อีกห้องหนึ่งของชั้นบน
"มีมี่ใยเจ้าถึงต้องพาข้าและสหายขึ้นมาเองทำไมไม่ให้พี่เฉินหยางเป็นผู้พามา" หลี่ฟางเซียนเอ่ย นางและสหายมาดื่มชากันแต่สาเหตุหลัก ๆ คืนางออยากพบหน้าและพูดคุยกับพี่เฉินหยางมากกว่า
"ก็พี่หยางมิว่างเจ้าก็เห็น" มีมี่เอ่ย ก็พี่หยางไม่ว่างจริง ๆ นางไม่ได้โกหก
"เช่นนั้น ถ้าพี่เฉินหยางว่างให้เขามาพบข้าทีนะ ๆ ข้าอยากพบพี่เฉินหยาง" หลี่ฟางเซียนเอ่ย นางรู้ว่ามีมี่ไม่ค่อยพอใจนักที่นางมาเกาะแกะพี่ชายของนาง แต่นางไม่ได้เอ่ยปฏิเสธเวลาที่ออดอ้อนร้องขอให้ช่วย
"พวกเจ้าก็ดื่มเครื่องดื่มและของว่างรอไปก่อนประเดี๋ยวพี่หยางว่างคงจะเข้ามาเจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า..." มีมี่กลอกตามองบน ด้วยความเอือมระอาผู้หญิงอะไรหน้าด้านนักตื้ออยู่ได้
มีมี่เดินลงมาจากด้านบนเห็นพี่หยางนั่งอยู่ที่โต๊ะเก็บเงินจากนั้นจึงเอ่ย " พี่หยางคนรักของท่านอยากพบหน้านางอยู่ที่ห้องไวโอเลต"
"ใคนคือคนรักของพี่หรือ? พี่ไม่เห็นรู้ตัวเลย" เฉินหยางทำหน้างงงวยเอ่ยถามคนตรงหน้า
"หลี่ฟางเซียนนางชอบพอท่านมากท่านไม่รู้หรือ" มีมี่เอ่ย
"โอ้...เช่นนั้นหรือพี่ไม่รู้เลยแล้วพี่ควรจะรับรักนางดีหรือไม่มี่เอ๋อร์" เฉินหยางได้ทีเอาคืนน้องสาวบุญธรรม
"ชิ!!...แล้วแต่ท่านเถิด ฝากบอกหลันหลันด้วยว่าข้ากลับจวนก่อน" มีมี่เอ่ย ด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองขืนอยู่ที่ร้านต่อคงได้แสดงกิริยาไม่งามแน่
"อ้าว...เจ้าจะรีบกลับไปใยเพิ่งจะยามเซินเอง(15.00-16.59)"
"ข้าเบื่อจะกลับไปผ่อนคลายสมองเสียหน่อย" มีมี่เอ่ยพร้อมกับก้าวเท้าออกจากร้านไปทันทีด้วยความขุ่นเคือง
มีมี่เดินออกมาก็ตรงกลับจวนทันที นางไม่ได้โกรธอะไรนักหนาแค่หมั่นไส้พี่หยางเท่านั้นเอง เมื่อกลับมาถึงจวนนางก็เข้าไปทักทายท่านแม่ส่วนท่านพ่ออยู่ที่ร้านน้ำชา
มีมี่เห็นลูกน้องท่านพ่อฝึกวรยุทธ์กันอยู่ที่ลานฝึกนางจึงคิดอะไรสนุก ๆ ทำจึงสั่งให้ลูกน้องท่านพ่อยกกระดานหมากล้อมไปที่ศาลาริมสระบัว นางอยากให้ลูกน้องท่านพ่อผ่อนคลายกันบ้างและนางเองก็อยากรู้ว่าหมากล้อมเขาเล่นกันอย่างไร นางเล่นเป็นแต่หมากเก็บวันนี้อู้งานแล้วถือเสียว่าได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน
มีมี่เดินไปหยิบเครื่องดื่มและอาหารว่างยกไปที่ศาลา นางให้ลูกน้องของท่านพ่อเล่นให้ดูก่อน หลังจากศึกษาการเล่นเรียบร้อยนางจึงลองเล่นเองบ้างทุกคนล้วนสนุกสนานแบ่งพรรคแบ่งพวกพนันกันว่าใครจะชนะ...
เฉินหยางที่เดินทางกลับมาถึงจวนพร้อมกับทุกคน ก็รีบเดินหามี่เอ๋อร์ว่านางทำอะไร จนมาเจอนางนั่งเล่นกับลูกน้องท่านพ่อเสียงดังสนุกสนาน 'คงจะมีความสุขมากสินะ...เป็นสตรีคนเดียวอยู่รายล้อมด้วยบุรุษ ฮึ่ย...ต้องอบรมนางบ้างเสียแล้ว'
ยามไห่(21.00-22.59) ไป๋หลันอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนอนเสื้อกางเกงขายาวแขนยาวเพราะยุคนี้ถึงแม้ไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมแต่อากาศตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเย็นมากนางล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่นุ่มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ต้องตกใจเพราะคู่หมั้นของนางมายืนอยู่ที่ปลายเตียงตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
"พี่หลง!!ข้าตกใจแทบแย่ท่านมาไม่ให้สุ่มให้เสียง" ไป๋หลันเอ่ยบ่นพร้อมเด้งตัวขึ้นลุกจากเตียง ที่นางไม่รับรู้ว่าเขามานั้นก็เพราะด้วยพลังปราณของเขาที่อยู่ระดับเซียนขั้นสูงสุดและเขาลบตัวตนจนไม่มีใครจับสัมผัสได้เลย เขาช่างอันตรายเสียจริง ๆ บุรุษหน้าหยกผู้นี้
"เจ้าตกใจเช่นนั้นหรือพี่คงต้องปลอบใจเจ้าแล้ว" หนานเหวินหลงเอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่ของตนโอบรั้งคนตัวเล็กมาแนบอกแกร่ง
"พี่หลงท่านช่างร้ายกาจยิ่งนักทำให้ข้าตกใจแล้วมาหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ?" ไป๋หลันเอ่ย แต่ก็ยอมให้เขาโอบกอดแต่โดยดี เพราะเวลาที่เขากอดนางเช่นนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ
"เจ้าเป็นคู่หมั้นพี่แล้วพี่มีสิทธิ์ในตัวเจ้านะเสี่ยวหลัน"
"ข้าไม่เถียงท่านแล้ว เชิญใช้สิทธ์ของท่านตามสบายเถอะ" ไป๋หลันขี้เกียจเถียงเพราะรู้ว่าเขาช่างสรรหาคำมาอ้างได้อยู่ตลอด
"เจ้าพูดเองนะ..." หนานเหวินหลงที่ได้ยินคนตัวเล็กเอ่ยเช่นนั้นก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม จับร่างเล็กของนางให้นอนราบกับเตียงแล้วก้มลงจูบปากอิ่มทันที
ครานี้ไม่ใช่แค่เพียงแตะริมฝีปากเหมือนทุกครั้ง ลิ้นหนาไล่เลียริมฝีปากอิ่มพร้อมดูดดึงจนนางเผยอปากออก ลิ้นหนาไล่สำรวจโพรงน้ำหวานที่หอมกรุ่นชวนหลงใหลดูดดึงลิ้นเล็กอย่างกระหายไม่รู้อิ่ม จนนางยกมือขึ้นทุบที่อกแกร่งเขาจึงผละริมฝีปากออก
ไป๋หลันที่โดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ด้วยการกระทำที่ความอ่อนโยน ทำให้นางเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนแทบขาดอากาศหายใจจึงรีบยกมือขึ้นทุบอกคนตรงหน้าทันที นางรีบสูดอากาศเข้าปอดด้วยลมหายใจหอบถี่ แต่ยังไม่ทันได้พูดอันใดออกไปริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประกบจูบลงมาอีกครั้ง
หนานเหวินหลงติดใจความหอมหวานที่ตนโหยหาจึงไล่เลียกวาดชิมน้ำหวานจากโพรงปากเล็กอย่างดื่มด่ำเนิ่นนาน เขาชักจะติดใจขึ้นมาเสียแล้ว เขาค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ด้วยความที่ยังอยากตักตวงความหอมหวานตรงหน้าอีก
"เสี่ยวหลันใยเจ้าถึงไม่รีบโตเสียทีจะทรมานพี่ไปถึงไหนกัน" หนานเหวินหลงเอ่ยต่อว่าคู่หมั้นอย่างไม่จริงจังนัก
"ท่านรอมิได้หรือ? เช่นนั้นคงต้องหาหญิงอื่นก่อนแล้วกระมัง" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมส่งสายตาแง่งอนไปให้
"ร้านของพวกท่านสวยงามนัก แล้วห้องก็สวยงามและแปลกตายิ่งนัก ภาพวาดและข้าวของในห้องนี้มันคืออะไรหรือ'' ลู่อี้หลางผู้ชื่นชอบของแปลกตาเอ่ยถามอย่างสงสัยระคนใคร่รู้
"อ่า..." ไป๋หลันส่งเสียงของในห้องนี้มีหลายอย่างจนนางไม่รู้ว่าจะอธิบายอันไหนก่อนดี
"ภาพวาดนี้มีมี่เป็นผู้วาดเจ้าค่ะ ข้าเคยฝันถึงโลกอีกใบหนึ่งที่มีลักษะดังภาพจึงให้มีมี่วาดออกมาเจ้าค่ะ" ภาพที่ไป๋หลันกล่าวถึงคือพนังทั้งสี่ด้านจะวาดแตกต่างกันออกไป ด้านหนึ่งในเมืองกรุงเทพที่มีตึกสูงหลายชั้นถนนทางด่วนรถยนต์ ด้านอื่น ๆ ก็จะเป็นสถานที่สำคัญของแต่ละภาคที่สวยงามตามแต่คนวาดจะรังสรรค์ออกมา
"ช่างเป็นสถานที่ที่แปลกตายิ่งนักแค่มองภาพวาดยังน่าตื่นเต้นเลย" ลู่อี้หลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"แล้วข้าวของพวกนี้เล่ามาได้อย่างไรหรือ?" อู๋หลิงเซียงเองก็อยากรู้
"บนโลกนี้มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อน ท่านตาท่านยายท่องยุทธภพมาคงทราบหนึ่งในนั้นก็คือข้าเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเห็นว่าท่านทั้งสองเป็นคนดีและคู่หมั้นของนางเองก็อยู่ที่นี่ด้วยนางจึงไม่อยากโกหกผู้ที่มีพระคุณกับเขาจึงตัดสินใจเล่าความจริงตามที่นางเคยบอกกับทุกคนเอาไว้ให้ท่านทั้งสองได้ฟัง...
"ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ คราวหน้าคงต้องมาพบเจ้าอีก ตาอยากฟังเรื่องพวกนี้..." ลู่อี้หลางเอ่ยอย่างชอบใจและตื่นเต้น
"ยินดีเจ้าค่ะ"
"ที่พวกเรามาวันนี้ก็อยากจะพูดเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ เด็กทั้งสองมีใจชอบพอกันก็อยากจะหมั้นหมายเอาไว้ก่อนรอให้คุณหนูหลันพ้นวัยปักปิ่นเสียก่อนค่อยจัดงานแต่งกันท่านเห็นด้วยหรือไม่" ลู่อี้หลางเอ่ยถามเข้าเรื่องที่พวกตนเดินทางกันมาในครั้งนี้
"พวกเราทั้งสองมิขัดข้องอันใด" หลินเฉินหยวนเอ่ย เมื่อบุตรสาวตัดสินใจแล้ว บิดาเช่นเขาก็ย่อมตามใจบุตร
"เช่นนั้นอีกสามวันข้าจะให้อาหลงเป็นผู้นำสินสอดมาให้ที่จวนด้วยตนเอง" ลู่อี้หลางเอ่ย
ทั้งหมดอยู่พูดคุยกันอีกครู่ใหญ่ แล้วขอแยกตัวกลับไปในยามเซิน(15.00-16.59) ส่วนมากพูดคุยกันเรื่องที่ศูนย์หลันฮวา เรื่องโลกในฝัน และยังมีอาหารที่นางจัดเตรียมเอาไว้ให้นั่นคือสเต็กเนื้อและสเต็กปลาให้พวกท่านได้ลิ้มลอง
ส่วนมีมี่และพี่ใหญ่ต้องคอยดูแลลูกค้าที่ร้านจึงได้แต่มาทักทายแล้วจึงแยกตัวออกไป วันนี้เป็นอีกวันที่มีลูกค้าแน่นร้าน ที่ร้านมีบริการแบบใส่แก้ว ไม่สิ! ใส่กระบอกไม้ไผ่เอากลับบ้านหรือดื่มระหว่างทางก็ได้สะดวกดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...