หลินไป๋หลัน นิยาย บท 64

เมิ่งซูฮวาเมื่อกลับมาถึงยังเรือนนอนก็รีบปิดประตูลงกลอน ใบหน้าที่เคยงดงามหยาดย้อยบัดนี้บูดเบี้ยวด้วยความโกรธ มือบางทั้งสองข้างคว้าผ้าห่มมาขยุ้มดึงทึ้งเพื่อระบายอารมณ์ นางอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่จวนของตน

              "คุณหนูเจ้าขา ใจเย็น ๆ ก่อนเถิดเจ้าค่ะ" ชิงลี่สาวใช้ข้างกายเอ่ย

        "เจ้าจะให้ข้าใจเย็นลงได้อย่างไรพี่เหวินหลงมีคู่หมั้นแล้วเจ้าได้ยินหรือไม่" เมิ่งซูฮวากัดฟันเอ่ยออกไป นางพยายามอดกลั้นไม่ให้แผดเสียงดังเล็ดรอดออกไป

       "ก็แค่คู่หมั้นยังมิได้ตบแต่งกันนี่เจ้าคะ คุณหนูของบ่าวงดงามเพียงใดเผลอ ๆ ท่านประมุขอาจจะเปลี่ยนมารักใคร่คุณหนูแทนก็เป็นได้" ชิงลี่เอ่ย คุณหนูของนางงดงามล่มแคว้นรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นจนสตรีทั่วทั้งแคว้นต่างอิจฉา ยิ่งบุรุษไม่ต้องพูดถึงส่งแม่สื่อมาไม่เว้นว่างแต่คุณหนูไม่สนใจผู้ใด ผูกสมัครรักใคร่ท่านประมุขหนานเพียงผู้เดียว

     "ก็จริงอย่างที่เจ้าเอ่ยข้าจะต้องได้พี่เหวินหลงมาเคียงคู่ให้ได้" เมิ่งซูฮวายืนกรานแน่วแน่ ถึงแม้จะให้นางเป็นภรรยารองก็ยอมแล้วค่อยคิดหาวิธีกำจัดนางนั่นอีกที

       เมิ่งซูฮวาเป็นสตรีที่เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและฐานะ บิดาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเหว่ย มารดาเป็นน้องสาวฮองเฮา เนื่องด้วยเมิ่งซูฮวาเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวและมีความสามารถสูงส่งเก่งทั้งด้านต่อสู้ด้วยพลังปราณที่แข็งแกร่งและมีธาตุพิเศษคือธาตุน้ำแข็งที่หาอยากซึ่งเป็นธาตุเดียวกับท่านประมุขหนานที่มีครอบครองเช่นกัน

      #ร้านน้ำชาหอมหมื่นลี้

     ตอนนี้ที่ร้านน้ำชาคนแน่นขนัดตา เพราะชาและขนมมีรสชาติอร่อยและมีหลากหลายให้เลือกลิ้มลองแถมยังมีสีสันแปลกใหม่อีก รวมถึงห้องรับรองด้านบนที่ค่าเข้านั้นแพงหูฉี่แต่ก็สวยงามสมราคาหลังจากที่ทางร้านได้เปิดให้เข้าชมห้องชมดารากับห้องสุริยาเคลื่อนคล้อยเมื่อวันเปิดร้านคนก็เข้าจองกันจนเต็มทุกวัน

            อีกหนึ่งเหตุผลที่คนทั่วเมืองเล่าลือกันเสมือนไฟลามทุ่มคือเรื่องที่คุณหนูหลินไป๋หลันเจ้าของกิจการร้านน้ำชาหอมหมื่นลี้คือคู่หมั้นของท่านประมุขหนานแห่งพรรคจันทรา ผู้คนต่างก็อยากมายลโฉมและเผื่อโชคดีอาจได้พบกับท่านประมุขแห่งพรรคจันทราอีกด้วย

"เฮ้อ..." ไป๋หลันถอนหายใจออกมาเสียงดัง

"เป็นอะไรหรือหลันหลัน" มีมี่ที่ได้ยินเสียงสหายถอนหายใจก็เอ่ยถาม

"ก็ข่าวลือที่ดังกระฉ่อนอยู่ตอนนี้ไง มันจะมีผลดีหรือผลเสียตามมาก็ไม่รู้ อันว่าปากคนยาวยิ่งกว่าปากกา ข้าไม่อยากเป็นคนดังอ่ะ" ไป๋หลันเอ่ยบอกสหายด้วยน้ำเสียงหน่ายใจ

"เอาน่า…ก็ใครใช้ให้เจ้าไปคว้าของสูงกันเล่า แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ดีอยู่นะเห็นไหมลูกค้าเต็มร้านเลย แถมยังลูกค้าชั้นบนก็มีคนเข้าใช้บริการเยอะเชียว" มีมี่เอ่ยอย่างชอบอกชอบใจที่ห้องด้านบนทำกำไรอย่างงดงาม ทั้ง ๆ ที่ค่าตกแต่งนางแทบไม่ได้เสียเงินเลยเพราะของให้สหายเสกออกมาจากโลกเดิมทั้งนั้น พวกนางไม่ได้กลัวว่าจะมีคนถามไถ่เรื่องข้าวของที่เเปลกตาเหล่านั้นเพราะถามพวกนางก็หาทางเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

"ยายคนขี้งกทั้งสองมาแอบอู้อยู่ตรงนี้เอง" เฉินหยางเอ่ยบอกน้องสาวทั้งสองปล่อยให้เขาต้อนรับลูกค้าคนเดียว

"พี่ใหญ่ ข้าอยากให้ท่านฝึกเอาไว้ให้คล่องเวลาที่ข้าและมีมี่ไม่อยู่ท่านจะได้ทำทุกอย่างได้" ไป๋หลันเอ่ย เพราะนางและมีมี่ต้องไปเข้าสำนักเซียนในเดือนหน้า

               "รู้เช่นนี้พี่ไม่ให้พวกเจ้าฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์หม่าหรอก"

"เอาน่าพี่หยาง ยุทธภพนี้ช่างกว้างไกลให้พวกข้าได้หาผู้ชาย เอ้ย!!...หาประสบการณ์ใหม่ ๆ บ้าง" มีมี่เอ่ยเย้าพี่ชายบุญธรรมโดยเน้นคำว่าผู้ชายให้ได้ยินชัด ๆ

"องค์ไท่จื่อพี่เทียนใยท่านต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วยเพคะ" ไป๋หลันเอ่ยถาม ที่นางเรียกเช่นนี้เพราะพี่เทียนบอกว่าถ้าอยู่ตามลำพังให้นางพูดคุยกับเขาเฉกเช่นคนธรรมดาเพราะมันดูสนิทสนมดี แต่นางขอพูดกับเขากลาง ๆ ดีกว่าเพราะไม่อยากตีเสมอมากนัก

"ข้าช้ำใจยิ่งนักที่เจ้ามีคู่หมั้นแล้วแต่ก็ยังโชคดีที่มีฝูงปลาพวกนี้คอยปลอบประโลมทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาก" หนานเฟยเทียนเอ่ยเย้า เขาไม่ได้เสียใจมากมายแค่ต้องการแกล้งนางเท่านั้น ถึงเขาจะไม่ได้ครอบครองในฐานะคนรัก แต่เขาก็ยังอยากจะอยู่ใกล้นางในฐานะเพื่อนหรือพี่ชายที่รักนางเสมอ

"ไท่จื่อพี่เทียนท่านลืมตาดูโลกก็มีแต่ผู้คนจับจ้องหมายปองอยากเคียงคู่กับท่านแล้วใยจึงต้องซ้ำใจกันเล่า พวกท่านทั้งสองก็เปรียบเสมือนเพื่อนและพี่ชายที่ข้ารักเสมอ มิตรภาพเช่นนี้ช่างยาวนานยิ่งนักท่านมิเห็นด้วยหรือ?" ไป๋หลันเอ่นบอกคนทั้งสอง

"เช่นนั้นเรามาดื่มให้กับมิตรภาพของพวกเราดีหรือไม่" ซิ่นเฉิงเอ่ย พร้อมกับรินน้ำชาใส่จอก

"เดี๋ยว ๆ พี่เฉิง มิตรภาพของพวกเรามันไม่ธรรมดาเช่นนั้นเราต้องดื่มอะไรที่มันไมม่ธรรมดา" ว่าแล้วนางจึงหยิบไวน์แดงออกมาหนึ่งขวดพร้อมแก้วไวน์ แล้วจัดการสอนวิธีจิบไวน์ให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่

"หืม...รสชาติไม่ธรรมดาเลยอร่อยมาก แถมวิธีกินก็แปลกประหลาด" หนานเฟยเทียนเอ่ย

"อย่าดื่มมากนะเพคะรสชาติอร่อยเช่นนี้ก็ทำให้เราหัวทิ่มได้ แล้วอีกอย่างขวดนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้นะเพคะ แต่...ถ้าไท่จื่อพี่เทียนติดใจในรสชาติสามารถซื้อที่หม่อมฉันได้โดยตรงเลย ปกติไม่ได้ขายนะแต่เห็นว่าท่านเป็นสหายเลยให้สิทธิ์พิเศษ" ไป๋หลันทำหน้าเจ้าเล่ห์ ราคาไวน์ที่แพงเเสนแพงจะมีผู้ใดเหมาะสมเท่ากับองค์ไท่จื่ออีกเล่า อิ อิ

"ตกลง" หนานเฟยเทียนจิบไวน์พร้อมกับนั่งดูฝูงปลาแหวกว่ายผ่านกระจกใสที่ตั้งติดกับผนังห้องทั้งสี่ด้านแอย่างเพลิดเพลินตายิ่งนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน