หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 78

ทั้งหกคนล้อมพวกเขาเอาไว้เป็นวงกลม แต่ละคนต่างมีสีหน้าท่าทางโหดเหี้ยมดุร้าย

"ลุยพร้อมกัน!ฆ่าไอ้หมอนี่ให้ตายซะ!"ชายกำยำหัวล้านคนหนึ่ง จ้องแทนไทตาเขม็ง พร้อมกับพูดตะโกนออกมา

ไม่มีกะจิตกะใจที่จะคิดพิจารณาอะไรมากมาย ชัชนันท์ดึงเสื้อตัวนอกบนตัวของตัวเองออกอย่างปราดเปรียว ก่อนจะโยนให้กับแทนไท

จากนั้นก็กางแขนออกมาปกป้องเขาเอาไว้อยู่ข้างหลัง"คุณอยู่นิ่งๆอย่าขยับ พวกนี้ฉันรับมือได้"

ท่วงท่าการกระทำของเธอเร็วเหมือนกับดาวตก สายตาแน่วแน่มั่นคงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ไม่มีแล้วซึ่งท่าทีที่อ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้ ดูแล้วทั้งเท่ทั้งมาดแมน

เขารู้สึกว่าบางส่วนภายในใจของตัวเอง เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างมาสัมผัสเบาๆ

ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแล้วถูกผู้หญิงคนเดียวมาปกป้องแบบนี้

เขาคลุมเสื้อตัวนอกไว้ที่ตัวเธออย่างเงียบๆ"อยู่นิ่งๆอย่าขยับ ผมจะปกป้องคุณเอง"

เพิ่งจะพูดจบ แท่งเหล็กในมือของชายกำยำคนหนึ่งก็ฟาดลงมาที่หัวของเขา

เขาสงบนิ่งไม่ตื่นตระหนก เตะอีกฝั่งลอยกระเด็นไปอย่างง่ายดาย รวดเร็วไม่ถึงอึดใจเดียว แถมยังทรงพลังมีพลานุภาพ

วินาทีนั้น ชัชนันท์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับกำลังมองดูหนังแอ็คชั่นที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมอยู่เรื่องหนึ่ง ส่วนเขาก็เป็นพระเอกที่สมบูรณ์แบบในหนังเรื่องนั้น

ต่อมา คนอื่นๆก็พุ่งกระโจนเข้ามาหาเขา

เธอไม่สนใจอะไรมากมายแล้ว ถอดรองเท้าส้นสูงออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นถอดเสื้อสูทตัวโคร่งบนตัวออก แขนยาวๆโบกไปที่ชายกำยำคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ

วินาทีต่อมา เธอก็พุ่งกระโจนเข้าไปในวงต่อสู้ สู้เคียงไหล่กับเขา

พวกเขาทั้งสองคนเหมือนกับเสือชีตาห์ที่แสนว่องไวสองตัว เอาแต่โจมตีใส่ฝั่งตรงข้ามอย่างแม่นยำที่สุด

ฝีมือที่เก่งกาจของทั้งสองคนประสานรวมเข้าด้วยกัน คว้าตัวฝ่ายตรงข้ามแล้วจู่โจมไปอย่างง่ายดาย

ฝีมือของชัชนันท์ดีมากๆ ส่วนแทนไทนั้นดีกว่า เขาไม่ต้องออกแรงเยอะก็สามารถเตะคนสองคนให้ล้มกองไปกับพื้นได้อย่างง่ายดายในทีเดียว

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าฝีมือของเขาดีเกินไป ภายในใจของเธอก็เลยไม่รู้สึกตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว

ช่วงเวลาสุดท้าย ชายกำยำคนหนึ่งโมโหเกรี้ยวกราด แท่งเหล็กในมือฟาดลงมาที่ไหล่ของชัชนันท์อย่างแรง

แทนไทรีบงอแขนซ้าย ใช้ข้อศอกมาบังการโจมตีไว้ให้กับเธอทันที ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ เสน่ห์ของแฟนหนุ่มพุ่งขึ้นเต็มพิกัด

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เขาแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น

จากนั้นมือขวาก็คว้าแท่งเหล็กของอีกฝั่งเอาไว้ เตะลอยกระเด็นออกไปอย่างแรง

"คุณเป็นยังไงบ้าง?"ชัชนันท์พูดถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ในใจรู้สึกหวาดกลัว

"ไม่เป็นไร"เขาพูดออกมาอย่างง่ายๆสบายๆ ก่อนจะเข้าต่อสู้ไปพร้อมกับเธอต่อ

ช่วงระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงห้านาที ชายกำยำทั้งหกคนก็ล้มสยบอยู่แทบเท้าของทั้งสองคน นอนหดตัวร้องโอดโอยอยู่บนพื้น

แท่งเหล็กตกกระจัดกระจายบนพื้น กลิ้งไปกลิ้งมา เสียงที่แสบแก้วหูดังก้องไปทั่วทุกพื้นที่

ทั้งสองคนยืนเคียงไหล่กัน แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

ราวกับว่าโลกทั้งใบอยู่แทบเท้าของพวกเขา

สายตาของเขากวาดมองไปที่เหล่าชายกำยำอย่างเย็นชา จากนั้นก็เก็บเสื้อตัวนอกขึ้นมาจากพื้นแล้วสะบัดอย่างใจเย็น ก่อนจะคลุมไว้ที่ตัวของเธอ"ฝีมือไม่เลวเลยนี่"

"คุณก็ด้วย"ชัชนันท์ยิ้มเล็กน้อย

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ก้มตัวลงเก็บแท่งเหล็กขนาดใหญ่จากพื้นมาหนึ่งอัน แท่งเหล็กยาวมาก เขาถือเอาไว้ในมือ ปลายแท่งเหล็กสัมผัสกับพื้นพอดี

แทนไทก็ถือแท่งเหล็กเอาไว้แบบนี้ ก้าวขาเรียวยาวเดินไปทีละก้าว ตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของชายกำยำหัวล้านที่หน้าบวมเขียวไปหมด

ปลายแท่งเหล็กเสียดสีกับพื้น เกิดเสียงที่แสนเยือกเย็นขึ้น ให้ความรู้สึกขนลุกอย่างน่าหวาดกลัว

หน้าของเขาไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ปากไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่ทั้งตัวหัวจรดเท้ากลับมีไอความเย็นที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมา ราวกับเป็นนักฆ่าผู้สง่างามที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร

เห็นๆอยู่ว่าในมือถือแท่งเหล็กที่มีสนิมเกาะอยู่แท้ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนกับเขากำลังถือดาบที่แสนล้ำค่าอยู่

พอเห็นเขาที่เป็นแบบนี้ ชัชนันท์ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า เขาไม่เหมาะกับเส้นทางนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ชายกำยำหัวล้านถูกออร่าของเขาทำให้ตกใจกลัวจนสั่นเทาไปหมด พยายามที่จะลุกขึ้นมาแล้วหนีไปทันที แต่กลับทำไม่ได้

พอเห็นว่าเธอเท้าเปล่า เขาก็รีบก้มลงไป วางรองเท้าส้นสูงสีเงินที่ประณีตสวยงามเอาไว้ล่างเท้าของเธอ

จากนั้นก็ช่วยสวมรองเท้าให้กับเธออย่างระมัดระวัง

ทุกท่วงท่าล้วนแต่สง่างาม ราวกับกำลังทำความสะอาดให้กับของโบราณล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้น

แตกต่างเหมือนเป็นคนละกันกับตอนที่ต่อสู้

นิ้วมือของเขาราวกับมีกระแสไฟฟ้า ในเวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลจากข้อเท้าเข้าสู่ร่างกายของเธอ จนขึ้นมาถึงหัวใจได้อย่างชัดเจน

ยังคงรู้สึกเจ็บปวดที่ข้อศอกข้างซ้ายอยู่อย่างไม่หยุดไม่หย่อน เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง ขยับข้อศอกซ้ายเบาๆ

ชัชนันท์รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที"เจ็บข้อศอกมากเลยใช่ไหม? เอามาให้ฉันดูเร็วเข้า"

เขาพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ"ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวต้องรบกวนคุณช่วยขับรถให้ผมหน่อยนะ"

พูดจบ เขาก็ก้าวขึ้นรถ นั่งลงบนที่นั่งข้างคนขับ

ชัชนันท์รีบตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว นั่งลงบนที่นั่งคนขับทันที

ภายในรถกลิ่นหอมลอยละล่อง แสงสลัวเล็กน้อย

เธอเปิดไฟในรถทันที เข้าไปใกล้ๆตัวของเขา จับมือซ้ายของเขามาเบาๆ ปลดกระดุมข้อมือ พับแขนเสื้อขึ้นไปอย่างระมัดระวัง

ทั้งข้อศอกของเขาบวมออกมาเล็กน้อย ช้ำเขียวเห็นได้อย่างชัดเจน แค่เห็นก็รู้สึกเจ็บแล้ว เธอเห็นแล้วเจ็บหัวใจอยู่ไม่น้อย

ชัชนันท์ใช้นิ้วกดลงบริเวณที่ปูดบวมออกมาของเขา พร้อมกับพูดถามขึ้น"กดแบบนี้รู้สึกเจ็บแบบไหน?"

"เจ็บแบบทนได้"เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้านิ่งเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

เธอขยับข้อศอกของเขาเบาๆ ก่อนจะพูดถามขึ้น"แบบนี้ล่ะ?"

"ซี๊ด......แบบนี้เจ็บขึ้นมาไม่น้อยเลย"

ชัชนันท์ไม่ได้พูดอะไร ลูบที่ข้อศอกของเขาอย่างละเอียดหนึ่งรอบ สายตาจ้องมองวนที่ใบหน้าของเขาอยู่ตลอดเวลา สังเกตการเปลี่ยนแปลงสีหน้าอารมณ์ของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว