนจำหญิงยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าเย็นชา พูดดุด่าออกมาอย่างเยือกเย็น"ทำอะไรกัน? หยุดเดี๋ยวนี้!"
นักโทษหญิงหัวล้านถึงได้หยุดการกระทำลง ลุกออกมาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ถุยน้ำลายใส่หน้าของชลิตาไปหนึ่งที ก่อนจะเดินกลับไปยังที่ของตัวเอง
ชลิตาพยายามใช้มือขวาเช็ดออกอย่างขยะแขยงทันที แต่พอยกมือขึ้นมา ก็เจ็บจนหนังหัวชาไปหมด
ดังนั้นเธอก็เลยเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายแทน เช็ดน้ำลายออกไปอย่างรวดเร็ว
มีแค่น้ำลายเท่านั้นที่ถูกเช็ดออกไป แต่กลิ่นคาวของน้ำลายยังคงอยู่ เธอที่รู้สึกขยะแขยงท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
หทัยคลานขึ้นมาอย่างร้องห่มร้องไห้ มองผู้คุมเรือนจำหญิงพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความคับข้องใจรู้สึกไม่ยุติธรรม"รีบเปลี่ยนที่ให้ฉันเถอะ ฉันรับไม่ไหวแล้ว"
"ใช่ๆ ไหนจะข้อมือขวาของฉันที่ดูเหมือนจะกระดูกแล้วด้วย รีบพาฉันไปให้หมอตรวจเร็วเข้า"ชลิตาร้องไห้พลางพูดขึ้น
"อย่าพล่ามไร้สาระ รีบทำงานต่อซะ!"อีกฝ่ายพูดอย่างเย็นชา จากนั้นก็มีเสียง"ปัง"ขึ้น ประตูเหล็กถูกปิดไปอย่างแรง
ทั้งสองคนแม่ลูกถูกผลักตกลงไปในหุบเหวแห่งความสิ้นหวังอีกครั้ง
"เห้ย ไม่ได้ยินเหรอ? ข้อมือขวาของฉันดูเหมือนกระดูกจะหักแล้วนะ? รีบพาฉันไปโรงพยาบาลเร็วเข้า!"
วินาทีต่อมา ตรงหน้าต่างที่อยู่บนประตูเหล็กก็ถูกเปิดออก ผู้คุมเรือนจำหญิงคนนั้นมองเธอพร้อมกับพูดขึ้น"รีบทำงาน อย่าหาข้ออ้าง!ถ้าทำไม่เสร็จก่อนฟ้ามืด พรุ่งนี้จะเพิ่มทวีคูณ!"
"ปึง......"หน้าต่างก็ถูกปิดไปเช่นกัน ผู้คุมเรือนจำหญิงหายวับไปจนไม่เห็นเงา
"รีบทำงานเร็วเข้าสิ ไม่อย่างนั้นโดนอีกแน่!"นักโทษหญิงหัวล้านพูดดุด่าออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น!
"สมองแกมีปัญหาเหรอ? ฤดูหนาวแบบนี้แกจะให้พวกเราแข็งตายหรือไง?"ชลิตาตะโกนเสียงดังออกมาอีกครั้ง เส้นเลือดที่คอปูดนูนออกมา
"ใช่ไง"นักโทษหญิงผมทรงลานบินสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน
"รีบนั่งลงทำงานเดี๋ยว!ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายซะ!!!"นักโทษหญิงหัวล้านเดินเข้ามาตรงๆ คว้าผมยาวๆของชลิตาเอาไว้อย่างแรง สีหน้าท่าทางเหี้ยมโหดดุร้าย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ก้นกับข้อมือของเธอบาดเจ็บมากขนาดไหน ต่อให้ไม่เป็นอะไร ฤดูหนาวที่หนาวขนาดนี้ ให้นั่งลงตรงนี้ก็เหมือนกับถูกทรมานไม่ต่างกัน
แต่เนื่องจากความน่าเกรงขามของนักโทษหญิงหัวล้าน ชลิตาจึงต้องฝืนกลั้นความเจ็บปวดนั่งลงไปบนเบาะที่เย็นยะเยือกนี้ แล้วก็เริ่มปักลายต่อ
ทุกครั้งที่ขยับ ข้อมือก็จะเจ็บปวดไปถึงสมอง แต่เธอกลับทำได้แค่กัดฟันอดทนเอาไว้ ความรู้สึกคับข้องไม่ยุติธรรมภายในใจไม่รู้ว่าจะไปบอกกับใครดี
ความหนาวเย็นที่แสนเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย เธอรู้สึกหนาวเย็นจนสั่น
หทัยรู้สึกสงสารเอ็นดูจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ตรงเข้าไปตบประตูอย่างบ้าคลั่ง"มีใครอยู่ไหม? ช่วยลูกสาวของฉันด้วย!ช่วยพวกเราด้วย!"
แต่ไม่ว่ายังไง ก็ไม่มีการตอบกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นภรรยาที่แต่งงานกับสามีร่ำรวยมานานหลายปีขนาดนี้ เธอปฏิบัติต่อคนอื่นตามอำเภอใจของตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเธอก็จะเย่อหยิ่งทะนงตัวอยู่ตลอด
แต่ในเวลานี้กลับแตกต่างออกไป เธออยู่ที่นี่กลับได้มาลิ้มรสความรู้สึกของการที่เรียกใครก็ไม่มีใครหัน ขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่มีใครช่วย
สวรรค์กับนรกอยู่ห่างกันแค่นิดเดียวเท่านั้น
ชัชนันท์นังชั้นต่ำ!ฉันไม่มีทางปล่อยแกไปแน่นอน!
เธอตบประตูอยู่นานสองนาน ไม่มีใครสนใจเธอเลย เธอเริ่มร้องไห้ปล่อยโฮออกมาด้วยความสิ้นหวัง
นักโทษหญิงหัวล้านกระโจนมาอยู่ข้างหลังของเธอด้วยสีหน้าหมดความอดทน ดึงผมของเธอเอาไว้อย่างรุนแรง กระชากผมของเธอลากเธอเดินกลับมาที่เบาะ ระหว่างทางหทัยดิ้นรนขัดขืน ร้องตะโกนอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย อีกฝ่ายแรงเยอะเหมือนวัวเหมือนควาย เธอสู้ไม่ได้เลยสักนิด
ไม่นาน เธอก็ถูกโยนมาบนเบาะที่เย็นยะเยือก
นักโทษหญิงหัวล้านพูดสั่งออกมาอย่างโหดเหี้ยม"รีบทำงาน!ขืนยังแหกปากอีกจะฆ่าพวกแกสองแม่ลูกทิ้งซะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...