#พรรคจันทรา
เมิ่งซูฮวาที่เอ่ยปฏิเสธการชักชวนของท่านยายหลิงที่จะเดินทางไปยังร้านน้ำชาหอมหมื่นลี้ นางจะหน้าหนาไปได้เช่นไร ดูก็รู้ว่าพวกเขาชักชวนตามมารยาทก็เท่านั้น นางใช้ให้เงาที่ติดตามมาไปสืบความเรื่องของสตรีผู้นั้น และเงาของนางก็กลับมารายงานว่า สตรีผู้นั้นเป็นบุตรสาวของอดีตแม่ทัพหลินเฉินหยวนที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียพลังไปทั้งหมด และตัวของหลินไป๋หลันเองก็มีร่างกายอ่อนแอป่วยไข้บ่อยครั้งจึงไม่เคยไปตรวจวัดพลังธาตุ ทั้งหมดเดินทางออกจากเมืองหลวงไปเมื่อหลายปีก่อนเพื่อหาหมอรักษาอดีตแม่ทัพและเพิ่งกลับเข้าเมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้
"ฮึ...สตรีด้อยค่าเช่นนั้นไม่คู่ควรกับพี่เหวินหลงเลยสักนิด" เมิ่งซูฮวาแค่นเสียงสูงออกมาอย่างเย้ยหยัน
"นั่นสิเจ้าคะ เทียบกับคุณหนูมิได้เลยสักอย่าง แล้วเราจะทำเช่นไรต่อเจ้าคะ" ชิงลี่เอ่ยถามคุณหนูของตนอย่างสงสัย
"ข้าจะให้เงาปลอมตัวไปปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับข้าที่เป็นว่าที่คู่หมั้น" เมิ่งซูฮวาเอ่ยถึงแผนการของตนให้สาวใช้ข้างกายฟัง นี่เพียงแค่เริ่มต้นเบา ๆ เท่านั้น
"คุณหนูของบ่าวช่างฉลาดยิ่งนักเจ้าค่ะ" ชิงลี่เอ่ยชื่นชมผู้เป็นนาย
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยเมิ่งซูฮวาก็สั่งให้เงารีบไปจัดการตามแผนทันที แผนนี้คงทำให้พวกมันร้อนรนได้ไม่มากก็น้อย อย่างเช่นที่นางเป็นอยู่ในตอนนี้...
#เช้าวันต่อมาจวนสกุลหลิน
วันนี้เฉินหยวนต้องเข้าวังตามพระประสงค์ขององค์ฮ่องเต้ ส่วนไป๋หลัน เฉินหยางและมีมี่ก็เดินทางไปที่ร้านตามปกติ ระหว่างเดินทางมาทั้งสามได้ยินชาวบ้านจับกลุ่มซุบซิบกันว่าไป๋หลันแย่งคู่หมั้นคนอื่นบ้าง เป็นคนไร้ค่าไม่คู่ควรกับท่านประมุขหนานที่เป็นถึงโอรสของฮ่องเต้ และเรื่องซุบซิบอีกหลาย ๆ อย่างที่ดังผ่านเข้าหูมา
เมื่อมาถึงร้านหอมหมื่นลี้ในยามซื่อ(9.00-10.59)ก็มีลูกค้ามานั่งกันหลายโต๊ะแล้ว ไป๋หลันเดินเข้ามาภายในร้าน ลูกค้าในร้านต่างมองและหันไปซุบซิบกันคงไม่พ้นเรื่องที่นางได้ยินมาระหว่างทางเป็นแน่
"หลันหลัน ชาวบ้านต่างพูดคุยกันเสียสนุกปากเลยทั้งที่ไม่เป็นเรื่องจริงแท้ ๆ เจ้าไหวหรือไม่ ไปพักผ่อนด้านบนก่อนเถอะทางนี้ข้าและพี่หยางจะดูแลเอง" มีมี่เอ่ยบอกสหายด้วยความห่วงใย นางกลัวว่าสหายจะเครียดจึงอยากให้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง
"ข้าแค่ตกใจว่ามีข่าวลือพวกนี้ได้อย่างไรก็เท่านั้นข้าไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายเสียหน่อย" ไป๋หลันเอ่ยเสียงเรียบ ไม่สนว่าใครจะนินทาเพราะมันไม่ใช่ความจริง เออ...ถ้าเรื่องจริงค่อยว่าไปอย่าง
"หลันเอ๋อร์เจ้าไปพักด้านบนเถิดอยู่ตรงนี้มีแต่จะทำให้เจ้าคิดมากเอาได้" เฉินหยางเอ่ยบอกน้องสาว เพราะลูกค้าในร้านเอาแต่มองมาทางนาง
"ถ้ามันทำให้ทั้งสองคนสบายใจข้าไปพักก็ได้ ข้าจะเปิดห้องชมดาราก็แล้วกันข้าอยากนอนดูดาวเสียหน่อย"
"ตามใจเจ้าเถิด ข้าให้เจ้าพักเต็มที่เลย...หนึ่งวัน" มีมี่เอ่ยบอกสหายพร้อมยกยิ้มหน้าบาน
'ถุย...วันเดียวเองยายคนขี้งกเอ๊ย...' ไป๋หลันสบถในใจ
# วังหลวง ห้องทรงงานขององค์ฮ่องเต้
"ขอประทานอภัยพะยะค่ะฝ่าบาท ท่านหลินเฉินหยวนรออยู่ด้านนอกแล้วพะยะค่ะ" ลี่กงกงเอ่ย
"เชิญเข้ามาได้"
