หลินไป๋หลัน นิยาย บท 65

อีกห้องหนึ่งของชั้นบน

"มีมี่ใยเจ้าถึงต้องพาข้าและสหายขึ้นมาเองทำไมไม่ให้พี่เฉินหยางเป็นผู้พามา" หลี่ฟางเซียนเอ่ย นางและสหายมาดื่มชากันแต่สาเหตุหลัก ๆ คืนางออยากพบหน้าและพูดคุยกับพี่เฉินหยางมากกว่า

"ก็พี่หยางมิว่างเจ้าก็เห็น" มีมี่เอ่ย ก็พี่หยางไม่ว่างจริง ๆ นางไม่ได้โกหก

"เช่นนั้น ถ้าพี่เฉินหยางว่างให้เขามาพบข้าทีนะ ๆ ข้าอยากพบพี่เฉินหยาง" หลี่ฟางเซียนเอ่ย นางรู้ว่ามีมี่ไม่ค่อยพอใจนักที่นางมาเกาะแกะพี่ชายของนาง แต่นางไม่ได้เอ่ยปฏิเสธเวลาที่ออดอ้อนร้องขอให้ช่วย

"พวกเจ้าก็ดื่มเครื่องดื่มและของว่างรอไปก่อนประเดี๋ยวพี่หยางว่างคงจะเข้ามาเจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า..." มีมี่กลอกตามองบน ด้วยความเอือมระอาผู้หญิงอะไรหน้าด้านนักตื้ออยู่ได้

มีมี่เดินลงมาจากด้านบนเห็นพี่หยางนั่งอยู่ที่โต๊ะเก็บเงินจากนั้นจึงเอ่ย " พี่หยางคนรักของท่านอยากพบหน้านางอยู่ที่ห้องไวโอเลต"

"ใคนคือคนรักของพี่หรือ? พี่ไม่เห็นรู้ตัวเลย" เฉินหยางทำหน้างงงวยเอ่ยถามคนตรงหน้า

"หลี่ฟางเซียนนางชอบพอท่านมากท่านไม่รู้หรือ" มีมี่เอ่ย

"โอ้...เช่นนั้นหรือพี่ไม่รู้เลยแล้วพี่ควรจะรับรักนางดีหรือไม่มี่เอ๋อร์" เฉินหยางได้ทีเอาคืนน้องสาวบุญธรรม

"ชิ!!...แล้วแต่ท่านเถิด ฝากบอกหลันหลันด้วยว่าข้ากลับจวนก่อน" มีมี่เอ่ย ด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองขืนอยู่ที่ร้านต่อคงได้แสดงกิริยาไม่งามแน่

"อ้าว...เจ้าจะรีบกลับไปใยเพิ่งจะยามเซินเอง(15.00-16.59)"

"ข้าเบื่อจะกลับไปผ่อนคลายสมองเสียหน่อย" มีมี่เอ่ยพร้อมกับก้าวเท้าออกจากร้านไปทันทีด้วยความขุ่นเคือง

มีมี่เดินออกมาก็ตรงกลับจวนทันที นางไม่ได้โกรธอะไรนักหนาแค่หมั่นไส้พี่หยางเท่านั้นเอง เมื่อกลับมาถึงจวนนางก็เข้าไปทักทายท่านแม่ส่วนท่านพ่ออยู่ที่ร้านน้ำชา

มีมี่เห็นลูกน้องท่านพ่อฝึกวรยุทธ์กันอยู่ที่ลานฝึกนางจึงคิดอะไรสนุก ๆ ทำจึงสั่งให้ลูกน้องท่านพ่อยกกระดานหมากล้อมไปที่ศาลาริมสระบัว นางอยากให้ลูกน้องท่านพ่อผ่อนคลายกันบ้างและนางเองก็อยากรู้ว่าหมากล้อมเขาเล่นกันอย่างไร นางเล่นเป็นแต่หมากเก็บวันนี้อู้งานแล้วถือเสียว่าได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน

มีมี่เดินไปหยิบเครื่องดื่มและอาหารว่างยกไปที่ศาลา นางให้ลูกน้องของท่านพ่อเล่นให้ดูก่อน หลังจากศึกษาการเล่นเรียบร้อยนางจึงลองเล่นเองบ้างทุกคนล้วนสนุกสนานแบ่งพรรคแบ่งพวกพนันกันว่าใครจะชนะ...

เฉินหยางที่เดินทางกลับมาถึงจวนพร้อมกับทุกคน ก็รีบเดินหามี่เอ๋อร์ว่านางทำอะไร จนมาเจอนางนั่งเล่นกับลูกน้องท่านพ่อเสียงดังสนุกสนาน 'คงจะมีความสุขมากสินะ...เป็นสตรีคนเดียวอยู่รายล้อมด้วยบุรุษ ฮึ่ย...ต้องอบรมนางบ้างเสียแล้ว'

ยามไห่(21.00-22.59) ไป๋หลันอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนอนเสื้อกางเกงขายาวแขนยาวเพราะยุคนี้ถึงแม้ไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมแต่อากาศตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเย็นมากนางล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่นุ่มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ต้องตกใจเพราะคู่หมั้นของนางมายืนอยู่ที่ปลายเตียงตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

               "พี่หลง!!ข้าตกใจแทบแย่ท่านมาไม่ให้สุ่มให้เสียง" ไป๋หลันเอ่ยบ่นพร้อมเด้งตัวขึ้นลุกจากเตียง ที่นางไม่รับรู้ว่าเขามานั้นก็เพราะด้วยพลังปราณของเขาที่อยู่ระดับเซียนขั้นสูงสุดและเขาลบตัวตนจนไม่มีใครจับสัมผัสได้เลย เขาช่างอันตรายเสียจริง ๆ บุรุษหน้าหยกผู้นี้

                "เจ้าตกใจเช่นนั้นหรือพี่คงต้องปลอบใจเจ้าแล้ว" หนานเหวินหลงเอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่ของตนโอบรั้งคนตัวเล็กมาแนบอกแกร่ง

"พี่หลงท่านช่างร้ายกาจยิ่งนักทำให้ข้าตกใจแล้วมาหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ?" ไป๋หลันเอ่ย แต่ก็ยอมให้เขาโอบกอดแต่โดยดี เพราะเวลาที่เขากอดนางเช่นนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ

               "เจ้าเป็นคู่หมั้นพี่แล้วพี่มีสิทธิ์ในตัวเจ้านะเสี่ยวหลัน" 

               "ข้าไม่เถียงท่านแล้ว เชิญใช้สิทธ์ของท่านตามสบายเถอะ" ไป๋หลันขี้เกียจเถียงเพราะรู้ว่าเขาช่างสรรหาคำมาอ้างได้อยู่ตลอด

                "เจ้าพูดเองนะ..." หนานเหวินหลงที่ได้ยินคนตัวเล็กเอ่ยเช่นนั้นก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม จับร่างเล็กของนางให้นอนราบกับเตียงแล้วก้มลงจูบปากอิ่มทันที

ครานี้ไม่ใช่แค่เพียงแตะริมฝีปากเหมือนทุกครั้ง ลิ้นหนาไล่เลียริมฝีปากอิ่มพร้อมดูดดึงจนนางเผยอปากออก ลิ้นหนาไล่สำรวจโพรงน้ำหวานที่หอมกรุ่นชวนหลงใหลดูดดึงลิ้นเล็กอย่างกระหายไม่รู้อิ่ม จนนางยกมือขึ้นทุบที่อกแกร่งเขาจึงผละริมฝีปากออก 

      ไป๋หลันที่โดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ด้วยการกระทำที่ความอ่อนโยน ทำให้นางเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนแทบขาดอากาศหายใจจึงรีบยกมือขึ้นทุบอกคนตรงหน้าทันที นางรีบสูดอากาศเข้าปอดด้วยลมหายใจหอบถี่ แต่ยังไม่ทันได้พูดอันใดออกไปริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประกบจูบลงมาอีกครั้ง

     หนานเหวินหลงติดใจความหอมหวานที่ตนโหยหาจึงไล่เลียกวาดชิมน้ำหวานจากโพรงปากเล็กอย่างดื่มด่ำเนิ่นนาน เขาชักจะติดใจขึ้นมาเสียแล้ว เขาค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ด้วยความที่ยังอยากตักตวงความหอมหวานตรงหน้าอีก

       "เสี่ยวหลันใยเจ้าถึงไม่รีบโตเสียทีจะทรมานพี่ไปถึงไหนกัน" หนานเหวินหลงเอ่ยต่อว่าคู่หมั้นอย่างไม่จริงจังนัก 

             "ท่านรอมิได้หรือ? เช่นนั้นคงต้องหาหญิงอื่นก่อนแล้วกระมัง" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมส่งสายตาแง่งอนไปให้ 

"ร้านของพวกท่านสวยงามนัก แล้วห้องก็สวยงามและแปลกตายิ่งนัก ภาพวาดและข้าวของในห้องนี้มันคืออะไรหรือ'' ลู่อี้หลางผู้ชื่นชอบของแปลกตาเอ่ยถามอย่างสงสัยระคนใคร่รู้

"อ่า..." ไป๋หลันส่งเสียงของในห้องนี้มีหลายอย่างจนนางไม่รู้ว่าจะอธิบายอันไหนก่อนดี

"ภาพวาดนี้มีมี่เป็นผู้วาดเจ้าค่ะ ข้าเคยฝันถึงโลกอีกใบหนึ่งที่มีลักษะดังภาพจึงให้มีมี่วาดออกมาเจ้าค่ะ" ภาพที่ไป๋หลันกล่าวถึงคือพนังทั้งสี่ด้านจะวาดแตกต่างกันออกไป ด้านหนึ่งในเมืองกรุงเทพที่มีตึกสูงหลายชั้นถนนทางด่วนรถยนต์ ด้านอื่น ๆ ก็จะเป็นสถานที่สำคัญของแต่ละภาคที่สวยงามตามแต่คนวาดจะรังสรรค์ออกมา

"ช่างเป็นสถานที่ที่แปลกตายิ่งนักแค่มองภาพวาดยังน่าตื่นเต้นเลย" ลู่อี้หลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

"แล้วข้าวของพวกนี้เล่ามาได้อย่างไรหรือ?" อู๋หลิงเซียงเองก็อยากรู้

"บนโลกนี้มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อน ท่านตาท่านยายท่องยุทธภพมาคงทราบหนึ่งในนั้นก็คือข้าเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเห็นว่าท่านทั้งสองเป็นคนดีและคู่หมั้นของนางเองก็อยู่ที่นี่ด้วยนางจึงไม่อยากโกหกผู้ที่มีพระคุณกับเขาจึงตัดสินใจเล่าความจริงตามที่นางเคยบอกกับทุกคนเอาไว้ให้ท่านทั้งสองได้ฟัง...

"ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ คราวหน้าคงต้องมาพบเจ้าอีก ตาอยากฟังเรื่องพวกนี้..." ลู่อี้หลางเอ่ยอย่างชอบใจและตื่นเต้น

"ยินดีเจ้าค่ะ"

"ที่พวกเรามาวันนี้ก็อยากจะพูดเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ เด็กทั้งสองมีใจชอบพอกันก็อยากจะหมั้นหมายเอาไว้ก่อนรอให้คุณหนูหลันพ้นวัยปักปิ่นเสียก่อนค่อยจัดงานแต่งกันท่านเห็นด้วยหรือไม่" ลู่อี้หลางเอ่ยถามเข้าเรื่องที่พวกตนเดินทางกันมาในครั้งนี้

"พวกเราทั้งสองมิขัดข้องอันใด" หลินเฉินหยวนเอ่ย เมื่อบุตรสาวตัดสินใจแล้ว บิดาเช่นเขาก็ย่อมตามใจบุตร

"เช่นนั้นอีกสามวันข้าจะให้อาหลงเป็นผู้นำสินสอดมาให้ที่จวนด้วยตนเอง" ลู่อี้หลางเอ่ย

ทั้งหมดอยู่พูดคุยกันอีกครู่ใหญ่ แล้วขอแยกตัวกลับไปในยามเซิน(15.00-16.59) ส่วนมากพูดคุยกันเรื่องที่ศูนย์หลันฮวา เรื่องโลกในฝัน และยังมีอาหารที่นางจัดเตรียมเอาไว้ให้นั่นคือสเต็กเนื้อและสเต็กปลาให้พวกท่านได้ลิ้มลอง

ส่วนมีมี่และพี่ใหญ่ต้องคอยดูแลลูกค้าที่ร้านจึงได้แต่มาทักทายแล้วจึงแยกตัวออกไป วันนี้เป็นอีกวันที่มีลูกค้าแน่นร้าน ที่ร้านมีบริการแบบใส่แก้ว ไม่สิ! ใส่กระบอกไม้ไผ่เอากลับบ้านหรือดื่มระหว่างทางก็ได้สะดวกดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน