ในตอนนี้ ชัชนันท์รู้สึกว่าเขายิ่งเปล่งประกายเจิดจรัสมากขึ้น
ทุกประโยคที่เขาพูดล้วนแต่ช่วยระบายความโกรธของเธอทั้งหมด
เธอถึงขนาดที่รู้สึกว่า เขาในตอนนี้เหมือนกับร่มหนึ่งคัน ที่สามารถช่วยกำบังลมฝนทั้งหมดให้กับเธอได้
หลายปีขนาดนี้เธอไปมาหลายที่ เจอผู้คนมามากมาย แต่กลับไม่มีใครคนไหนที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้มากกว่าเขาเลย
หทัย ชลิตาสองแม่ลูกพอได้ยินว่าเข้าไปอยู่ในคุก ก็หนังหัวเริ่มชาด้วยความตกใจกลัวทันที
เพิ่งจะออกมาจากนรกบนดินแห่งนั้นมาได้ พวกเธอต่างก็รู้ดีว่าที่นั่นมันทุกข์ยากลำบากมากขนาดไหน
แถมไม่ต้องพูดถึงว่าเข้าไปแล้วลำบากขนาดไหน ต่อให้ไม่ลำบาก จะเข้าไปตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ดี
เรื่องยิ่งใหญ่โตขึ้น ก็มีแต่จะทำให้วันชัยรู้สึกไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
พวกเธอรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าทำยังไงมันก็น่าเวทนาทั้งนั้น
สายตาของคนรอบข้างยิ่งจ้องมองจนสันหลังของพวกเธอเริ่มหนาวเย็น
ความหยิ่งยโสที่ตัวของทั้งสองคน มอดดับลงทันที
หทัยสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที พยายามอดกลั้นความโกรธเอาไว้ในใจ มองแทนไทพร้อมกับพูดขึ้น"จะเอาแบบนี้ใช่ไหม?"
"......"
แทนไทกลับไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แค่จ้องมองพวกเธอสองคนอย่างเย็นชาเท่านั้น ท่าทางเหมือนกับว่าถ้ายังไม่ได้ดั่งใจก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
เห็นๆอยู่ว่าเขาไม่ได้พูดอะไร แต่รังสีที่ตัวกลับทำให้คนใจสั่นด้วยความกลัวอยู่ไม่น้อย
หทัยขมวดคิ้วแน่น ก้มหน้าลงด้วยความไม่เต็มใจ ฝืนพูดออกมา"ขอโทษ"
ผู้คนมากมายที่ล้อมวงดูอยู่ตรงนั้นก็กลอกตามองบนใส่หทัยอย่างอดไม่ได้
ผู้คนเอียงหัวเข้าหากันแอบซุบซิบนินทาขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้หันหน้าไป ก็รู้ว่าสายตาของทุกคนนั้นดูแย่ขนาดไหน เธอรู้สึกว่าตัวเองขายขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว
ถ้ารู้ก่อนว่าเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน
ชัชนันท์นังชั้นต่ำนี่ โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว
แทนไทยกคิ้วขึ้นอย่างเย็นชา หันมองหทัยอย่างลึกซึ้ง แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ยื่นแขนยาวๆออกมาโอบไหล่ของชัชนันท์เอาไว้อย่างเอาแต่ใจ"เสียงเบาเกินไป ภรรยาของผมได้ยินไม่ชัด"
เขาสีหน้าเคร่งขรึม
ในเวลานี้ ชัชนันท์รู้สึกว่าเขาดูมาดแมนสุดๆไปเลย
ความรู้สึกคับข้องใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจของเธอนั้น ก็จางหายไปจนหมดทันที
เพราะว่ามีเขาอยู่ด้วย ดังนั้นเธอก็เลยไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่มองดูเขารับบทเป็นผู้พิพากษาให้กับเธออย่างเงียบๆเท่านั้น
"แทนไทอย่าให้มันมากเกินไปนะ ถึงยังไงฉันก็อาวุโสกว่าคุณนะ"หทัยก้มหน้า กัดฟันพูดด่าออกมาเบาๆ
"......"แทนไทยกมุมปากอย่างเฉยชา สองตาจ้องมองหน้าของเธออย่างนิ่งลึก ท่าทางแน่วแน่ไม่ไหวติง
หทัยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รู้สึกว่าตัวเองอับอายขายขี้หน้าอย่างถึงที่สุดแล้ว
เธอหันไปมองแทนไทอย่างนิ่งลึก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาหันมองไปที่หน้าของชัชนันท์ พร้อมกับพูดขึ้นมาเสียงดังอย่างไม่เต็มใจ"ขอโทษ!"
เสียงนินทาของผู้คนรอบข้างยังคงดังต่อไป สายตาของผู้คนทำให้เธอไม่มีที่ให้หลบซ่อนแล้ว
ในชีวิตนี้ เธอไม่เคยอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้มาก่อน!เธอแทบจะโกรธเกลียดสามีคนนี้ของชัชนันท์จนจะตายอยู่แล้ว!
แทนไทติดกระดุมชุดสูทเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปพูดกับชัชนันท์"พวกเราไปกันเถอะ"
ชัชนันท์พยักหน้า
จากนั้นแทนไทก็กดเปิดประตูลิฟต์
ทั้งสองคนจากไป ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้คน ทิ้งเอาไว้แต่ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย
วินาทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ทั่วทุกหุนแห่งก็เริ่มกลับสู่ความสงบ
ชัชนันท์มองเขาพลางยิ้มเล็กน้อย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ขอบคุณนะคุณห้า ขอบคุณที่คุณสวมบทเป็นแทนไทสามีของฉัน แสดงได้ดีมากขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณที่คุณช่วยระบายความโกรธให้กับฉันด้วย"
ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความขอบคุณที่มีต่อเขา
"เจ็บไหม?"ปลายนิ้วของเขาสัมผัสลงบนใบหน้าที่บวมของเธอ คิ้วขมวดแน่น
"นิดหน่อย"ชัชนันท์พูดตอบ
จากนั้น ชัชนันท์ก็ส่งข้อความไปหานลิน"นลิน เตรียมลงมือได้แล้ว"
ลิฟต์เลื่อนลงล่างอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น
แค่มองตัวเลขของชั้นที่กำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
หลังจากที่มาถึงชั้นหนึ่งแล้ว เขาก็มองหาโซฟาหนังแท้สีดำในล็อบบี้ คางที่ละเอียดอ่อนยกเชิดขึ้นไปทางด้านนั้น"ไปนั่งรอผมตรงนู้นก่อน"
"ทำไมเหรอ?"ชัชนันท์พูดถาม
แต่ว่าเขานั้น? ไม่เลยสักนิด
เป็นเพราะว่าเขาไม่มีความสนใจวงการบันเทิงเลยแม้แต่นิดเดียวก็เลยเป็นแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?
แต่ว่าไม่สนใจวงการบันเทิงไม่เท่าไร ทำไมถึงไม่มีความสนใจในเงินทองขนาดนั้นกันนะ?
ในเมื่อไม่สนใจเงินทอง แล้วทำไมเขาถึงต้องไปคลุกคลีอยู่ในเส้นทางนั้นด้วยล่ะ?
"คุณนี่มันพิเศษจริงๆ"ชัชนันท์พูดขึ้น
"อย่างนั้นเหรอ?"เขาหันสายตามองไปที่ใบหน้าของเธออย่างช้าๆไม่รีบไม่เร่ง จากนั้นก็สูบบุหรี่ไปอีกหนึ่งที
"ใช่สิ ทำไมคุณถึงไม่มีความสนใจเงินจำนวนมากมายมหาศาลนี้เลยแม้แต่นิดเดียวล่ะ?"ชัชนันท์พูดขึ้น
"มากมายมหาศาล?"
"มันไม่มากหรือไง?"
"อื้อ มาก......"
"แล้วทำไมคุณถึงยังนิ่งเฉยขนาดนี้กันล่ะ?"ชัชนันท์ถาม
"ผมไม่ควรจะนิ่งเฉยเหรอ?"เขาถาม
ชัชนันท์พยักหน้า
"ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าผมจะระวังแล้วกัน"เขาพูดขึ้นต่อ
"......"
ชัชนันท์ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง ไม่เข้าใจความคิดของคนคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
เธอวางขวดน้ำแร่กับผ้าขนหนูลงจากมือเบาๆ"หน้าของฉันดีขึ้นเยอะแล้ว พวกเราไปกันก่อนเถอะ"
เขาถอดเสื้อตัวนอกออกอย่างว่องไว ก่อนจะสวมให้กับเธอ
ไม่รอให้เธอพูดอะไร เขาก็หันตัวไปก่อน ก้าวเดินตรงเข้าไปท่ามกลางลมหิมะที่เต็มไปทั่วท้องฟ้า
บนเสื้อตัวนี้มีความอบอุ่นของเขาอยู่ รู้สึกอุ่นไปทั่วทั้งตัว
รู้นิสัยของเขาดี เธอก็เลยไม่ได้พูดอะไร แค่เดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ ตามเขาฝ่าลมหิมะตลอดทั้งทาง เข้ามาในที่จอดรถชั้นใต้ดิน
ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินเข้ามาในที่จอดรถ ภายในรถตู้สีดำคันหนึ่ง ก็มีผู้ชายรูปร่างกำยำในมือถือแท่งเหล็กจำนวนหกคนลงมาจากรถ
พวกเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้ามาล้อมทั้งสองคนเอาไว้ทันที......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...