"ถวายพระพรฝ่าบาทขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปีพะยะค่ะ" หลินเฉินหยวนคุกเข่าแล้วเอ่ยเคารพผู้ปกครองแคว้น
"ลุกขึ้นเถิดท่านอดีตแม่ทัพหลินเฉินหยวน"
"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะฝ่าบาท"
เขาไม่อาจเข้าวุ่นวายกับกับโอรสของเขาเรื่องการเลือกคู่ครองหรือแม้แต่เรื่องอื่น ๆ ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ แต่เรื่องนี้มันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของแคว้นและตัวของประมุขหนาน เขาจึงต้องหาทางทำให้คนที่จะมาเป็นคู่ครองนั้น เป็นที่ยอมรับของทุกคน มิใช่เป็นบุคลที่ไร้ค่าไร้ความสามารถเช่นนี้ ฮ่องเต้ครุ่นคิดเพียงครู่ก็พลันนึกขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง
"เอาเช่นนี้เราจะให้ท่านสร้างผลงานช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ องค์ไท่จื่อเสนอฎีกานี้ขึ้นมาที่โถงประชุม แต่มิมีผู้ใดอาสาทำมันได้เลยปัญหานี้กินระยะเวลามายาวนานและลองทำกันมาหลายวิธีแล้วก็ไม่สามารถจัดการได้" ฮ่องเต้ตัดสินใจยกฎีกาขององค์ไท่จื่อขึ้นมา ถึงแม้มันจะไม่ง่ายเลยที่จะทำมันสำเร็จหรืออาจจะไม่สำเร็จก็ได้ แต่มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยให้สกุลหลินสร้างชื่อเสียงและทำให้เป็นที่ยอมรับของชาวบ้านได้
"..." หลินเฉินหยวนได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ องค์ไท่จื่อยื่นฎีกาเรื่องจัดการปัญหาคนเร่ร่อน ขอทานเช่นนั้นหรือ? แล้วมิใช่ว่าองค์ไท่จื่อเห็นสกุลหลินทำที่เมืองหนานเหอหรอกหรือ? แล้วองค์ฮ่องเต้มิทรงทราบเรื่องนี้?
"เรารู้ว่าเรื่องนี้อาจจะยากเสียหน่อย เราจะมอบที่ดินติดกำแพงเมืองทิศใต้จำนวนหนึ่งร้อยไร่สำหรับทำผลงานนี้ และเงินสนับสนุนท่านอีกจำนวนหนึ่งตกลงหรือไม่" ฮ่องเต้เอ่ยเมื่อเห็นว่าบุคลตรงหน้ามีสีหน้าย่ำแย่เป็นใครก็ต้องทำสีหน้าเช่นนี้เหมือนกันเพราะเรื่องนี้ถือว่ายากมากที่จะจัดการสำเร็จลุล่วง
"ตกลงพะยะค่ะ แต่…กระหม่อมมีข้อตกลงหนึ่งอย่างถ้าจัดการเรื่องนี้สำเร็จ" หลินเฉินหยวนคิด จะไม่ตกลงได้อย่างไรในเมื่อฝ่าบาทเสนอมาเช่นนี้แล้ว แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันเสียหน่อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายภาคหน้า
"ข้อตกลงอันใดหรือ? ท่านกล่าวมาได้เลย''
"ศูนย์แห่งนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคนสกุลหลินห้ามผู้ใดมีอำนาจสั่งการหรือแทรกแซงได้พะย่ะค่ะ" s]boเฉินหยวนเอ่ย ที่เขาขอก็เพราะกลัวว่าจะมีผู้ไม่หวังดีเข้าหาผลประโยชน์จากสถานที่แห่งนี้ได้ ต้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาปวดหัวเอามีหลัง
"เอาเช่นนั้นก็ได้ เราให้สิทธ์ท่านดูแลเพียงผู้เดียวขอให้ท่านทำมันสำเร็จก็พอ" ฮ่องเต้ตอบตกลงทันที เพราะรู้จักบุคคลตรงหน้าเป็นอย่างดีเขาเป็นซื่อตรงไม่คดโกงย่อมไว้ใจได้
"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะฝ่าบาท" นี่ถ้าบุตรสาวของเขารู้นางจะทำเช่นไร เพิ่งจะสร้างศูนย์ที่เมืองหนานเหอเสร็จเรียบร้อยเอง ถ้าจะให้เขาเดานางคงดีใจที่ได้ที่ดินและเงินมาโดยไม่ต้องชักเนื้อแถมยังได้ช่วยเหลือชาวบ้านอีกต่างหาก
"อ้อ...เราจะให้องค์ไท่จื่อคอยช่วยเหลือท่านในฐานะผู้ยื่นฎีกานี้ เราหมดธุระแล้วเชิญท่านเฉินหยวน"
"ขอบพระทัยฝ่าบาทข้ากระหม่อมทูลลาพะย่ะค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...